ตู้หนังสือ : Global Vision ไทย ตรุษไหนไหนพี่ไทยก็เมา

อ้าว, วันมาฆะ

ตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (ที่จริง ต้นเดือนตุลา ร้านค้า ร้านสุรา ภัตตาคารทั้งหลายก็เคยใช้โอกาสทำมาหากินกับ “ออคโทเบอร์ เฟสท์” ขายเบียร์เป็นล่ำเป็นสันมาแล้ว แต่หลังๆ ดูจะหงอยไป) วันผีหลอก “ฮาโลวีน” ก็ทำให้เด็กไทยสนุกมาแล้ว ไม่ว่าโรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนสาธิต เด็กๆ แต่งชุดปีศาจสยอง ถือตะกร้า ไปตามบ้าน (หรือในบ้านตัวเองนั่นแหละ) ถามพี่ป้าน้าอาว่าจะ “หลอกหรือเลี้ยง-ทริค ออร์ ทรีท” ขอขนมกิน

ทั้งนี้ เพื่อ “จะได้ไม่ตกเทรนด์” ไง

ข้าม “ลอยกระทง” ของตัวเองขายนักท่องเที่ยวไปก็ถึงปลายธันวาฯ วัน “คริสต์มาส” ปีใหม่ฝรั่งก็เฮฮากันตามปกติ บรรดาผู้ประกาศข่าว พิธีกรโทรทัศน์ แต่งตัวกันแบบไม่ยอมตก “เทรนด์” เช่นเดียวกัน ทำไงได้ ประเทศไทยเสียอย่าง ไม่เคยล้าหลังเรื่องบันเทิงหรรษานานาประการ

Advertisement

พอปีใหม่สากล ห้างร้านทั้งหลายย่อมชื่นอกชื่นใจ คิดวิธีบริการความสนุกสนานในการนับถอยหลังสู่ปีใหม่ต้อนรับผู้คนได้หนาแน่น สรรค์และสร้างความวิจิตรพิสดารของแสงสี เรื่องราว ของดื่มของกิน “ขาย” กันอย่างโอฬาร

และอีกเพียงสองสัปดาห์ข้างหน้า วัน “ตรุษจีน” ก็จะเวียนมาถึงอีก เป็น 3 วันของการจับจ่ายครึกครื้น แจกเงินลูกหลาน หยุดงาน ท่องเที่ยว ดื่มกินกันเช่นเคย จากนั้นข้ามไปแค่วันเดียวก็เป็นวัน “วาเลนไทน์” ที่ยุคหนึ่งเป็นวันโรงแรมม่านรูดเต็มเอี้ยดขายดี ตามแบบการตีความวันแห่งความรักนิสัยไทยๆ

ก็ว่ากันไปตามความหนาบางของกิเลส แต่หลังจากนั้น ก็เหมือนรถกำลังวิ่งบนทางด่วนเพลินๆ เกิดเจอไฟแดงเข้ากะทันหัน เอ๊ะ, มาได้ไง นั่นคือ 10 วันหลังจากนั้นก็ถึงวัน “มาฆบูชา” (วันสำคัญในพระพุทธศาสนา – อ๊ะ, ต้องบอกด้วยหรือ) ซึ่งชาวพุทธส่วนมากนำลูกหลานหรือหนุ่มสาวชวนกันไปเวียนเทียน

Advertisement

ที่คงจะชอบกันก็เพราะได้หยุดติดต่อกัน 3 วัน เสาร์ถึงจันทร์ในปีนี้

⦁บุคคลซึ่งควรรำลึกถึงผู้หนึ่งในปีที่ผ่านมาก็คือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรืออดีต พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ที่เมื่อดำรงสมณเพศก็สำรวมดีในศีลาจารวัตร ดำรงธรรมความรู้แน่วแน่ สามารถวิพากษ์วิจารณ์วัตรปฏิบัติของพุทธศาสนิกอย่างตรงไปตรงมา จนถือเป็นพระหัวก้าวหน้าไม่ถูกจริตพระหัวไม่ก้าว

กระทั่ง สึกหาลาเพศสมณะ ความรู้ที่ได้จากการจบเปรียญธรรม 9 ประโยค, ปริญญาโท พุทธศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณฯ, นิติศาสตร์ รามคำแหง ก็ไม่จืดจางไปกับสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตใหม่ การถกเถียงเรื่อง “นาค” เรื่อง “ปีชง” ยังแสดงจุดยืนในธรรมมั่นคง แม้ผู้ฟังไม่สบอารมณ์ก็ยอมรับและขออภัยได้

จึงเป็นบุคคลผู้เสนอความคิดอ่านเป็นประโยชน์กับสังคม โดยแสดงให้เห็นว่า การแสวงความรู้และฝึกฝนสัมมาทิฏฐิ มิได้ทำมาเพื่อประดับอัตตาเปล่าๆ

อย่างประนีประนอมที่สุด ระหว่างความ “โง่” กับความ “ฉลาด” ก็คือมีที่ “เอาสบายใจ” อยู่ตรงกลาง นี่คือ “ตรรกะอะลุ้มอล่วย” แบบไทยๆ แท้ๆ – หึหึ

ผู้ไม่เข้าใจก็ลองไล่หาข่าว “แพร์รี่กับปีชง” อ่านรายละเอียดดูนะขอรับ

⦁จีนกำลังเป็น “เป้าใหม่” ของมหาอำนาจตะวันตกหรือสหรัฐ หลังจากรัสเซียตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับไทยที่ประชากรจีนมีเป้าหมาย “ตั้งหลัก” และ “ทำกิน” โดยเข้ามาสร้าง “ไชน่าทาวน์” ขึ้นแห่งแล้วแห่งเล่า ทั้งทุ่มซื้อที่อยู่ ที่ทำกิน มหาวิทยาลัย จริงจัง หลังมี “พม่าทาวน์” เกิดขึ้นหลายแห่ง

ไทยจึงต้องตามเรื่องจีนให้ทัน จีนกับการปิดล้อม จีนกับสหรัฐ จีนกับไต้หวัน จีนกับพันธมิตร “บริคส์” ฯลฯ เพื่อจะรู้ว่าไทยอยู่ตรงไหนท่ามกลางปัญหา และจะใช้การต่างประเทศกับเศรษฐกิจเพื่อรักษาสถานะให้มั่นได้อย่างไร

เขียนจีนให้เป็นไทย อย่างน้อยก็เข้าใจให้ได้ก่อนว่า “ความเป็นจีน” คืออย่างไร “ความเป็นจีนที่กลายเป็นไทย” คืออย่างไร และจีนที่เคยเห็นอยู่ใน “สายตาสหรัฐ” เป็นอย่างไร ก่อนที่จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจว่า “จีนในไทย” หรือ “คนจีนในไทย” ทำไมไม่ใช่จีนอย่างที่เป็นจีนในจีน หรือเป็นจีนในประเทศอื่น

อาจารย์ประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เชียงใหม่ สิทธิเทพ เอกสิทธิพงษ์ เจ้าของรางวัลนักวิจัยดีเด่น “ช้างทองคำ” ปี 2565 ของมหาวิทยาลัย จะอธิบายเรื่องการมองจีนทางวิชาการตั้งแต่ครั้งเดินตามสายตาฝรั่งยุคสงครามเย็น กระทั่งเกิด “ชาตินิยมวิชาการ” ในสมัยต่อมา เพื่อเข้าใจความเป็นจริงของจีนทางวิชาการ

นอกจากจะเข้าใจความเป็นจีนในไทย จีนในสายตาฝรั่ง และสิ่งที่เกิดขึ้นทางการเมือง วัฒนธรรมที่ถ่ายทอดเปลี่ยนแปรแล้ว ยังมองเห็นการเปลี่ยนแปรของการต่างประเทศของเชื้อชาติ อำนาจ อิทธิพล เพื่อการเมืองและเศรษฐกิจ ในการที่จะปรับแปลงความคิดมิให้ติดยึดกับฝ่ายใด เพื่อประโยชน์ของไทยเอง

⦁และเพื่อจะเข้าใจจีนปัจจุบันได้ดีขึ้น จึงจำเป็นต้องเข้าใจผู้นำจีนให้ลึกซึ้งกว่าธรรมดาทั่วไปจากข่าวสาร สี จิ้นผิง มังกรเหนือมังกร เขียนโดยผู้เขียนเรื่องจีนมาแล้วกว่า 70 เล่ม เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ให้เข้าใจว่า ปัจจุบันคือจุดสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสท์จีน จุดสูงสุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน

เป็นผู้กระตุ้นชาวจีนด้วยคำขวัญ “ไชนีส ดรีม” หลังจากโลกรู้จัก “อเมริกัน ดรีม” มานานหลายทศวรรษ ที่สร้างความฮึกเหิม สร้างพลัง กำลังใจ ตลอดจนความหวังในอนาคตให้กับชาวจีนนับพันล้านคน

และวันนี้คือ ผู้นำจีน ประธานาธิบดีที่สามารถครองอำนาจได้นานตราบเท่าที่ต้องการ ผู้ประกาศว่า จีนจะไม่กลับไปเผชิญปัญหาเช่นที่เคยประสบมาอีกแล้ว และจะนำพาประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจโตเป็นอันดับ 2 ของโลก ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

หนังสือเล่มนี้บอกทัศนคติอันทรงพลังของความคิด แนวคิด นโยบายการบริหารที่ลึกซึ้ง โดดเด่น ของผู้ที่สาบานในกรณีการแทรกแซงจากต่างประเทศเรื่องไต้หวันว่า จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาแยกไต้หวันออกไปจากจีนได้ – การมีชีวิตอยู่ในโลกสมัยใหม่ยุคไอทีนี้ คิดจะอยู่คนเดียวไม่อยากจะยุ่งกับใครก็ไม่ได้

⦁หนังสือสำคัญเล่มหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจการเมืองไทยชัดเจนขึ้นก็คือ เนื้อในระบอบถนอม ความสืบเนื่องและเสื่อมถอยของเผด็จการทหาร พ.ศ.2506 ถึง 2516 ของอาจารย์ ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ แสดงภาพย้อนอดีต “เหมือนเมื่อวานนี้เอง” ของระบอบซึ่งไม่เคยเป็นอธิปไตยของปวงชนชาวไทย

ทั้งที่เปลี่ยนแปลงการปกครองมาตั้งแต่ปี 2475 เพราะ “เผด็จการทหาร”

ให้เห็นโครงสร้างและสัมพันธภาพของสถาบันทางการเมือง การรัฐประหาร รัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ พรรคการเมือง การเลือกตั้ง กลุ่มกดดัน กลุ่มผลประโยชน์ ด้วยวิธีการศึกษาทางประวัติศาสตร์อย่างครอบคลุม

นอกจากกำหนดเรื่องราวเป็นลำดับอย่างละเอียดลออแล้ว ยังสรุปภาพเต็มชัดเจน ทั้งภาคผนวก ก ลำดับเหตุการณ์การเมืองที่เกี่ยวกับจอมพลถนอม กิตติขจร (2500-2519) ภาคผนวก ข การยึดทรัพย์ จอมพลถนอม จอมพลประภาส พ.อ.ณรงค์ และภรรยาของทั้งสามนาย ไว้ครบถ้วน

⦁ไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ว่าจะอยู่อย่างไร แน่นอนว่า ความคิดเป็นตัวกำหนดสำคัญ ดังนั้น จะลงมือทำอะไรสักอย่าง ที่ต้องลงทุน ลงแรง โดยเฉพาะการก่อร่างสร้างธุรกิจ หรืออาชีพ ยิ่งย่อมต้องคิดรอบคอบ รอบด้านอย่างถี่ถ้วน

งานใหญ่สำเร็จได้แบบเหนือเมฆ ช่วยกันเขียนโดย เบนท์ ฟลายแบร์จ กับ แดน การ์ดเนอร์แปลโดย ประเวศ หงส์จรรยา ให้รู้ปัจจัยอันน่าทึ่งซึ่งเป็นตัวกำหนดชะตาทุกโครงการ ตั้งแต่ซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน จนสำรวจอวกาศ

เพราะการ “คิดเร็ว ทำเร็ว” ไม่เกิดจริงในการทำงานใช้งบประมาณ มีกำหนดเวลา เต็มไปด้วยความเสี่ยง จะทำงานใหญ่ที่ประกอบด้วยปัจจัยเหล่านี้ให้ลุล่วง จึงเหลือเส้นทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้นคือ “คิดเร็ว ทำช้า” กับ “คิดช้า ทำเร็ว” ซึ่งสองทางนี้จะนำไปสู่ผลอันแตกต่างกันสิ้นเชิง เส้นทางไหนจะตอบโจทย์

รู้เส้นทางอันตราย หรือปลอดภัยในทุกแง่มุม เพื่อดำเนินการทุกอย่างได้ถูกต้อง เหมาะสมที่สุด ลองหาอ่านพิจารณาดูได้

⦁นิตยสารการเมืองประจำครอบครัวและทุกองค์กร มติชนสุดสัปดาห์ ว่าด้วย ภูมิใจไทยหลังศาล รธน.วินิจฉัย “ศักดิ์สยาม” อ่าน ส.ว.ผ่านด่านแรก “ซักฟอก รบ.” ยอดลงชื่อแตะ 98 คน พุ่งเป้าถล่ม “ชั้น 14 กับเงินดิจิทัล 1 หมื่น” เศรษฐาลั่นพร้อมตอบ ไม่เสียสมาธิ

อดีต รมว.คลัง “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” เชื่อแลนด์บริดจ์จะพลิกโฉมประเทศ? Global Vision สำคัญมาก

ถอดรหัสกอล์ฟ “2 ทินกับเหล่าทัพ” กระชับเก้าอี้สุทิน กลางดงข่าวลือ “นิด” ควบ “ไก่” ปิดตำนานร้าวทุ่งดอนเมือง พายุลูกใหม่ก่อตัว

แล้วดูวิบากกรรม “เฉลิมชัย” หมูเถื่อนพ่นพิษ บ่อนเซาะภาพผู้นำ ปชป. ก่อนไปคุยกับ “ชัยธวัช” เรื่องประเด็นร้อน 67 “ชั้น 14” รัฐธรรมนูญ และฝ่ายค้านเชิงรุก ตามด้วยอาชญากรรมสะเทือนสังคม ผ่าคดี 5 โจ๋ทมิฬฆ่าป้าบัวผัน สะท้อนวิกฤตศรัทธาสีกากีอีกแล้ว เด้งรอง ผกก.โรงพักอรัญฯ ขู่ลุงเปี๊ยกจนรับผิดมั่วซั่ว

บันเทิงโลก วิเคราะห์ปากกาแต่งเพลง 3 แบบ 3 สไตล์ของเทย์เลอร์ สวิฟท์ แล้วไปดูไปรษณีย์อังกฤษออกแบบแสตมป์ชุดพิเศษ เฉลิมฉลองวาระ 3 ทศวรรษ “สไปซ์ เกิร์ลส์”

ส่วนต่างประเทศ ต้องจับตามองโจทย์ใหญ่ของ “ไล่ชิงเต๋อ” ปธน.คนใหม่ของไต้หวัน ก่อนสำรวจเพื่อนบ้าน เมื่อหนี้สาธารณะลาวกลายเป็น “วาระแห่งชาติ”

อ่านไป คิดไป จะเอาตัวรอดใน “วาระแห่งชีวิต” อย่างไรกับสังคมไทยทุกวันนี้

บรรณาลักษณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image