“กสทช.”ร่อนหนังสือเรียก”ดีแทค-ไลน์”แจงด่วนกรณีซิม “Line mobile”แค่แพคเกจเสริมหรือเป็นผู้ให้บริการMVNO

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2560 สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือเชิญบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และบริษัท ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อให้เข้าชี้แจงต่อ กสทช. ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ จากกรณีที่มีการเปิดตัวซิมการ์ดของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหม่ในประเทศไทย ที่ชื่อว่า LINE mobile ซึ่งมีลักษณะเป็นการให้บริการร่วมกับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่าง ไลน์ และดีแทค ตามที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา โดยเรื่องดังกล่าวนั้นถือเป็นกระบวนการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช. ที่ต้องตรวจสอบว่าการให้บริการดังกล่าวเข้าลักษณะการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่มีโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเอง (เอ็มวีเอ็นโอ) ที่ต้องมีใบอนุญาตตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 จาก กสทช. หรือเป็นเพียงการให้บริการเสริมเท่านั้น โดยหากเป็น เอ็มวีเอ็นโอ ผู้ให้บริการจะต้องมายื่นขอใบอนุญาต แต่หากเป็นแค่บริการเสริมภายใต้แพคเกจต่างๆ ก็ไม่ต้องขออนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ดังนั้นจึงได้ทำหนังให้ทั้ง 2 บริษัทเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง

นายฐากร กล่าวว่า นอกจากนี้ในวันที่ 13 มิถุนายน สำนักงาน กสทช. ได้เชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(ไอเอสพี) เข้าประชุมเพื่อติดตามการดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย โดย ไอเอสพี ได้รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 12 มิถุนายน 2560 ได้รับคำสั่งศาลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) จำนวน 23 คำสั่ง โดยมี URL ที่ผิดกฎหมายจำนวนทั้งสิ้น 965 URL แบ่งเป็นของเฟซบุ๊ก 569 URL เป็นของยูทูป 373 URL และอื่น ๆ 23 URL ซึ่งขณะนี้ได้มีการปิดกั้นไปเกือบ 100% แล้ว ทั้งนี้สำนักงาน กสทช. ได้มีการกำชับให้ ไอเอสพี เฝ้าตรวจสอบการดำเนินงานในเรื่องนี้ตลอดเวลา และรายงานให้สำนักงาน กสทช. ได้ทราบว่าภายหลังจากได้รับคำสั่งศาลแล้วได้มีการดำเนินการอย่างไร

นายฐากร กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการกับเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่ผิดกฎหมายขณะนี้กระทรวงดีอีเป็นผู้รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และเป็นผู้ดำเนินการขอออกหมายศาล จากนั้นดำเนินการส่งหมายศาลตรงไปยังเฟซบุ๊ก หรือยูทูป หรือหรือผู้ที่กระทำผิดต่อกฎหมายโดยตรง โดยจะมีสำเนาส่งมาที่สำนักงาน กสทช. เพื่อให้สำนักงานฯ ได้ติดตามตรวจสอบกับทาง ไอเอสพี อีกทางหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image