ความคืบหน้ากรณีนายพรพรหม โทณวนิก อายุ 60 ปี จังหวัดเชียงใหม่ คุณลุงมือทุบกระจก ใช้ไม้เท้าทุบกระจกรถคู่กรณี นายสันติภาพ วิริโยทัย อายุ 31 ปี อาจารย์สอนดนตรีมหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งนั่งมาพร้อมภรรยาตั้งท้องและลูกชายวัย 1 ขวบ 9 เดือน หลังถูกบีบแตรใส่ เหตุเกิดทางคู่ขนานถนนเชียงใหม่-สันกำแพง ทางเข้าห้างฯ พรอเมนาดา ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา และลุงรายดังกล่าว ถูกตำรวจ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่แจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อกล่าวหานั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปส่งฟ้องที่ศาลตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว โดยข้อหาแรกขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มีโทษขังไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคดีทำให้เสียทรัพย์นั้น ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะยอมความกันหรือไม่ ต้องรอพนักงานสอบสวนเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันอีก เพราะตอนนี้ฝ่ายภรรยาผู้เสียหายกำลังตั้งท้อง จึงยังไม่ได้ตกลงกัน ส่วนคดีทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บนั้นต้องรอผลตรวจจากโรงพยาบาลเชียงใหม่-รามก่อน อย่างไรก็ตามตำรวจได้ประสานนำแจ้งไปยังนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ให้ทราบเรื่อง และดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จากที่ตำรวจได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาความผิด และจากพฤติกรรมที่อ้างว่าสุขภาพไม่ดี ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก ถือเป็นปัจจัยเสี่ยง ที่อาจจะทำให้เกิดเหตุอีกได้
ทางขนส่งเชียงใหม่จึงได้ส่งเรื่องไปยังกรมการขนส่งทางบก เนื่องจากพบว่าใบขับขี่ของนายพรพรหม ผู้ก่อเหตุทุบกระจกนั้นออกที่กรุงเทพมหานคร จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้นายทะเบียนกรุงเทพฯ ได้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนใบขับขี่แบบถาวร เนื่องจากเจ้าตัวบอกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงน่าจะเป็นการเสี่ยงเกรงว่าขับไปจะไปเกิดเหตุในวันข้างหน้า ซึ่งหากดูจากเนื้อหาทั้งการถูกตำรวจดำเนินคดี คลิปและพฤติการณ์แล้ว เป็นโทษที่ร้ายแรง มีแนวโน้มว่าทางกรมจะมีการเพิกถอนและตนนั้นเห็นด้วยกับที่ส่วนกลางจะมีการออกระเบียบเพิ่ม 5 โรคที่ห้ามขับในเร็วๆนี้
ขณะที่ ร.อ.ภูรีวรรธน์ โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตอบยากที่จะให้ความเห็นหากดูจากข่าวเท่านั้น คงต้องไปตรวจสอบประวัติการรักษาพยาบาลก่อนว่าเขาเป็นโรคอะไร และมีผลต่อสมองหรือไม่
