รองโฆษกอัยการเผย คดีรุกที่ภูเก็ตอีกอื้อ อสส.มีนโยบายรักษาผลประโยชน์ชาติ “บัณฑูร”บอกแต่ละแปลงเกิน 100ล้าน ชนะหลายคดีเเล้ว

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ได้มีนโยบายเร่งรักษาผลประโยชน์ของรัฐโดยเฉพาะคดีที่รัฐเป็นฝ่ายเสียหายอัยการจะรับแก้ต่างคดีให้ ล่าสุดคือคดีรุกล้ำหาดเลพังที่ภูเก็ต ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าพนักงานอัยการได้รักษาผลประโยชน์รัฐได้กว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท นอกจากคดีที่หาดเลพังที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาไปเเล้วนั้นยังมีคดีที่น่าสนใจเกี่ยวกับการรุกที่ดินของรัฐอักหลายคดีด้วยกัน ยกตัวอย่างคดีที่ น่าสนใจ 2คดีที่อยู่ระหว่างรอศาลฎีกามีคำพิพากษา ที่มีนายบัณฑูร ทองตัน รองอธิบดีอัยการคดีแรงงานภาค9 และนายสุรศักดิ์ รักญาติ ผู้ตรวจการอัยการ เป็นคนทำคดี

คดีเเรกคือคดีที่กระทรวงการคลัง โดยที่ราชพัสดุเป็นผู้เสียหาย เป็นคดีที่ กระทรวงการคลัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง วัดอนามัยเกษมจ.ภูเก็ต ฐานบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินราชพัสดุ ย่าน ม.3 บ้านหาดสุรินทร์ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ภูเก็ต ช่วงปี2553 คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 16ไร่ ต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ซึ่งวัดตั้งทนายให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์โดยได้รับการยกให้จากชาวบ้าน มีเนื้อที่ 21ไร่ และยังอ้างว่านอกจากแปลงที่ถูกฟ้องแล้วยังมีอีก 2 แปลง รวมแล้วประมาณ 44 ไร่ที่โจทก์ออกโฉนดทับที่ดินของวัดโดยไม่ชอบ มูลค่าของที่ดินประมาณ 1,600 ล้านบาท ต่อมาอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค 8 มอบนายบัณฑูร ลงไปทำคดีนี้ ซึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยบุกรุกจริง ที่พิพาทเป็นที่ราชพัสดุจึงให้กระทรวงการคลังชนะคดี ศาลอุทธรณ์ก็ตัดสินยืนให้ชนะคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกา

คดีที่2เป็นคดีที่ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก.เป็นโจทก์ ฟ้องนายสมปอง สกุลทับ กับพวกรวมสองคน เป็นจำเลย ฐานบุกรุก ซจากกรณีมูลเหตุเมื่อปี2555 เป็นคดี ที่นสปก. ภูเก็ตแจ้งว่า พบว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครอง ที่ดินย่านต.ป่าตอง อ.กระทู้ ภูเก็ต 26ไร่ มูลค่าทุนทรัพย์520ล้านบาท ซึ่งคดีนี้อัยการสามารถพิสูจน์ให้เห็นพิรุธของที่ดิน สค.1ที่นำมาอ้างว่าเป็นที่ดินคนละหมู่กับที่พิพาท
ที่การระบุทิศต่างๆของที่ดินตาม สค.1กับอาณาเขตตามทิศทาง ที่ปรากฏในแผนที่พิพาทเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ก็ไม่ตรงกัน ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาให้ สปก.ชนะคดีเอกชน โดยคดีอยู่ระหว่างฎีกา

นายโกศลวัฒน์กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าภารกิจของพนักงานอัยการในการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างคดีที่บุกรุกหาดเลพัง178ไร่ที่ภูเก็ต ต้องใช้เวลาว่าคดี11ปี เเต่อัยการยึดมั่นในการรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนโดยรวม ตามนโยบายของอัยการสูงสุด

นายบัณฑูร ทองตัน รองอธิบดีอัยการคดีแรงงานภาค9

นายบัณฑูร กล่าวว่า จริงๆคดีที่ได้ว่าความเกี่ยวกับที่ดินชายทะเลมีคดีจำนวนมาก หลายคดีที่ชนะเเล้วในชั้นฎีกาเช่น คดีที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ส่วนคดีที่อยู่ระหว่างฎีกา อย่างเช่นคดีหาดบางเทาที่เป็นกรณีกระทรวงการคลังฟ้องวัดว่าบุกรุกที่ราชพัสดุ ก็ชนะคดีมา2ศาลแล้วคือศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรืออย่างคดีหาดไตรตรังก์ ก็ชนะแล้วสองศาล อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกาเช่นกัน

Advertisement

“แต่ละคดีในศาลภูเก็ตเกี่ยวกับที่ดินมีมูลค่าที่ดินตั้งเเต่ 100-1,000 ล้านขึ้นไปทั้งสิ้น อย่างคดีบริษัท สยามเจ้าพระยาแลนด์ คดีนี้ไม่ได้ว่าความแต่เขียนฎีกา และชนะคดีได้ที่ดินชายหาดคืนมา 13 ไร่ๆตกละ 60 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 780 ล้านบาท”นายบัณฑูรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image