‘วันนอร์’เข้าพบ’โจโก วิโดโด’ หารือแก้ปัญหาร่วมกันปมราคายางพารา
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา เข้าเยี่ยมคารวะนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่ทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมๆ กับประธานรัฐสภาจาก 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน ในระหว่างประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ที่กรุงจาการ์ตา
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า นายโจโก วิโดโด ได้ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองและอย่างดีมาก ได้แสดงความชื่นชมว่านายโจโก วิโดโด เป็นประธานาธิบดีที่นำอาเซียนภาคภูมิใจ เป็นผู้นำในด้านประชาธิปไตย ผู้นำในด้านเศรษฐกิจ เป็นผู้นำในการปฏิรูปประเทศอินโดนีเซียให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างไม่มีใครคาดคิดได้ และเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างน่าสนใจอย่างมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ได้แสดงความชื่นชม จึงได้มาเยี่ยมคารวะท่านในวันนี้
“นอกจากมาประชุมรัฐสภาอาเซียนแล้ว ผมก็อยากจะมาพบท่านเพื่อขอความร่วมมือในเรื่องบางอย่างที่เรามีปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ เรื่องแรกผมขอความร่วมมือในเรื่องยางพารา ประเทศไทยและอินโดนีเซียเรามีปัญหาเรื่องราคายางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของทั้งสองประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพารามากที่สุดอันดับหนึ่งของโลก และอินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตอันดับสองของโลก มีประเทศผู้ใช้ยางพาราเป็นร้อยประเทศ ยางพาราที่ถูกนำไปใช้ทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยางรถยนต์ ล้อเครื่องบิน มีราคาที่สูงขึ้นตลอดเวลา แต่ราคายางพาราที่เป็นวัตถุดิบกลับตกต่ำ ซึ่งทำให้เกษตรกรชาวสวนยางในสองประเทศนี้เดือดร้อน ก็อยากจะขอความร่วมมือจากท่านว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ความร่วมมือ ระหว่างผู้ผลิตยางพาราอันดับหนึ่งและอันดับสองของโลกได้ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ราคายางพาราสูงขึ้นมาบ้าง เพื่อไม่ให้เกษตรกรทั้งสองประเทศเดือดร้อน ซึ่งท่านก็รับปาก แล้วบอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปให้รัฐบาล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของอินโดนีเซียได้หารือกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีใจมากที่ได้มาครั้งนี้ เพราะเราได้ไปรับปากกับประชาชนชาวสวนยางซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ไม่เฉพาะในภาคใต้เท่านั้น ทางภาคกลางก็มีที่ระยอง ชลบุรี ภาคอีสานก็ปลูกกันทั่ว ทางภาคเหนือก็ปลูกกันหลายจังหวัด ถ้าราคายางขยับขึ้นอย่างน้อยก็เกินกว่าต้นทุนที่เกษตรกรมีอยู่ ทำให้เกษตรกรหายจากความเดือดร้อน ดูแลตนเองได้ดีขึ้น แล้วก็หวังว่ารัฐบาลไทยที่จะจัดตั้งในวันข้างหน้านั้นจะรับเรื่องนี้ไปคุยต่อกับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อประธานาธิบดีรับปากว่าจะนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมั่นว่ายางพาราจะมีราคาที่สูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
“เรื่องที่สองที่ผมปรารภกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียคือ ประเทศไทยและอินโดนีเซียเราเคยมีความร่วมมือกันในการทำประมงอย่างมีศักยภาพร่วมกัน ชาวประมงไทยและอินโดนีเซียตลอดจนประเทศทั้งสองมีรายได้จากประมงไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ขณะนี้การประมงของเรานั้นไม่สามารถจะทำได้เหมือนเดิม อาจจะมีเหตุผลหลายประการ ทั้งเรื่องจากอียูและปัญหาอื่นๆ ก็เป็นความจำเป็นที่รัฐบาลของประเทศทั้งสองต้องร่วมมือกันอย่างในอดีต หรืออาจจะดีกว่าในอดีตเพื่อให้ชาวประมง ซึ่งเป็นอาชีพหลักหนึ่งของประเทศไทยและอินโดนีเซีย ท่านก็บอกว่าเป็นเรื่องที่ดีว่าจะมีการร่วมมือกันต่อไป” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว
