สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นบทพิสูจน์ความทรงพลังของลัทธิชาตินิยม

อุดมการณ์ทางการเมือง (political ideology) คือชุดของอุดมคติทางจริยธรรม, หลักการ, หลักนิยม, ตำนาน หรือสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวทางสังคม, สถาบัน, ชนชั้น หรือกลุ่มคนจำนวนมาก ที่ชี้ทางให้สังคมควรดำเนินการและเสนอรูปแบบทางการเมืองและวัฒนธรรมเพื่อสร้างระเบียบทางสังคมขึ้นใหม่

อุดมการณ์ทางการเมืองนี้มักลงท้ายด้วยคำว่า “ism” ซึ่งแปลเป็นไทยว่านิยมเช่น อำนาจนิยม พาณิชย์นิยม เสรีนิยม ทุนนิยม สังคมนิยม ชาตินิยม ฯลฯ ทั้งนี้ ในบรรดาอุดมการณ์ทางการเมืองที่ยากที่สุดที่จะให้คำจำกัดความเนื่องจากคำว่าชาติ (nation) นั้นโดยทั่วไปแล้วมักตีความกันว่าเป็นชุมชนที่มีคุณสมบัติอย่างเดียวกันร่วมกันหลายประการ อาทิ ภาษา ประวัติศาสตร์ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมและหรือสังคมร่วมกันและที่สำคัญคือต้องมีจินตนาการร่วมกันด้วยว่าเป็นพวกเดียวกันซึ่งจินตนาการจัดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของอุดมการณ์ชาตินิยมเพราะเป็นแรงดึง (pull) คนเข้าร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ยกตัวอย่างเช่นประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้ชื่อว่าเป็นชาติของพวกอพยพซึ่งชาวอเมริกันประกอบด้วยชนชาติต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกที่มีภาษา ประวัติศาสตร์ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ให้เข้ามารวมกันและมีจินตนาการร่วมกันว่าทุกคนเป็นคนอเมริกัน

ในขณะที่คุณสมบัติอื่นๆ เช่น ภาษา ประวัติศาสตร์ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม มักจะเป็นแรงผลัก (push) ก่อให้เกิดการแตกแยกทำให้เกิดความรู้สึกในการเป็นคนละพวก คนละชาติ ซึ่งมักทำให้ประเทศทั้งหลายแตกแยกออกจากกัน หลายครั้งที่ต้องฆ่าฟันกันเองเพื่อที่จะแยกตัวออกมาตั้งเป็นรัฐชาติเอกเทศ ซึ่งในช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นรัฐชาติที่แตกแยกออกจากกันแทบนับไม่ถ้วน อาทิ สหภาพโซเวียต เช็กโกสโลวาเกีย ยูโกสลาเวีย ซูดาน เอธิโอเปีย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม อุดมการณ์ชาตินิยมจัดว่าเป็นอุดมการณ์ทางการเมืองที่ทรงพลังมากที่สุดอุดมการณ์หนึ่งเลยทีเดียว จากตัวอย่างที่เห็นจากโลกที่เคยเต็มไปด้วยอาณานิคมของประเทศทางตะวันตกในทุกทวีปนับรวมแล้วกว่าร้อยประเทศในช่วงเวลาที่ไม่ถึง 80 ปีที่ผ่านมาต้องถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราชด้วยพลังของจินตนาการชาตินิยมทั้งสิ้น

Advertisement

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเมื่อ 46 ปีที่ผ่านมา ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นประเทศด้อยพัฒนาสามารถทำการรบขับไล่ประเทศมหาอำนาจฝรั่งเศสและประเทศอภิมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศได้สำเร็จ และสามารถสถาปนาเอกราชให้แก่ประเทศเวียดนามได้อย่างสง่างามก็ด้วยพลังจินตนาการชาตินิยมเป็นส่วนสำคัญ โดยชาวเวียดนามจำนวนมากยอมเสียสละแม้ชีวิตเพื่อพลังจินตนาการชาตินิยมโดยแท้

สำหรับสงครามรัสเซียยูเครนที่เริ่มต้นด้วยการบุกโจมตีของกองกำลังรัสเซียเข้าสู่ยูเครนทุกด้านตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีนี้ เป็นที่คาดหมายโดยทั่วไปว่ารัสเซียจะได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วโดยสามารถยึดครองยูเครนได้ทั้งประเทศในเวลาไม่กี่สัปดาห์สอดคล้องกับการที่สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ (The International Institute for Strategic Studies ,IISS) ซึ่งเป็นสถาบันที่ศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศอันเก่าแก่ก่อตั้งตั้งแต่ พ..2501 มีชื่อเสียงเป็นที่เชื่อถือทั่วโลก เปิดเผยข้อมูลเปรียบเทียบแสนยานุภาพของกองทัพยูเครนและรัสเซียเอาไว้ดังนี้

งบประมาณทางการทหาร : ยูเครน ใช้งบประมาณกระทรวงกลาโหมเมื่อปี พ..2564 ไปทั้งสิ้น 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเพียง 1 ใน 10 ของงบประมาณกลาโหมของรัสเซีย ที่ใช้ไป 45,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีเดียวกัน

Advertisement

สำหรับกำลังทหาร : รัสเซียมีนายทหารประจำการอยู่ในขณะเริ่มสงครามจำนวนทั้งสิ้น 900,000 นาย ในกองทัพ และมีกำลังสำรองอีก 2 ล้านนาย ขณะที่ยูเครน มีกำลังพลประจำการเพียง 196,000 นาย และมีกำลังสำรอง 900,000 นาย สำหรับกำลังพลภาคพื้นดินของกองทัพบก รัสเซียได้เปรียบยูเครนถึง 2 เท่า ด้วยจำนวนนายทหาร 280,000 นาย ขณะที่ยูเครนมีเพียง 125,000 นาย กองทัพอากาศรัสเซียมีแสนยานุภาพมากกว่ายูเครน 5 เท่า ด้วยจำนวนทหารอากาศ 165,000 นาย ขณะที่ยูเครนมีเพียง 35,000 นาย ขณะที่เวลานี้รัสเซียมีนายทหารที่ถูกส่งเข้าสู่ยูเครนและตั้งกำลังโดยรอบราว 200,000 นาย

แต่เมื่อรัสเซียทำการบุกทุกด้านเป็นเวลา 8 เดือนแล้ว ความปักใจเด็ดเดี่ยวพร้อมสู้รบของฝ่ายยูเครนด้วยพลังจินตนาการชาตินิยม ชาวยูเครนทั้งชายและหญิงสมัครเข้ารับการเป็นทหารอย่างเต็มใจ ในฐานะที่พวกเขากำลังปกป้องชาติของตนจากการรุกราน ไม่ยอมให้ชาติถูกยึดครองและตกเป็นบริวารรัสเซียเหมือนประเทศเบลารุส ซึ่งขณะนี้ทางยูเครนได้พลิกสถานการณ์จากการรับมาเป็นการรุกจนสามารถยึดเมืองเครซอนซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นเครซอนซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำดนีโปร แม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นเมืองหลักเพียงเมืองเดียวที่รัสเซียยึดได้ในสงครามครั้งนี้ นอกจากนี้แคว้นเครซอนยังเป็น 1 ใน 4 แคว้นของยูเครนที่ถูกรัสเซียผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอีกด้วย กองทัพรัสเซียตัดสินใจถอนกำลังออกจากเมืองเครซอน เนื่องจากถูกกองทัพยูเครนโจมตี และตัดเส้นทางส่งเสบียงตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทัพรัสเซียต้องย้ายไปตั้งแนวป้องกันที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำดนีโปร

แน่นอนที่สุดที่ยูเครนคงไม่สามารถประสบความสำเร็จในการสงครามครั้งนี้ หากปราศจากความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังจากองค์การนาโตและสหรัฐอเมริกา ทั้งกำลังเงิน วัสดุ และอาวุธยุทโธปกรณ์อันทันสมัย แต่ที่สำคัญชัดแจ้งที่สุดคือพลังจินตนาการชาตินิยมอันแรงกล้าของชาวยูเครนทั้งมวลนั่นเอง

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image