‘กลุ่มแคร์’ ชงรัฐอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้าน ชุบชีวิตเอสเอ็มอี ลดดอก-ปลอดต้น 4 ปี

‘กลุ่มแคร์’ ชงรัฐอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้าน ชุบชีวิตเอสเอ็มอี ลดดอก-ปลอดต้น 4 ปี

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน กลุ่มแคร์คิดเคลื่อนไทย ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “CARE คิด เคลื่อน ไทย” หัวข้อ ทางรอดจาก “ตุลามหาวิกฤต” CARE เสนอปังๆ และเปย์ๆ แบบ #DareToCare ฟังแล้วถึงกับ “อ้าปากค้าง” โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชาชน สมาชิกเริ่มต้นกลุ่มแคร์, นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง สมาชิกเริ่มต้นกลุ่มแคร์ และนายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร สมาชิกเริ่มต้นกลุ่มแคร์ ดำเนินรายการโดย น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือแขก คำผกา

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ที่คุยกันว่าผู้ป่วยในประเทศเป็น 0 คนมานานกว่า 30 วัน หรือผู้ป่วยที่อาการรุนแรงจริงๆ บางวันมี 1 คน บางวันไม่มีเลย ฉะนั้น สถานการณ์แบบนี้หลายประเทศประกาศชัยชนะ พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้ว ขณะที่ไทยยังไม่รู้ว่าจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์หรือไม่ ทั้งนี้ ได้บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่จำเป็นเลย เราสามารถใช้ พ.ร.บ.โรคระบาด หรือ พ.ร.บ.เดินอากาศได้ และทำได้อย่างดีจนทุกประเทศบอกว่าไทยเป็นตัวอย่าง ศักยภาพของไทยวันนี้อยากให้ผู้ป่วยใหม่เป็น 0 เรื่อยๆ แต่ถ้ามีขึ้นมาบ้างก็ไม่น่ากลัวแล้ว เพราะเรามีเตียงไอซียูเพียงพอในการรองรับ

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า วันนี้น้ำเสียงของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไม่เหมือนเดิมแล้ว สธ.ระบุว่าสามารถสบายใจได้แล้ว ถ้ามีผู้ป่วยเล็กน้อยก็ไม่น่ากังวล วันนี้ควรเริ่มคุยกันเรื่องท่องเที่ยวได้แล้ว ทั้งหมดนี้ทำให้คิดว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้คนที่รับผิดชอบจริงๆ หรือมีความรู้เรื่องนี้ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องรอ ผอ.ศบค.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวที่เห็นข้อมูลวอร์รูมจาก สธ.ทุกวันรู้สึกสบายใจแล้วว่าเรื่องโควิด-19 ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว แต่ที่กังวลมากกว่าคือ 150 วันอันตราย หรือเดือนตุลาคมที่จะมาถึง เศรษฐกิจจะหนักหนามากชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กล่าวได้ว่าเป็น ตุลามหาวิกฤต

Advertisement

 

นายดวงฤทธิ์กล่าวว่า ข่าวทำให้ใจแป้วคือเรื่อง แทรเวล บับเบิล ที่ระบุว่าอีก 2 เดือนค่อนยมาคุยกัน ไม่ได้หมายความว่าจะเปิด เพราะสิ่งต่อเนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวจำนวนมากน่าเป็นห่วง อาทิ อาหาร ร้านอาหาร โรงแรม งานฝีมือที่ทำขายนักท่องเที่ยว ซึ่งกำลังพูดถึงเอสเอ็มอีที่มีอยู่ส่วนใหญ่ จนถึงซัพพลายเชนของอาหาร เช่น การเกษตรทั้งหมด โดยจะเห็นว่าถ้าไม่ตัดสินใจเปิดการท่องเที่ยวก็น่าห่วง ผมเองทำงานออกแบบให้โรงแรม ร้านอาหาร เห็นภาพแล้วว่าไม่มีความหวังเลย

Advertisement

นายศุภวุฒิกล่าวว่า อยากเปรียบเทียบว่าวิกฤตโควิด-19 เสมือนเราเดินอยู่แล้วแผ่นดินแยกเป็นเหว ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลในการสร้างสะพานข้ามไปอีกฟากหนึ่ง หากสะพานนี้สร้างไม่ครบก็ไม่มีประโยชน์เพราะเดินแล้วตก หรือหากสร้างแล้วเกิดช่องว่าง คนอ่อนแอก็ตกลงไปตาย ผู้ที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะกระโดดข้ามไปได้ ดังนั้น ถ้าสร้างสะพานต้องสร้างแบบก้าวให้ครบ ทั้งนี้ ในเชิงวิชาการพูดกันเสมอว่าโควิด-19 ใช้เวลาหาวัคซีน และฉีดทั่วโลกได้ 2 ปี ดังนั้น ต้องมีมาตรการให้คนมากที่สุดรอดใน 2 ปีข้างหน้า ถ้าคิดในกรอบนี้จึงรู้ว่าขนาดของแพคเกจที่ออกมาต้องเพียงพอช่วยธุรกิจส่วนใหญ่ก้าวข้ามไปได้ประมาณ 2 ปี

นายศุภวุฒิกล่าวว่า โมเดลที่นำเสนออย่างถ้วนหน้าเท่าที่คิดว่ามีประสิทธิผลคือ ก่อนหน้านี้เรามีเอ็นพีแอลแล้ว 5 แสนล้าน มีหนี้จากชั้นพิเศษ 1.2 และคาดว่าจะหล่นชั้นมาเอ็นเอ็นพีแอลอีก 1.7 ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลจากแบงก์ชาติว่ามีเอสเอ็มอีที่มาขอพักดอกเบี้ยราว 1 ล้านกว่าราย รวมมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ดังนั้น จึงเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อผ่อนปรนวงเงิน 2 ล้านล้านบาท คิดดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ปลอดการชำระเงินต้นเป็นเวลา 4 ปี เมื่อปล่อยกู้แล้วเอสเอ็มอีต้องมีเงินทำธุรกิจต่อนเนื่องราว 1 ปี คืนหนี้ 4 ปี ทั้งนี้ ต้องสร้างเงื่อนไขว่าเงินต้องลงไปที่เอสเอ็มอีจริง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องทำใจว่าหนี้ 2 ล้านล้านบาท อาจสร้างความเสียหายได้ถึง 4 แสนล้านบาท แต่หากทำดี ทำเร็วจริง เศรษฐกิจฟื้นได้ดี มูลค่าหนี้อาจต่ำกว่านี้

“จำนวนเงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น คนใส่เงินคือแบงก์ชาติ โดยให้แบงก์ชาติปล่อยกู้แบงก์อื่นๆ ในอัตราดอกเบี้ย 0.01 เปอร์เซ็นต์ ให้แบงก์ปล่อยกู้ 2 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น 5 แสนล้านบาท แปลงเป็น 2 ล้านล้านบาทได้ง่ายมาก ขณะเดียวกันก็แนะนำให้รัฐบาลออกพันธบัตรให้แบงก์ชาติซื้อ โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ย 0.01 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นพันบัตร 100 ปี และให้สามารถต่ออายุได้อีก 100 ปี” นายศุภวุฒิกล่าว

ย้อนอ่าน : ‘ศุภวุฒิ’ แนะ รบ.ดึงทุนสำรองแบงก์ชาติออกพันธบัตร หนุนเด็กไทยเรียนด้านสุขภาพ ขับเคลื่อนเป็นประเทศ Wellness โลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image