ย้อนรอย เตาเผาขยะ1.3 หมื่นล้าน เปิดเบื้องหลังรองผู้ว่าฯกทม.ไขก๊อก-ไม่อยากเสี่ยงคุก

ตะลึง มึนงง กันไปทั้งศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เมื่อมีข่าวว่า “จักกพันธุ์ ผิวงาม” รองผู้ว่าฯกทม. ได้ยื่นหนังสือลาออกจากเก้าอี้ อย่างไร้ปี่-ไม่มีขลุ่ย ต่อ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา

สะพัดกันให้แซ่ดว่า เหตุที่ “จักกพันธุ์” ไขก๊อก อาจเพราะถูกกดดันหนักให้เซ็นอนุมัติโครงการประกวดราคาจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน เพื่อผลิตไฟฟ้า ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและหนองแขม โครงการละ 6,570 ล้านบาท รวม 13,140 ล้านบาท

หากเป็นเหตุจากเรื่องนี้จริง ก็มีคำถามตามมาว่า โครงการนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล ถึงกับทำให้ “จักกพันธุ์” ตัดสินใจไขก๊อก

ย้อนไป เมื่อวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2561 ทางกองกำจัดมูลฝอย สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.ลงประกาศร่างทีโออาร์ประกวดราคาจ้างเหมาเอกชนโครงการดังกล่าว ผ่านเว็บไซต์ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ www.gprocurement.go.th ของกรมบัญชีกลาง เพื่อรับฟังคำวิจารณ์เพียงแค่ 4 วัน

Advertisement

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์กันขรมว่าส่อจะล็อกสเปกให้บางรายหรือไม่ เพราะกำหนดเงื่อนไขแบบละเอียดยิบ แถมยังมีกำหนดเวลาให้ยื่นซองอย่างกระชั้นชิด ที่แทบจะปิดประตูไม่ให้บริษัทจากต่างประเทศร่วมประมูล แม้จะมีเทคโนโลยีดีแค่ไหนก็ตาม เพราะเวลากระชั้นชิดมาก ไม่สามารถแปลเอกสารเป็นพันๆ หน้าให้เป็นภาษาไทย แล้วต้องวิ่งไปขอการรับรองจากสถานทูตไทยในประเทศนั้นๆ อีก

ถึงขนาดสถานทูตญี่ปุ่นทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย และ กทม.ขอให้ยืดเวลาการประมูลออกไปเพื่อให้เอกชนของญี่ปุ่นมีโอกาสเข้าร่วม แต่ก็ไม่ได้การตอบรับ ทาง กทม.ยืนยันเดินหน้าประมูลตามเดิม

Advertisement

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องราคากลางค่าจ้างกำจัดขยะตันละ 900 บาท ที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าสูงกว่าการจ้างในระบบเดียวกันอย่างภูเก็ต แค่ตันละ 300 บาท/ตัน หรือที่ขอนแก่นก็เพียงตันละ 250 บาท

อีกประเด็นที่ทำให้มึนงงกันเป็นแถว คือการสืบราคากลางอ้างอิงจากบริษัทค้าปลีก-ค้าส่งบุหรี่ ที่ตลอด 5 ปีของการทำธุรกิจมีรายได้มากสุดแค่ 30 บาท แต่ กทม.ดันเอามาสืบราคากลางอ้างอิงโครงการที่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท

แต่ กทม.ก็ไม่สนเสียงนกเสียงกา ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนมาร่วมประมูลเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 มีเอกชนร่วมยื่นซองประมูลโครงการที่หนองแขม 5 ราย ส่วนโครงการที่อ่อนนุช 8 ราย

“จักกพันธุ์ ผิวงาม” รองผู้ว่าฯกทม. ได้ยื่นหนังสือลาออกจากเก้าอี้

มีหลายปมที่ดูท่าจะไม่ชอบมาพากล จนมีการร้องเรียนไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ

ทาง ป.ป.ช.ก็ทำเรื่องถึงปลัด กทม. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว อาทิ หลักเกณฑ์และพิธีพิจารณาการกำหนด ทีโออาร์ หลักเกณฑ์และที่มาการอ้างอิงและกำหนดราคากลาง และสำเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ.7) ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอน

ไม่รู้ว่า เพราะป.ป.ช.เริ่มเข้ามาตรวจสอบหรือไม่ ทำให้มีข้าราชการ 3 คนที่เป็นกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการดังกล่าว ขอลาออก โดยระบุเหตุลาออกว่าติดภารกิจอื่นและไม่มีความรู้ความสามารถพอที่จะพิจารณาเรื่องนี้

แต่ทาง กทม.ก็ยังเดินหน้าต่อ ด้วยการตั้งข้าราชการ 3 คนเข้าไปเป็นกรรมการแทน เพื่อดันทุรังโครงการนี้ให้ได้

กระทั่งกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ก็มีมติตามที่รู้ๆ กันอยู่ แล้วส่งเรื่องไปถึง “จักกพันธุ์ ผิวงาม” รองผู้ว่าฯกทม.ในฐานะที่กำกับดูแลเป็นคนเซ็นอนุมัติ

แต่ด้วยโครงการที่ส่อว่าไม่ชอบมาพากลในหลายเรื่อง “จักกพันธุ์ ผิวงาม” จึงเลือกที่ลาออกจากเก้าอี้รองผู้ว่าฯกทม. ดีกว่าเซ็นไปแล้วเสี่ยงกับคุกตะราง

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จักกพันธุ์ ผิวงาม’ ลาออก รองผู้ว่าฯกทม. หลังถูกบีบเซ็นโครงการเตาเผาขยะหมื่นล้าน

‘อัศวิน’ ตกใจ ‘รองผู้ว่าฯกทม.’ ด่วนลาออก รับเป็นคนสนิทเลือกมาทำงานเอง

‘ผอ.สิ่งแวดล้อม’ ยันโครงการ ‘เตาเผาขยะหมื่นล้าน’ โปร่งใส ยื่นเอกสารชี้แจง ป.ป.ช.แล้ว

เปิดประวัติ “จักกพันธุ์ ผิวงาม” รองผู้ว่าฯกทม. ตงฉิน ขอไม่เอี่ยว เตาเผาขยะหมื่นล้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image