แรมโบ้อีสานมาแล้ว! ปัดดูด ส.ส.ทั้งพรรค ชี้หญิงหน่อย อย่าตื่นตูมแค่พบปะเพื่อนต่างพรรค (คลิป)

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังกราบสักการะวางพวงมาลัยอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ว่า กรณีที่มีข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่าถูกดูด ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนคิดว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยเรียกว่า กระต่ายตื่นตูม เรื่องการย้ายพรรค การจะย้ายพรรคกฎหมายรัฐธรรมนูญก็บอกแล้วว่าการย้ายพรรคในกรณีย้ายมาเลยมันทำไม่ได้ ยกเว้นจะมีการยุบพรรคหรือกรณีที่มีมติพรรคขับออกจากพรรค

ประเด็นเหล่านี้ตนคิดว่าการพบปะพูดคุยตนเองเจอเพื่อน ส.ส.พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่น ซึ่งเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่กันทั้งนั้น มีการพูดคุยกัน ทักทายกัน กระเซ้าเหย้าแหย่กันและไม่เห็นมีปรากฏท่าทีอะไรที่ทางเรา (พรรคพลังประชารัฐ) จะไปทาบทามบุคคลใดมา สำคัญที่สุดที่บอกว่ามีคลิปก็ไม่เห็นมีคลิปไหนมาปรากฏขึ้นมาเลย

ตนถึงบอกว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยต้องไปย้อนดูอดีตว่า ในสมัยเป็นพรรคไทยรักไทย พรรคไทยรักไทยเองอย่าว่าแต่ดูด ส.ส.เลย ดูดทั้งพรรคก็ทำมาแล้ว ย้ายพรรคกันจ้าละหวั่นก็ทำมาแล้ว แต่วันนี้พอแค่มีข่าวว่ามีพรรคพลังประชารัฐไปพบไปพูดคุยกินข้าวกันบ้างก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เขาเรียกว่า กระต่ายตื่นตูม กินปูนร้อนท้อง ตนไม่อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และคนของพรรคเพื่อไทย อย่าทำตัวเป็นคนที่มีความรู้สึกว่า จะถูกดูด ส.ส.ในพรรคตัวเองมาอยู่ในค่ายพลังประชารัฐ

“ถามสักคำว่า ในพรรคเคลียกันได้หรือเปล่า ปัญหามุ้ง ปัญหากลุ่มต่างๆ ในพรรคเคลียกันให้สงบเถิด สร้างบรรยากาศในพรรคให้เข้มแข็งเถิด ถ้าพรรคยังไม่มีความเข้มแข็ง ถ้าในพรรคเพื่อไทยยังมีมุ้ง มีกลุ่ม และแบ่งพรรคแบ่งพรรคกันอย่างนี้ คนเชื่อมั่นว่าความสุขในพรรคเพื่อไทย ความสงบสุขหรือความเป็นเอกภาพในพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีแล้วในที่สุด ส.ส.ทุกคนเขาก็ไม่อยากจะอยู่ในบรรยากาศอย่างนั้น หลายคนก็อาจจะเบื่อหน่าย ยกตัวอย่างเช่น ส.ส.ครูมานิต ส.ส.ตี๋ใหญ่ จ.สุรินทร์ พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยแล้งก็เอาเรื่องมาร้องเรียนนายกรัฐมนตรี กราบเรียนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงที่ไปตรวจราชการที่ จ.สุรินทร์ เพื่อแก้ไขปัญหากับกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ปรากฏว่า 2 ส.ส.พรรคเพื่อไทยเอาเรื่องมากราบเรียนนายกฯ ประยุทธ์ เป็นสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม

Advertisement

ในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชน โดยเห็นว่าอะไรที่จะได้ประโยชน์ต่อประชาชนก็มาร้องเรียนนายกรัฐมนตรี แต่พอกลับไปถึงพรรคเพื่อไทย โดนทางพรรคตั้งกรรมการสอบสวน อย่างนี้แสดงว่า ความคิดของพรรคเพื่อไทย ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยมีวิสัยทัศน์แค่ไหน เรื่องอย่างนี้ยังตั้งกรรมการสอบสวน เห็นไหม๊ความใจแคบ ใจไม่กว้างของผู้บริหารพรรคเพื่อไทยคิดได้อย่างไร

ดังนั้นตนถึงบอกว่า สิ่งที่มีข่าวออกไปที่คุณหญิง และบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยพูดออกไปนั้น ตนไม่เห็นวิตกกังวลอะไรเลย ตนถือว่า เป็นเรื่องจิบจ๊อย เป็นเรื่องเฉยๆ ที่ไม่ควรจะเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง แล้วเอามาโจมตีพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนที่มีหลายฝ่ายมองว่าฝ่ายค้านต้องแต่เรื่องการรัฐธรรมนูญ ไม่ห่วงเรื่องปากท้องประชาชนนั้น ตนคิดว่าพวกเรา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งการรัฐมนตรี ส.ส.ทุกพื้นที่รับผิดชอบ ท่านห่วงใยพี่น้องประชาชนประสบอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานีและทุกๆจังหวัดในภาคอีสาน แต่ในขณะเดียวกันความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนต้องอาศัยนักการเมือง ผู้แทน และ ส.ส.ลงไปร่วมไม้ร่วมแรงร่วมใจกันในการช่วยเหลือความทุกข์ยากให้พี่น้อง แต่วันนี้เอาแต่ประเด็นทางการเมือง จะต้องหาประเด็นมาโจมตีรัฐบาล หาช่องทางเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหลายๆประเด็น พูดง่ายๆ ว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์

Advertisement

หายใจอะไรก็ไม่ได้ ขยับอะไรก็ไม่ได้ จ้องแต่จับผิดอย่างเดียว ตนบอกว่าตอนนี้บ้านนี้เมืองนี้ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่ผ่านมา ที่บ้านเมืองไม่ปองดองที่ผ่านมา ให้พี่น้องประชาชนคิดเอาเองว่า เกิดจากใคร พอมีบรรยากาศของการเลือกตั้ง มีบรรยากาศของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง พอเลือกตั้งเสร็จแล้วท่านก็กัดไม่ปล่อย หาเรื่องโจมตีไม่ปล่อย แล้วอย่างนี้จะให้บ้านเมืองเดินไปได้อย่างไร แล้วจะให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ฯ และคณะรัฐมนตรีบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร เพราะพวกท่านคอยขัดแข้งขัดขา และคอยโจมตีกล่าวหา ขยับอะไรก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ท่านนายกรัฐมนตรีไป จ.อุบลฯ ก็เอามาโจมตีวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างนี้ ทำดีก็ไม่ได้ดี มันคือการสร้างบรรยากาศการเมืองที่มันไม่มีความสุข และสร้างบรรยากาศการเมืองที่แตกแยกจริงๆ ตนถึงบอกว่าอยากให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าพรรคการเมืองไหนที่พยายามที่จะทำลายและสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในบ้านในเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาถูกกลุ่มถือป้ายประท้วงทั้งที่ไม่รู้จักประเทศไทยตั้งข้อสังเกตอย่างไร

นายสุภรณ์ฯกล่าวว่า นี่ที่ตนตั้งข้อสังเกตแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีไปประชุมที่ ยูเอ็น.เอาคนต่างชาติและไม่รู้จักประเทศไทยมาชูป้าย มาขับไล่นายกรัฐมนตรี มาด่าว่านายกฯ ตนว่านี่คือการจัดตั้ง การจัดตั้งชัดเจนและต้องการที่จะดิสเครดิตและใส่ร้ายท่านนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีไม่สนใจ ท่านบอกว่าไม่มีเวลามาทะเลาะกับคนพวกนี้ มีเวลาคิดอย่างเดียวที่จะสร้างบ้านสร้างเมือง สร้างประเทศชาติทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ดังนั้นกลุ่มพรรคการเมืองกลุ่มนี้ที่เป็นฝ่ายหนุนหลังในที่สุดก็จะถูกปรากฏต่อสาธารณะ ต่อสาตาพี่น้องประชาชนว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเล่นการเมืองแบบสกปรก ไร้จรรยาบรรณอย่างสิ้นคิด ขอให้ประชาชนได้ติดตามว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นคนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ประเทศชาติและประชาชนเลย

“วันนี้กลับมาไหว้คุณย่าโม กราบขอพรย่าโมว่า สิ่งอะไรที่ในฐานะที่เป็นลูกย่า หลานย่า คนนี้ได้ทำอะไรมาในอดีต ไม่ถูก ไม่ต้อง ไม่ดี ไม่งาม กราบขออภัยย่า ขอให้ย่าได้อโหสิกรรมให้กับลูกหลานของท่านคนนี้ และหลังจากวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ผมเองอยากจะตั้งใจทำงาน รับใช้พี่น้องพัฒนาเมืองโคราช พัฒนาประเทศ สร้างชาวอีสานให้มีความเจริญรุ่งเรือง ให้อยู่ดีกินดีตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล และท่านนายกรัฐมนตรีเองก็เป็นคนโคราช ผมก็ไม่อยากทำตัวให้นายกรัฐมนตรีผิดหวัง ในฐานะผมเป็นลูกโคราชคนบ้านเกิดเมืองนอนกับนายกรัฐมนตรีก็ไม่อยากทำให้ท่านนายกฯผิดหวังในตัวผมที่ท่านได้มอบความไว้วางใจให้ผมกลับมาทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองในตำแหน่งนี้” นายสุภรณ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image