เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ มีการจัดงานรำลึกศาสตราจารย์ ไพโรจน์ ชัยนาม ครั้งที่ 9 โดยในช่วงเช้าตั้งแต่เวลาประมาณ 0.800 น. เป็นการประกอบพิธีสงฆ์โดยมีคณาจารย์ และบุคลากรคณะนิติศาสตร์ มธ. เข้าร่วม จากนั้น เวลาประมาณ 09.30 น. มีการจัดเสวนาหัวข้อ “บทเรียนการเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ ฉบับ 60” ที่ห้องประชุมจิตติ ติงศภัทิย์ ดำเนินรายการโดย รศ. อานนท์ มาเม้า อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. (อ่านข่าว นิติ มธ. รำลึก ‘ศ.ไพโรจน์ ชัยนาม’ ถอดบทเรียนเลือกตั้ง รธน.60 ชี้ ‘ท่าดีทีเหลว’ ไม่เป็นสากล)
ในตอนหนึ่ง นายอัษฎา ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ บุตรชายศาสตราจารย์ไพโรจน์ ชัยนาม ซึ่งเข้าร่วมฟังเสวนาดังกล่าว ได้แสดงความเห็นว่า เมื่อครั้งมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เสร็จใหม่ๆ มีประชาชนกลุ่มเสื้อเหลือง ต้องการให้มีสัมมนาเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญที่ร่างเสร็จมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร แต่รัฐบาลไม่ยอม แสดงว่ามีความไม่ไม่โปร่งใส นี่คือความเห็นส่วนตัว แต่คิดว่าหลายคนก็คงคิดเหมือนตน
“ผมยากจะเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส และการให้ประชาชนเรียนรู้นี่คือเรื่องสำคัญมาก ตอนนั้นเขาไม่ยอมให้จัดสัมมนา อ้างเรื่องห้ามรวมตัวเกิน 5 คน นาทีสุดท้ายก็อนุมัติให้หน่วยราชการจัดการอธิบายได้ว่ารัฐบาลมีหลักการอย่างไร มีเป้าหมายอย่างไร แต่เขาแจ้งมาวันศุกร์ ส่งมาทางอีเมลล์ แล้วให้ไปวันจันทร์ เลยไม่ไป โกรธ เสียเวลา เพราะอย่างไรก็ไม่ได้อยากให้รู้อยู่แล้ว คุณต้องเชื่อใจคนไทย ไม่ใช่จะเอาประโยชน์อย่างเดียว ยิ่งทำให้สงสัยว่าทำอะไรกันอยู่” นายอัษฎากล่าว
นายอัษฎา กล่าวอีกว่า ตนเป็นอดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เคยมีสื่อมาสัมภาษณ์ประเด็นการเลือกตั้งในต่างประเทศ ตอนนั้นมีความเห็นว่าไม่จำเป็น เพราะคนไทยในต่างประเทศมีไม่มากเท่าไหร่ คนที่สนใจก็มี แต่เป็นส่วนน้อย อย่างไรก็ตาม หลังให้สัมภาษณ์แล้ว รู้สึกเสียใจว่าให้ความเห็นผิดไป เพราะให้ความเห็นในลักษณะจำนวนคน ครั้งนี้ก็มีปัญหาที่นิวซีแลนด์ คนออกมาประท้วง
“คนที่เขาอยากเลือกตั้งมี ถึงแม้เป็นส่วนน้อย สมมตว่ามีคนไทย 100 คน อาจจะมีแค่ 1 ส่วน 5 หรือสัก 20 คนที่สนใจจะเลือกตั้ง สมัยที่ผมเป็นทูต มีคนไทยอยู่ที่นั่นประมาณ 3,000 คน เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นชาวเกาะพวกซามัวร์ หมู่เกาะแปซิฟิก เสียงของคนเหล่านี้มีความหมาย และมีความสนใจ ตอนนี้ความเห็นผมเปลี่ยนไป รู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้าที่มองว่าอาจไม่จำเป็น”
จากนั้น นายอัษฎา กล่าวปิดท้ายว่า
“กกต. มีงบประมาณ เขาก็ไปเที่ยว แล้วบอกว่าไปดูงาน ไปยุโรป ก็โอเค ไม่มีปัญหาอะร แต่ถ้าจะไป น่าจะไปประเทศที่มีคนไทยเยอะ อย่างออสเตรเลีย แต่กลับไม่ไป และดูตัวอย่างประเทศอื่นที่เขามีคนของตัวเองอยู่ต่างประเทศ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮือฮา! เลขาศาลรธน.แจงกลางเสวนา ‘บทเรียนการเลือกตั้งฯ’ นิติ ธรรมศาสตร์
