นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำโคกสำโรง จ.ลพบุรี แตก และมีการประกาศให้ประชาชนรีบเก็บของหนีน้ำนั้นว่า ล่าสุดได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์แล้ว พบว่า อ่างเก็บน้ำที่ระบุในข่าวคือ สระเก็บน้ำภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตลพบุรี เป็นแหล่งน้ำสนับสนุนพื้นที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความจุ 700,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ลักษณะโครงการเป็นสระเก็บน้ำ ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำตามที่ปรากฏในข่าว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 04.00 น. ของเช้าวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ขณะเกิดเหตุมีน้ำอยู่ประมาณ 600,000 ลบ.ม. คาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลออกจากสระ ประมาณ 320,000 ลบ.ม. คงเหลือค้างสระประมาณ 280,000 ลบ.ม. ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลหลากผ่านทุ่งนา ประมาณ 200 ไร่ ความลึก เฉลี่ยประมาณ 25 เซนติเมตร (ซม.) ลงคลองห้วยปลาหมอ ผ่านหมู่บ้านหนองบัว เกาะแก้ว วังกระทุ่ม ลำละเลง และ ลงสู่ฝายหนองชนะชัยต่อไป
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบัน ฝายหนองชนะชัยมีระดับน้ำต่ำกว่าสันฝายประมาณ 1 เมตร ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำส่วนนี้ไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งปริมาณน้ำทั้งหมดจะคงอยู่ในลำน้ำ ไม่ล้นตลิ่ง หรือ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน และพื้นที่ตอนล่างในเขตพื้นที่อำเภอบ้านหมี่แต่อย่างใด ล่าสุดสำนักงานชลประทานที่ 10 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดลพบุรี หน่วยทหารในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเพนียด และกรมทางหลวง ได้ร่วมกันดำเนินการนำเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าปิดทำนบที่ชำรุดดังกล่าว ด้วยเสาเข็มไม้ และถุงบิ๊กแบ็ก คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันนี้
