เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงวันหยุด แหล่งท่องเที่ยวทั้งเขาค้อและภูทับเบิกต่างมีนักท่องเที่ยวจำนวนนับหมื่นคนหลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวและพักค้างคืนกันทำให้รีสอร์ตที่พักต่างๆ รวมทั้งเต็นท์ที่พักถูกจับจองจนเต็ม และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นตามจุดชมวิวต่างๆ โดยที่เขาค้อบริเวณจุดชมวิวเยื้องที่ว่าการอำเภอเขาค้อมีนักท่องเที่ยวแห่ไปดูวิวทะเลหมอก ส่งผลให้รถติดอย่างมาก แต่นักท่องเที่ยวถึงกับหายบ่นหลังจากได้ชื่นชมความงดงามทะเลหมอกที่สวยงามชวนหลงไหลน่าประทับใจ จนทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ถึงกับนำกล้องถ่ายรูปที่ติดตัวมาหรืองัดกล้องโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายบันทึกภาพรวมทั้งถ่ายเซลฟี่ภาพวิวทะเลหมอกไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
ส่วนที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า บรรยากาศคึกคักเนื่องจากนักท่องเที่ยวเกือบ 10,000 คน หลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวและพักค้างแรม ในขณะที่อุณหภูมิเมื่อเช้าที่ผ่านลดต่ำลงราว 18 องศาเซลเซียส ทำให้สภาพอากาศหนาวเย็นและมีหมอกลงจัดอีกด้วย แต่ทั้งนี้ในเรื่องอาหารการกิน มีเสียงร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่าราคาอาหารแพงเกินกว่าความจริง โดยมีนักท่องเที่ยวบางรายโพสต์บนสื่อโซเชียลแจ้งเตือนให้สอบถามราคาก่อน โดยอ้างว่า เคยกินมาราคาข้าวต้มเปล่าๆ ชามละ 30 บาทมาแล้ว ทำให้มีเสียงตอบโต้ว่า อย่าโลกสวยหากแพงก็ไม่ต้องกิน ราคาวัตถุข้างบนค่อนข้างแพงและถือเป็นปกติสำหรับแหล่งท่องเที่ยวบนภูเขา จนทำให้กลายเป็นประเด็นดราม่าเกิดขึ้น
ด้านว่าที่ ร.ท.ชัชวาลย์ รักหาญ รองประธานชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเขาค้อ กล่าวว่า ค่อนข้างพอใจกับการเปิดตัวฤดูกาลท่องเที่ยวเขาค้อในปีนี้ โดยสังเกตได้จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนและท่องเที่ยวที่เขาค้อในช่วงนี้มีปริมาณเพิ่มจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ที่น่าประทับใจก็คือนักท่องเที่ยวเริ่มมีคุณภาพและทำการบ้านวางแผนการท่องเที่ยวมาค่อนข้างดีโดยสังเกตได้จากการกระจายตัวไปยังจุดชมทิวทัศน์ต่างๆ ไม่กระจุกในที่หนึ่งเพียงแห่งเดียว แม้บางจุดจะมีรถหนาแน่นจนทำให้มีรถติดบ้างก็ตามแต่สุดท้ายก็ยังไหลลื่นไปได้
ข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 05.40 น.ของเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึกเมื่อรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CRV หมายเลขทะเบียน กช 3700 กรุงเทพมหานคร ของนักท่องเที่ยวจาก จ.สมุทรปราการ ซึ่งกำลังจะขับขึ้นเขาค้อไปตามถนนทางหลวงสายนางั่ว-สะเดาะพง โดยเร่งจะไปชมทะเลหมอกบนเขาค้อ มาถึงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 18-19 หมู่ 3 ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ จู่ๆ มีกลิ่นไหม้และมีควันไฟขึ้นที่บริเวณกระโปรงหน้ารถ คนขับจึงจอดรถแต่ระหว่างตรวจสอบใต้ท้องรถ ปรากฏว่ามีไฟลุกติดขึ้นบริเวณห้องเครื่อง คนขับและนักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับรถเก๋งคันดังกล่าว จึงขอความช่วยเหลือร้านค้าริมทางใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งมีความพยายามช่วยกันนำน้ำใส่ถังเพื่อช่วยดับ แต่ไฟลุกติดท่วมรถอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเกิดการระเบิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีก ทำให้ทุกคนต้องเผ่นกระเจิง จนจำเป็นต้องปล่อยให้ไฟลุกลามไหม้รถจนวอดไปทั้งคันไปต่อหน้าต่อตากระทั่งรถกลายสภาพเป็นเศษเหล็ก แม้ภายหลังจะมีรถดับเพลิงจาก อบต.เขาค้อมาช่วยดับแต่ก็ไม่ทันการณ์
ทั้งนี้หลังได้รับรายงาน นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอเขาค้อ ได้แสดงความเสียใจกับนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุดังกล่าวจนรถเก๋งได้รับความเสียหายทั้งคัน แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ โดยนายอำเภอเขาค้อยังฝากแจ้งเตือนไปยังนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเขาค้อโดยขอให้ตรวจสอบสมรรถภาพรถให้ดีก่อนเพราะทางขึ้นเขาค้อค่อนข้างมีความลาดชันสูงและต้องขับรถด้วยความระมัดระวังด้วย
