จับแก๊งรับจำนำรถค้ำเงินกู้ดอกโหด ยึดของกลาง 6 คัน อาวุธปืน 4 กระบอก

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. และ พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ภ.จ.สระแก้ว พ.ต.อ.สุรชัจ สีมุเทศ ผกก.4 บก.ปพ. พ.ต.ท.ไพบูลย์ พิมพ์กำเนิด สว.กก.4 บก.ปพ. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ศปจร.ตร.ชุดที่ 1 สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จากการสืบทราบว่า นายนิคม (สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์ลักลอบ ซื้อขายรถจำนำ และรับจำนำรถผิดกฎหมาย ตลอดจนซื้อขายรถและอะไหล่ จึงนำกำลังจับกุมได้พร้อมของกลางก่อนแจ้งดำเนินคดีความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่

จากการสืบสวนขยายผลพบข้อมูลว่ามี น.ส.บัวเลียว หรือเจ๊หล้า (สงวนนามสกุล) กับ นายชาติชาย (สงวนนามสกุล) ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ ก่อนนำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ค้นเป้าหมาย 2 แห่ง ใน อ.แม่ริม และ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป้าหมายที่ 1 บ้านไม่ทราบเลขที่ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พบนายชาติชาย แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน พบอาวุธปืนมีทะเบียน 4 กระบอก เครื่องกระสุน 10 นัด จึงอายัดไว้ตรวจสอบที่มาและความถูกต้องของอาวุธปืนต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม

เป้าหมายที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยมี น.ส.บัวเลียว เจ้าของบ้าน พบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ต้องสงสัย 6 คัน สอบสวน น.ส.บัวเลียว สารภาพรับจำนำเพื่อประกันเงินกู้ในราคาต่างๆ กัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.บัวเลียว ว่า “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

พล.ต.ท.ไตรรงค์เปิดเผยว่า การรับจำนำทะเบียนรถเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 โดยการรับจำนำทรัพย์สินซึ่งถือว่าเป็นการกระทำด้วยประการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน และการกระทำดังว่านี้อาจเข้าข่ายรับของโจรได้ หากพบว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการลักทรัพย์หรือการกระทำโดยมิชอบอื่นๆ จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดดังกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image