ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 มีนักปั่นจักรยาน 2 คน คือนายธีรพงษ์ เพียรพล อายุ 47 ปี และ นางนนทกร นีลวัฒนานนท์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่301/51 ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสองสามีภรรยา ปั่นจักรยานมาตามถนนเพชรเกษม ช่วงรอยต่อเขตอำเภอเมือง และอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ท้ายจักรยานบรรทุกพุ่มผ้าป่ามีการติดเงินธนบัตร มีทั้งฉบับละ 20 บาท 50 บาท 100 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท เสียบอยู่ในพุ่มผ้าป่าทั้งสองคัน มีป้ายเขียนข้อความว่า “ จักรยานทางไกล อุบล – ปัตตานี ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าจักรยานทางไกล วันที่ 2-22 เมษายน วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ปัตตานี ”
นางนนทกร กล่าวว่า การปั่นจักรยานในครั้งนี้ มีการริเริ่มจากชมรมนักปั่นจักรยานปัตตานี ที่อยากจะจัดซื้อที่ดินให้กับวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง ซึ่งพวกตรได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนที่เป็นนักปั่นอยู่ จ.ปัตตานี และได้เชิญชวนมาปั่นเพื่อหาปัจจัยถวายวัด ซึ่งเคยร่วมกันปั่นมาแล้วหลายงาน สำหรับการเริ่มโครงการปั่นจักรยานผ้าป่านี้ ได้เริ่มออกตัวปั่นจากทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีนักปั่นจาก จ.อุบล เข้ามาร่วมด้วยกว่า 20 คน มีแนวคิดว่าไหน ๆ ก็ออกจากบ้านมาแล้ว ถ้านั่งรถไฟมารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ ก็จะมีค่าใช้จ่ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงตัดสินใจร่วมกันปั่นจักรยานจาก จ.อุบลราชธานีมากรุงเทพฯ เพราะจริง ๆ แล้วโครงการนี้ได้เริ่มต้นที่กรุงเทพฯ เริ่มปั่นเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา และขณะนี้มาถึงราชบุรีก็วันที่ 11 เมษายน ซึ่งตามกำหนดการจะถึง จ.ปัตตานี ในวันที่ 22 เมษายนรวมระยะทางประมาณ 1,800 กิโลเมตร และจะมีการมอบเงินจากผู้ใจบุญที่ทำบุญทอดผ้าป่าตลอดเส้นทางให้กับวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่โบราณในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อนำไปจัดซื้อที่ดินก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมประกอบศาสนกิจทางศาสนาในพื้นที่ต่อไป
นางนนทกรกล่าวว่า ส่วนยอดเงินที่มีประชาชนทำบุญมาขณะนี้คาดว่ามีประมาณ 5 แสนบาทแล้ว โดยเงินทุกบาทที่ติดพุ่มผ้าป่าจะนำถวายวัดหมด ส่วนนักปั่นมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดทุกคนจะดูแลตัวเอง แต่เรื่องที่พักนั้นจะขอความอนุเคราะห์จากสถานที่ราชการหรือวัดให้ได้กางเต็นท์ มีที่อาบน้ำ จะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง บางมื้อจะมีนักปั่นท้องถิ่น หรือชาวบ้านในท้องถิ่นที่ไปพักได้มาขอร่วมบุญเอื้อเฟื้อในการเลี้ยงอาหารในมื้อนั้นด้วย เพื่อเป็นการทำบุญร่วมด้วยช่วยกัน
นางนนทกรกล่าวว่า สำหรับผู้สนใจหรือผู้มีจิตศรัทธาอยากร่วมบริจาคทำบุญสามารถเข้าไปที่เพจนักปั่นพันบุญจะมีการเสนอการเดินทางว่าในหนึ่งวันได้ปั่นจักรยานบุญผ่านจังหวัดไหนบ้าง บางคนพบเจอก็ได้นำเงินมาร่วมติดพุ่มผ้าป่าพร้อมทั้งให้ร่วมกดติดตามในเพจนี้ เพื่อที่กลุ่มเพื่อนจะได้พบเห็นและได้รู้ว่ามีคณะกำลังเดินทางมา ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ย่อย ๆ ตอนนี้ที่มีการปั่นจักรยานบุญนำหน้าเราไปแล้วประมาณกว่า 100 คัน เหลือเราเป็นคู่สุดท้ายในการเดินทาง ที่ต้องสู้กับอากาศที่ร้อนจัดเป็นปัญหาต่อการเดินทาง จึงปั่นไปพักไป ส่วนชุดปั่นจักรยานจะมีหน้ากากปิดพรางใบหน้าช่วงเวลาแดดร้อนจัด ลักษณะคล้ายเสือดำที่ตนเองได้จัดพิมสติ๊กเกอร์ไว้แจกแก่ประชาชนที่สนใจ ประณามผู้ที่กระทำกับสัตว์ป่า เสือดำไม่ตายฟรี และร่วมกันรักษาดูแลสัตว์ป่าด้วย
ทั้งนี้การปั่นจักรยานในช่วงเย็นวันนี้จะผ่านอ.ปากท่อ เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ จ.เพชรบุรี ในคืนนี้จะไปพักที่โรงเรียนใน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ที่ให้ความอนุเคราะห์ให้กางเต็นท์พักค้างคืนชั่วคราว ก่อนจะเดินทางต่อไปในวันพรุ่งนี้สู่จุดหมายปลายทางสะพานบุญที่ จ.ปัตตานีในวันที่ 22 เมษายนนี้ ท่านใดที่พบเห็นก็สามารถร่วมทำบุญสร้างกุศลกันได้ตลอดเส้นทางที่เห็นนักปั่นจักรยานปั่นผ่าน
