เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายอิทธิชัย พรมพุทธ ผู้ใหญ่บ้านนาจาน หมู่ 4 ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ว่า 2 คืนติดต่อกันมาแล้วที่มีโขลงช้างป่าลงมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวกว่า 10 ตัว ลงมาเหยียบย่ำกัดกินพืชสวน เช่น ต้นกล้วยที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ตามคันนา และต้นกล้าที่ชาวนาเตรียมเอาไว้ปักดำ ถูกฝูงช้างป่าเหยียบย่ำทำลาย แม้แต่นาข้าวที่พึ่งปลูกเสร็จใหม่ๆ ก็ถูกทำลายเสียหายไปด้วย
นายสวัสดิ์ ผลจันทร์ 1 ในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า กล่าวว่า ปกติตนและภรรยาจะนอนค้างคืนอยู่บ้านพักซึ่งปลูกในสวนยางพาราริมนาข้าว โดยมีหลานสาวนอนอยู่ด้วย แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวว่ามีช้างป่ากำลังลงมาจากภูวัว พยายามไล่ต้อนกลับขึ้นภูวัวแล้วแต่ยังไม่ยอมขึ้น เกรงจะได้รับอันตรายจึงตัดสินใจพาภรรยาและหลานสาวกลับเข้าไปนอนในหมู่บ้านที่ห่างออกไป 2 กิโลเมตร พอรุ่งเช้าหลังจากส่งหลานไปโรงเรียนกลับไปดูที่นาแทบช็อก เมื่อเห็นที่นาตัวเองถูกช้างทำลายเสียหายพร้อมต้นกล้วยประมาณ 100 ต้น ตามคันนาและแปลงนามีแต่รอยเท้าและขี้ช้างเต็มไปหมด แต่โชคดีที่ตนหนีไปนอนในหมู่บ้าน หากนอนเฝ้านาอาจโดนช้างทำร้ายเอาได้ ปีนี้ช้างโขลงนี้ได้ลงมาทำลายพืชสวนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
ด้านนายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเข้าฤดูฝน อาหารและน้ำที่อยู่บนภูวัวเริ่มมีมากแล้ว แต่ช้างก็ยังลงจากภูมาหากินด้านล่าง สาเหตุเนื่องจากข้างบนภูวัวมีอาหารน้อยไม่พอจะกิน เพราะปีนี้ช้างภูวัวเพิ่มจำนวนขึ้นรวมประมาณ 43 ตัว ซึ่งหลายปีก่อนมีอยู่แค่ 36 ตัว ส่วนความเสียหายของชาวนาที่ถูกช้างทำลายพืชสวนนาไร่เสียหายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจว่าเสียหายจำนวนเท่าไร ซึ่งก็จะมีหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ โดยจะทำเรื่องนำเสนอขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นก่อน
