กมธ.อุตฯ ย้ำ ห้ามขนย้ายแคดเมียม ช่วงฝนตก แนะเพิ่มบ่อฝังกลบ ยัน ไม่ใช้ภาษีปชช.

“กมธ.อุตฯ” ย้ำ ไม่ให้ขนย้ายกากแคดเมียมช่วงฝนตก บอก ให้ผู้ประกอบการขอเพิ่ม EIA เพิ่มบ่อล่วงหน้า หวั่น เจอปัญหา บ่อเก่าไม่พอฝังกลบ ยัน ไม่ใช้ภาษีปชช.

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลความคืบหน้าการขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบที่จังหวัดตาก ว่า กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาซักถามถึงการดำเนินงานดังกล่าว โดยเฉพาะความปลอดภัยในการขนย้ายกากแคดเมียม โดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้ยืนยันว่าดำเนินการตามมาตรฐานสากล เพียงพอและปลอดภัยต่อประชาชน ส่วนระยะเวลาการฝังกลบจะมีการแบ่งการขนย้ายเป็น 2 ระยะ จากพื้นที่ต้นทาง 5 แห่ง จากชลบุรี สมุทรสาคร และ กทม. จำนวน 1.2 หมื่นต้น ตั้งแต่ 29 เม.ย.ถึง 17 มิ.ย. แต่ยังไม่ได้เป็นการขนย้ายไปฝังกลบทันที เนื่องจากต้องมีการปรับปรุงบ่อฝังกลบก่อน จนเป็นที่พอใจของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น จึงจำต้องนำไปเก็บยังอาคารพักคอยที่ปิดมิดชิด และจะดำเนินการฝังกลบและปิดปากบ่อให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.67

นายอัครเดชกล่าวว่า กมธ.ได้ซักถามกรณีหากพบปัญหาอุปสรรคจำเป็นต้องขยายระยะเวลาออกไปหรือไม่ ซึ่งปลัดกระทรวงชี้แจงว่า ระยะเวลาที่วางไว้เพียงพอรองรับปัญหาอุปสรรคอยู่แล้ว ซึ่ง กมธ.ให้คำแนะนำว่าหากใช้วิธีเทกากแคดเมียมลงไปในหลุมจะเกิดการฟุ้งกระจาย ควรจะใช้วิธีการนำบิ๊กแบ๊กลงไปในหลุมฝังกลบทั้งถุง ซึ่งคณะกรรมการขนย้ายก็รับข้อเสนอนี้ไปดำเนินการ แต่จะเกิดปัญหาช่องว่างอากาศทำให้พื้นที่ไม่พอฝังกลบกากแร่ทั้งหมด จึงขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งไปยังผู้ประกอบการ ขอทำ EIA การทำบ่อเพิ่มเติมรองรับไว้ด้วย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ส่วนกรณีงบประมาณในการขนย้ายครั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่า จะทำการรวบรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด และเรียกเก็บกับผู้ประกอบการที่จังหวัดตาก จึงขอให้สบายใจว่าไม่ให้เป็นภาระภาษีประชาชน

Advertisement

“จากที่เราดูตารางเวลาก็ห่วงใยว่าการขนย้ายแล้วเสร็จถึง 30 ก.ย.นั้นเป็นเวลาแค่ 3 เดือนครึ่ง แต่ที่สำคัญคือการเตรียมบ่อกักเก็บให้ปลอดภัย ซึ่งท่านปลัดกระทรวงก็ยืนยันว่าจะมีการเตรียมก้นบ่อให้มีความแข็งแรง และไม่มีการรั่วไหล โดยจะเทพื้นใหม่ และเตรียมพื้นผิวต่างๆให้รัดกุม ดังนั้น ในระยะเวลานี้จนถึงการขนย้ายจากอาคารพักคอยไปฝังกลบจึงต้องใช้ระยะเวลา ที่สำคัญเราห่วงว่าระหว่างนั้นหากมีฝนตกจะทำอย่างไร จึงขอเรียนชาวจังหวัดตากว่าไม่ต้องกลัวการปนเปื้อน เพราะเราได้เน้นย้ำให้หยุดขนย้ายในช่วงที่มีฝนตก ซึ่งผู้ประกอบการยืนยันว่าได้เผื่อเวลาเหล่านี้ไปแล้ว ทางเราก็เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม” นายอัครเดชกล่าว

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่ากากแคดเมียมบางส่วนได้สูญหายไป ขณะนี้มีการค้นหาครบแล้วหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า กมธ.ได้รับแจ้งว่ากำลังติดตามการค้นหาเพิ่มเติมแต่คิดว่าเมื่อมีการไปชั่งที่ปลายทางก็จะรับทราบจำนวนที่แน่นอน เพราะจะมีการชั่งน้ำหนักออกและเข้าทุกถุง

ขณะนี้จึงยังไม่ทราบว่าตัวเลขจากจำนวน 1.2 หมื่นกว่าตัน ซึ่งเป็นการคำนวณจากปริมาตรและการชั่งจริง ตัวเลขจากการพบเจอจึงยังไม่แน่นอน ขอให้มีการขนย้ายแล้วเร็จจึงจะได้ตัวเลขที่ชัดเจนว่ามีน้ำหนักเท่าไหร่ และมาคำนวณกับความชื้น จึงจะได้จำนวนสรุปสุดท้ายว่ากากแคดเมียมมีการสูญหายไปหรือไม่ คาดว่าวันที่ 17 มิ.ย.จะทราบข้อเท็จจริง แต่เท่าที่คุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่ายังไม่มีการนำแร่ดังกล่าวไปหลอมแปรสภาพ ที่นำออกมาเป็นการกองเก็บเพื่อขายต่อตามที่ผู้ต้องหาให้การไว้ และจากที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจตามโรงหลอมต่างๆ โดยมีการเก็บตัวอย่างด้วยตัวกรองเตาหลอมต่างๆ ก็ไม่พบว่ามีสารเหล่านี้

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image