กรณีผู้ปกครองรายหนึ่งร้องเรียนกับทางนางปวีณา หงสกุลว่าลูกสาวคนโตอายุ33ปี พร้อมหลานชายอายุ10 ขวบและหลานสาวอายุ6ขวบถูกน้าสาวอายุ31ปีซึ่งเป็นลูกสาวคนรองของตนใช้น้ำกรดสาดได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยลูกสาวคนโตกับลูกสาวคนรองมีปัญหาทะเลาะกันมาหลายสิบปีแล้ว เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมาท้องที่สน.ร่มเกล้า ตามที่มีการนำเสนอข่าวไป
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มีนาคม ที่รพ.สิรินธร ซอยอ่อนนุช 90 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ นางปวีณา พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผบก.น.3, พนักงานสอบสวนสน.ร่มเกล้าเข้าเยี่ยมอาการของลูกสาวคนโตผู้บาดเจ็บซึ่งพักรักษาตัวที่รพ.แห่งนี้
นางปวีณา เผยว่า หลังจากเข้าเยี่ยมตัวลูกสาวคนโต พบว่าบาดแผลจากการถูกน้ำกรดสาดที่หน้ายังแฉะอยู่ คงต้องรักษาตัวสักระยะ โดยที่ตาข้างซ้ายนั้นปิด ทางหมอจะดูให้ละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนหลานชายอาการดีขึ้นแล้วและพักรักษาตัวที่รพ.จุฬาลงกรณ์ แต่ทางหลานสาวนั้นอาการยังสาหัส ตาสองข้างอาจมีปัญหา พักรักษาตัวที่รพ.เด็ก ตอนนี้เราห่วงใยสภาพจิตใจของผู้บาดเจ็บและจะใช้เวลารักษานานเพียงใด ตนจะประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาดูแลเรื่องนี้ พร้อมประสานทางกระทรวงยุติธรรมให้มาดูเรื่องสิทธิของผู้บาดเจ็บ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ไปตรวจที่เกิดเหตุห้องเช่าเลขที่330/28 ชั้น 1 อาคารเคหะร่มเกล้า 10 ซึ่งตั้งอยู่หลังตลาดเกรียงไกร ภายในห้องพบร่องรอยเศษซากน้ำกรด และร่องรอยข้าวของกระจุยกระจายในห้องดังกล่าว
ทางแม่และยายของผู้บาดเจ็บเผยว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 4 มีนาคม ตอนตี 3 กว่า ๆ ตนหลับอยู่ในห้องพร้อมลูกสาวคนโต คนรองและหลาน2 คน โดยลูกสาวคนรองที่ก่อเหตุนอนด้านนอกสุด คั่นด้วยตนและหลาน ส่วนลูกคนโตนอนด้านใน จังหวะนั้นตนสะดุ้งตื่น เพราะหลานสาวคนเล็กบอก ระวังน้ำกรด ตนตื่นก็ถามหลานสาวน้ำกรดอะไร หลานสาวบอกจึงบอกน้าสาวสาดน้ำกรดใส่
หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุ ก็หนีไป ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนก็เข้าห้องน้ำไปล้างตัว ตนจึงขอความช่วยเหลือไป จึงมีคนมาพาลูกกับหลานส่งรพ. ตนห่วงผู้บาดเจ็บทั้ง3คนจะตาบอด ทั้งนี้ตนอยากให้ลูกคนรองมารับผิดชอบ เพราะถึงเป็นลูกก็รับไม่ได้ ทำร้ายจิตใจตน ลูกหลานขนาดนี้ อยากให้คดีนี้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้โดยไว ตนก็อยากรู้ว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร เพราะตนก็ไม่ทราบสาเหตุจริง ๆ แต่มีช่วงวัยเด็กอายุ 10 กว่าปี พี่สาวเคยเอาหม้อโขกหัวหลังจากนั้นทั้งสองพี่น้องก็ไม่ได้คุยกัน ตนก็พยายามจะประสานทั้งสองเสมอ แต่สองพี่น้องก็ไม่ยอมคุยกันเสียที
ทั้งนี้ลูกคนรองออกจากครอบครัวไปตอนอายุ 18 ปี แล้วกลับมาหาตนตอนอายุ 21 ปี แล้วก็หายไปอีก พึ่งจะกลับมาได้ไม่นาน ก่อนหน้านี้ก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน ถึงอย่างไรตนก็พร้อมให้อภัย เพราะอย่างไรก็เป็นลูกอยู่เสมอ
ด้านพ.ต.อ.รัฐศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ตนสั่งการให้พนักงานสอบสวนมาสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง3คนแล้ว ตามขั้นตอนการขอหมายจับต่อศาลนั้น จะต้องสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อนพร้อมดูเรื่องบาดแผลเป็นองค์ประกอบ เท่าที่ตนประเมินเบื้องต้น พบว่าบาดแผลของลูกสาวคนโตที่หน้ามีเสียหายกว่า 90% ลักษณะบาดแผลแบบนี้ ตำรวจสามารถตั้งข้อหาพยายามฆ่าได้เลย หากศาลอนุญาตออกหมายจับ ก็จะระดมฝ่ายสืบสวนเพื่อทำการจับกุมลูกสาวคนรองผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
