| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน |
|---|
ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจถอดรองเท้าวางเรียงเป็นแถว จองคิวรับ “ปืนสวัสดิการ” ที่ข้าราชการตำรวจได้รับสิทธิซื้อใน “ราคาตำรวจ” เกิดดราม่าในสังคม และเกิดคำถามว่าตำรวจชั้นผู้น้อยต้องซื้อปืนเองใช้หรือ
ตำรวจกับปืนเป็นของคู่กัน อาชีพตำรวจต้องมีอาวุธปืนประจำกาย แต่ปืนเหล่านี้เป็นภาระที่ข้าราชการตำรวจต้องจัดหาเองหรือ?
พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง(ผบช.สกบ.)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ยอมรับว่า ตำรวจต้องซื้อปืนเองจริง แต่ไหนแต่ไรมานักเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายสิบตำรวจเมื่อจบมาก็หาซื้อปืนไว้ใช้เอง แม้ที่ทำงานจะมีปืนสวัสดิการของราชการ เรียกว่า ปืนตราโล่ หรือ ปืนหลวง ให้ใช้ แต่ก็เป็นปืนรุ่นเก่ามากหากเทียบในยุคสมัยนี้ เป็นปืนลูกโม่ .38 ซึ่งทราบว่าจัดซื้อกันตั้งแต่ 20-30ปีก่อน เวลานานมาก ปืนเก่ามาก และจำนวนไม่เพียงพอ ซึ่งในหน่วยหนึ่งๆ สถานีตำรวจหนึ่งๆก็มีจำกัด คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนข้าราชการตำรวจในสายงานปฏิบัติ เช่นงานสืบสวน ปราบปราม ผลัดเปลี่ยนกันใช้ ใครเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ก็เบิกปืนมาใช้ จากตรงนี้เองทำให้ตำรวจส่วนใหญ่เลือกจะลงทุนซื้อปืนเอง บางคนไม่มีเงินก็กู้สหกรณ์ไปซื้อ
ผบช.สกบ.เล่าว่า แต่เมื่อต้นปีที่ผ่าน นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 70 ทันทีที่เรียนจบก็ได้รับอาวุธปืนประจำกาย เป็นปืนของราชการ หรือปืนหลวงที่ได้สิทธิใช้ส่วนตัว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ได้ของบประมาณจากรัฐบาลในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และอาวุธปืนสั้นประจำกาย เพื่อใช้ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงพัก รัฐบาลได้อนมุติงบประมาณส่วนนี้ โดยเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 70 ได้รับ Computer Notebook ยี่ห้อ ASUS Pro รุ่น P2530UA และอาวุธปืนสั้นประจำกาย GLOCK 19
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดซื้อปืน GLOCK 19 เป็นปืนหลวง ให้ตำรวจจบใหม่ในตอนนั้น ทั้งนักเรียนนายร้อยนักเรียนนายสิบตำรวจไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่ 19,910 กระบอก และในปี 2561 ยังจัดซื้อปืน GLOCK 19 ให้ให้ตำรวจจบใหม่ไว้ใช้อีก 5,280 กระบอก โดยปืนชุดนี้จะเป็นปืนหลวงที่ตำรวจซึ่งได้รับจะพกติดตัว สมมติ ไปบรรจุ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เอาปืนกระบอกนี้ติดไปทำงาน พอย้ายไป สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ก็พกปืนกระบอกนี้ไปด้วย พอเกษียณก็คืนหลวง นี่คือหนึ่งในความพยายามให้การจัดหาปืนสวัสดิการ ที่เป็นปืนหลวงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”ผบช.สกบ.เผย
และบอกว่า นอกจากปืน GLOCK 19 แล้ว ล่าสุด รัฐบาลนี้ได้อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อปืนหลวง ให้ตำรวจไว้ใช้งานอีก จำนวน 55,000 กระบอก ตกราคากระบอกละ 17,500 บาท รวมงบประมาณ ประมาณ 965 ล้านบาท เป็นปืนสั้นออโตเมติก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น พี320 เอสพี เหมือนกับปืนที่จัดโครงการสวัสดิการให้ตำรวจได้ซื้อในราคาถูก โดยปีนซิกซาวเออร์ รุ่น พี 320 เอสพี ชุดปืนหลวง นั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นัดส่งมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำไปแจกจ่ายให้ทุกหน่วยปฏิบัติในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ หรือวันนี้นั่นเอง ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตำรวจนำปืนดีไปใช้ดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปืนชุดนี้่จะแจกจ่ายให้โรงพักต่างๆ คิดเป็น ร้อยละ 40 ของจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานปราบปราม สืบสวนและสายงานอื่นที่ต้องใช้ปืน เฉลี่ยโรงพักละ 60 กระบอก ขึ้นอยู่กับขนาด และกำลังพลของโรงพัก ซึ่งจะทำให้ในโรงพักต่างๆมีปืนหลวงให้ตำรวจเบิกใช้ได้มากขึ้น นี่ถือเป็นโครงการที่ดีมาก หากไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ก็คงทำได้ยาก ด้วยงบประมาณมีจำกัด
พล.ต.ท.ติณภัทร กล่าวด้วยว่า เมื่อปืนล็อตนี้ถึงทุกโรงพัก ตำรวจก็จะมีปืนหลวงที่ทันสมัยไว้ใช้ แม้ไม่เพียงพอครบทุกคนแต่ก็ถือว่าไม่ขาดแคลน สามารถหมุนเวียนกันใช้ได้ โดยปืนหลวงทั้ง 55,000 กระบอก จัดซื้อแบบครบชุด ประกอบด้วย อาวุธปืนพกสั้น เข็มขัดสนาม ซองพกปืน ซองพกแมกกาซีนแบบคู่ กุญแจมือพร้อมซองใส่ พร้อมใช้งานและปืนก็มีระบบเซฟตี้ที่สั่งพิเศษ และในจำนวนนี้มี 150กระบอก ที่สั่งพิเศษ แบบไนท์ไซท์ ไว้สำหรับยิงในที่มืด มอบให้สำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่างๆเช่น คอมมานโด อรินทราช ไว้ใช้งาน
สำหรับภาพการเข้าแถวรอคิวรับปืน แชร์สนั่นในโลกโซเชียล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และเกิดคำถามในสังคมนั้น ผบช.สกบ.อธิบายว่า เกิดในขั้นตอนการแจกจ่ายปืนโครงการปืนสวัสดิการตำรวจ ปืนสั้น ซิกซาวเออร์ รุ่น พี320 เอสพี ที่มี พล.ต.อ.สมยศ พุุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ริเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2558 ติดต่อประสานงาน ขออนุมัติรัฐบาล ประสานบริษัทผู้ผลิต ในสหรัฐอเมริกา ให้ตำรวจสามารถซื้อปืนดี ไว้ใช้ส่วนตัว ในราคาที่เป็นสวัสดิการจริงๆ คือถูกกว่าท้องตลาดมาก
“ราคาตลาดตอนนี้ กระบอกละประมาณ 85,000 บาท แต่โครงการนี้ ปืนรุ่นเดียวกันปืนสั้น ซิกซาวเออร์ รุ่น นพี320 เอสพี ได้รับกล่องปืนพลาสติก ซองพกปืน ซองพกแมกกาซีน เครื่องบรรจุกระสุดเร็ว สามารถซื้อได้ในราคา 23,890 บาทเท่านั้น โดยเริ่มโครงการตั้งแต่สมัยที่ พล.ต.อ.สมยศเป็นผบ.ตร. เปิดจองตั้งแต่ปี 2558 ตอนจองกำหนดให้จ่ายเงินทั้งหมด ตอนนั้นมียอดจองประมาณ 36,000 ราย แต่ช่วงเวลา 2 ปีที่ยังไม่ได้รับอนุมัติส่งออกปืนจากสหรัฐฯมีกระแสข่าวต่างๆทำให้ตำรวจประมาณ 5,000 นาย ถอนการจอง ต่อมาเมื่อกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมาก็ได้รับอนุญาตนำเข้าปืนล็อตแรก 5,000 กระบอก และทยอยมาเรื่อยๆ ครั้งละ หมื่นกระบอกบ้าง หมื่นกว่าบ้าง จนขณะนี้นำเข้ามาแล้ว เกือบ 40,000 กระบอก แจกจ่ายไปหมดแล้ว”ผบช.สกบ.อธิบาย
ก่อนแจงว่า ปืนสวัสดิการชุดนี้ อนุญาตให้ตำรวจซื้อเพียงนายละ 1กระบอก ขายต่อไม่ได้ เว้นแต่เป็นมรดกทายาท ผู้ซื้อต้องมีใบอนุญาตซื้อ ป.3 และใบ ป.4ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนฯ มีการตอกเลขกำกับ คุมรหัสประจำอย่างดี ขายต่อ ส่งต่อ เอาไปทำกำไรไม่ได้ เพราะจุดประสงค์ของโครงการนี้ตั้งใจให้ตำรวจได้ซื้อปืนราคาถูกไว้ใช้งานจริงๆ
“ทันที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงความชัดเจน ว่าได้รับใบอนุญาตส่งออก สามารถนำเข้าปืนจากสหรัฐฯได้ ข้าราชการตำรวจที่ไม่มั่นใจในโครงการในตอนแรก ก็ทยอยสั่งซื้อมากขึ้น โดยในวันหรือสองวันนี้ จะมีปืนนำเข้ามาอีก 5,000 กระบอก แต่ล็อตนี้จะพิเศษ คือให้สิทธิผู้ที่ยกเลิกสิทธิจองในตอนแรกเมื่อปี 2558 ได้ใช้สิทธิอีกครั้ง จากนั้นจะนำเข้าปืนอีก จนครบโควต้านำเข้าที่ 150,000 กระบอก(ไม่รวมปืนหลวงที่ใช้งบฯรัฐบาลจัดซื้อ) โดยในอนุญาตนำเข้าชุดแรกจะหมดอายุในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 จากนั้นบริษัทตัวแทนนำเข้าจะต้องประสานขอในอบุญาตนำเข้าจนครบในภายหลัง ขณะที่การแจกจ่ายปืนชุดที่นำเข้ามาแล้วสำหรับปีนี้ไม่มีแล้ว อาจมีก็ในกลุ่มที่เคยจองเมื่อปี 2558 แล้วยกเลิกไป คืนสิทธิให้ใหม่ ได้รับก่อนในช่วงก่อนสิ้นปี แต่ล็อตต่อไป จะเริ่มแจกจ่ายในวันที่ 10 มกราคม 2561”
ผบช.สกบ.ยอมรับว่า การแจกจ่ายปืนสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการบ้าง ตำรวจที่สั่งจอง ส่วนใหญ่เป็นชั้นประทวน มาจากต่างจังหวัด ตั้งใจมาก็มาเข้าแถวรอคิวกัน มาเช้าก็จองคิว เอารองเท้าวางเรียงกัน สกบ.ซึ่งเป็นหน่วยแจกจ่าย ก็พยายามบริหารจัดการจนดีขึ้นตามลำดับ โดยตำรวจกองสรรพาวุธ สกบ.หน่วยแจกจ่ายปืนพยายามบริการตำรวจทุกนายเต็มที่
“ผมตั้งใจเลยว่าทุกคนมาที่สกบ.ต้องได้ปืนกลับไป ไม่อยากให้ใครผิดหวัง แรกๆเกิดปัญหา เพราะสถานที่อาจคับแคบ คนมารอรับเยอะ เราไม่เคยต้องรองรับคนจำนวนมากขนาดนี้ แต่พอเกิดปััญหาก็แก้ไข การรับปืนในครั้งหลังๆก็ดีขึ้น แต่หลังจากนี้จะให้ลงทะเบียนรับผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์กับตัวแทนนำเข้า ผ่านเว็บไซต์ http://www.sigp320sp.com เพื่อกำหนดคิวการรับปืนตามการลงทะเบียน ในปีหน้าก็จะมีระบบรับปืนที่ดีขึ้น โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้ดูแลตำรวจทุกนายที่รอรับปืนให้ดีที่สุด จัดอาหารเครื่องดื่มเลี้ยงทุกคน โดยเดิมทีการรับปืนมีกองสรรพาวุธ เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ด้วยจำนวนที่มากนับพัน หมื่นกระบอก อีกทั้ง ข้อจำกัดเรื่องกฎหมายที่ทำให้ต้องรับปืนจากคลังที่ สรรพาวุธเท่านั้น ทำให้ติดขัดบ้าง ผบ.ตร.รับรู้ปัญหา จึงตั้งคณะทำงานบริหารแจกจ่ายปืนสวัสดิการตร. ขึ้นมา มีผมเป็นประธานคณะทำงานและพยายามจัดระบบจัดการให้ดีที่สุด”พล.ต.ท.ติณภัทรแจกแจง
“ยืนยันว่าไม่มีเรื่องเรียกรับผลประโยชน์อะไรทั้งนั้น คณะทำงานพยายามจัดการให้ดีที่สุด ทั้งชั้นประทวน สัญญาบัตร ทุกคนมีสิทธิซื้อปืนในราคาสวัสดิการ ถ้ามารับด้วยตัวเองก็ต้องต่อคิวทุกคน ไม่แบ่งแยก แต่จากนี้เมื่อมีระบบจองคิวใหม่ เชื่อว่าจะดีขึ้น ผมว่าคนเป็นตำรวจทุกคนอยากมีปืนดีไว้ใช้ อาชีพเราคู่กับปืน การซื้อในราคาถูกขนาดนี้ถ้าไม่ใช่โครงการนี้ก็หาไม่ได้อีกแล้ว” ผบช.สกบ.สรุป
