ศิริโชค ขอดูสำนวน ยกคำร้อง เด็กภท.แจกเงิน-จัดเลี้ยง ฮึ่มเอาเรื่อง จ่อฟ้องกกต.ยกชุก

“ศิริโชค” ร่อนหนังสือถึง กกต. ขอสำนวนการสอบสวน กรณียกคำร้องเด็ก ภท. เขต 7 สงขลา แจกเงิน-จัดเลี้ยง จ่อฟ้อง กกต.ทั้งชุด เอาผิดอาญา 157 ยันที่ทำ ไม่ใช่แพ้แล้วไม่ยอมแพ้ แต่สู้เพื่อรักษาสิทธิ -บรรทัดฐานในอนาคต

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.นายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลา และผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 7 จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวน ของคำวินิจฉัย กกต.ที่ 57/2562 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 และคำวินิจฉัยกกต.ที่ 89/2562 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา ซึ่งกกต.ได้ยกคำร้องที่ตนร้องนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ว่าได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 73 วรรค 1 (1) และ (4) เพราะตนมีความเห็นแย้งกับคำวินิจฉัย ทั้งเรื่องการแจกเงินจำนวน 1,500 บาท เป็นแบ็งค์ 500 สามใบ โดยมีผู้มีสิทธิในบ้าน 3 คน ที่มีทั้งพยานหลักฐาน แต่ กกต.กลับเชื่อฝ่ายผู้ถูกร้องว่าเป็นเงินยืม และกรณียกคำร้องเรื่องจัดเลี้ยงโดยให้เหตุผลว่า เป็นการดำเนินการก่อนการรับสมัคร จัดเลี้ยงญาติ และไม่พูดจูงใจไม่มีความผิด ทั้ง ๆ ที่ที่ผ่านมาการนับหนึ่งการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจะเริ่มตั้งแต่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง อีกทั้งกฎหมายเลือกตั้ง ก็เขียนชัดเจนเกี่ยวกับข้อห้ามในเรื่องการจัดเลี้ยง โดยไม่มีข้อยกเว้นว่าเลี้ยงญาติไม่เป็นไร หรือถ้าไม่พูดจูงใจก็จัดเลี้ยงได้

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรึกษาทีมทนายความว่าจะดำเนินการฟ้องกกต.ทั้งชุดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ โดยเอกสารที่ขอจากกกต.ครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจ”นายศิริโชค กล่าว

นายศิริโชค กล่าวต่อว่า กกต.ต้องส่งมอบเอกสารตามที่ตนได้ขอไป เพราะเป็นการดำเนินการตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ.2540 มาตรา 9 ภายใต้บังคับมาตรา 14 และมาตรา 15 หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการให้ประชาชนเข้าดูได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด (1) ผลการพิจารณาหรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน รวมทั้งความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาวินิจฉัย โดยหวังว่า กกต.จะส่งเอกสารที่ร้องขอให้โดยเร่งด่วนต่อไป

Advertisement

“ที่ผมเดินหน้าเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะแพ้แล้วไม่ยอมแพ้ แต่เป็นการดำเนินการตามช่องทางของกฎหมาย เมื่อเห็นว่าคำวินิจฉัยของ กกต.มีปัญหา ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อรักษาสิทธิของตัวเองเท่านั้น แต่ยังจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งในอนาคต ที่จะได้รับทราบถึงบรรทัดฐานการพิจารณาคดีในลักษณะเดียวกันของ กกต. เพื่อจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้องด้วย ผมยังยืนยันว่าถ้ามาตรฐานการตัดสินที่กกต.ทำในเรื่องการจัดเลี้ยงว่า ทำก่อนวันรับสมัคร เลี้ยงญาติ ไม่พูดจูงใจ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ต่อไปกฎหมายเรื่องการห้ามจัดเลี้ยงจะใช้งานไม่ได้อีก” นายศิริโชค กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image