เดือดร้อนควายอย่างหนัก หลังป่าพรุถูกน้ำเค็มทะเลสาบสงขลารุก หญ้าตาย

ฝูงควายเดือดร้อนอย่างหนัก หลัง’ป่าพรุน้อย’ถูกน้ำเค็มจากทะเลสาบสงขลารุก แล้งรุนแรงสุดในรอบร้อยปี ทำน้ำในพรุเค็มจัด หญ้าตาย ควายไม่มีอาหาร

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพของฝูงควายที่เกษตรกรในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เลี้ยงเอาไว้เพื่อการอนุรักษ์ ที่กำลังอดอาหารมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน หลังจากน้ำเค็มในทะเลสาบสงขลา รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่พรุน้ำน้อย ที่มีเนื้อที่กว่า 4 พันไร่ จนทำให้น้ำในพรุเค็ม หญ้าเหี่ยวเฉาแห้งตาย สัตว์น้ำ ทั้งปลา ปู หอยขม ตายเกือบทั้งหมด ควายที่เลี้ยงเอาไว้ก็ขาดทั้งหญ้าและน้ำจืด ทำให้มีอาการผอมโซ โดยการที่น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในพรุแห่งนี้นั้นถือเป็นปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะที่ผ่านมานั้น แม้จะมีน้ำเค็มเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่ถึงพื้นที่พรุน้ำน้อย ซึ่งชาวบ้านบอกว่าได้อดทนมานาน แต่ก็ไม่ได้มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขปัญหา ทั้งที่ผู้นำชุมชนก็รู้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในพื้นที่ตำบลน้ำน้อยนั้น มีการเลี้ยงควายทั้งเพื่ออนุรักษ์ และ เพื่อธุรกิจ ไม่น้อยกว่า 500 ตัว โดยเป็นการเลี้ยงในพรุน้ำน้อย นอกจากนั้น เกษตรกรในตำบลคูเต่า และ ตำบลคลองแห อ.หาดใหญ่ ซึ่งก็มีพื้นที่พรุน้ำน้อยเช่นเดียวกัน ก็เลี้ยงควายเช่นเดียวกัน โดยนอกจากควายจะเดือดร้อนจากปัญหาน้ำเค็มจากทะเลสาบสงขลารุกล้ำพื้นที่น้ำจืดแล้ว ก็ยังมีโค รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก ที่อาศัยน้ำจากพรุน้ำน้อย ต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้างอีกด้วย

นายจิระศักดิ์ มีสวน เกษตรกรผู้เลี้ยงโค หมู่ 2 ตำบลน้ำน้อยบอกว่า ตนเองเลี้ยงควายเพื่อการอนุรักษ์อยู่ 50 ตัว ในขณะที่จำนวนควายทั้งหมดในพื้นที่นี้มีไม่น้อยกว่า 1 พันตัว แล้วยังมีฝูงโค ที่ส่วนใหญ่จะเลี้ยงกันเอาไว้ในพรุน้ำน้อย แต่ปัญหาน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้ามาในพรุปีนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด ในรอบ 100 ปี ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะนี้ควายอดหญ้า เพราะหญ้าถูกน้ำเค็มเข้ามาทำให้แห้งตาย น้ำที่เคยกินได้ ตอนนี้ลองชิมดูก็รู้ว่าเป็นน้ำเค็ม ทำให้ควาย โค กินไม่ได้ จึงอดน้ำ เกษตรกรที่ปลูกผักบุ้งเอาไว้ ก็ขาดทุนเพราะผักบุ้งก็ตาย คนที่เคยหาปลาในพรุ ไปกิน ไปขาย กว่า 1เดือนแล้วที่ไม่มีรายได้จากพรุ เลย ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มองว่าหากจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ควรจะมีการปิดกั้นประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามา ซึ่งมองว่าเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานปล่อยปละละเลยอย่างมาก ทำให้น้ำเค็มเข้ามารุกล้ำพื้นที่น้ำจืด สร้างความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง และหากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ก็จะสร้างปัญหาระยะยาว ดินเปรี้ยว ดินเค็ม ต่อไปหญ้าในพรุก็จะไม่มี เกษตรกรจะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งยื่นมือเข้ามาแก้ไข

“คิดว่าหากยังให้อดหญ้าต่อไปอีก 15 วัน ก็จะยิ่งสร้างปัญหา ขณะนี้ควายผอมโซ แต่หากยังอดหญ้า อดน้ำ ก็จะทำให้ล้มป่วยและตายได้ ในส่วนของรายที่เลี้ยงเอาไว้เพื่อขายนั้น ก็จะทำให้ราคาลดลง ประสบปัญหาขาดทุน เพราะเมื่อผอมโซแล้ว กว่าจะฟื้นตัวก็จะต้องใช้เวลานานทีเดียว”นายจิระศักดิ์กล่าวและว่า เมื่อจะพยายามต้อนฝูงควายไปหากินไกลขึ้น ในจุดที่น้ำเค็มเข้าไปไม่ถึงหรือเข้ามาน้อยก็ทำได้ยาก เพราะควายจะกินในปริมาณมากซึ่งไม่เพียงพอ

Advertisement

นายสัตวแพทย์กิตติกรณ์ เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า เพิ่งได้รับรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image