‘พงศ์เทพ’ ขอบคุณการเคลื่อนไหว น.ร.-น.ศ.เปิดทางแก้รัฐธรรมนูญ แนะตั้ง กกต.เฉพาะกิจ จัดเลือกตั้ง ส.ส.ร.

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ห้องประชุมคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ชั้น 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และองค์กรเครือข่าย จัดเสวนาวิชาการและเวทีระดมความคิดหัวข้อ “สสร.แบบไหน…ที่คนไทยต้องการ” โดยมีนักวิชาการ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และตัวแทนพรรคการเมือง ร่วมแสดงความเห็น

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านการพัฒนาพรรค พรรคเพื่อไทย และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) พ.ศ.2539 กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ผู้ร่างขนานนามว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง และพยายามบอกว่าใครคิดแก้ไขเปลี่ยนแปลงแสดงว่าเป็นพวกคิดจะไปโกง แต่ต้องเรียนตรงๆ ว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ถ้าจะขนานนามให้ถูกต้องคือเป็นรัฐธรรมนูญอภิมหาโกง ทั้งนี้ ที่ขนานนามอย่างนั้น เพราะตั้งแต่แรกมีการโกงอำนาจประชาชนไปยกร่าง ตอนทำประชามติ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นประชามติแบบโกงๆ ให้ข้อมุูลฝ่ายเดียว ปิดปากฝ่ายตรงข้าม แต่ก็ยังบอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติมา คนที่พูดนั้นไม่มีสำนึกของความยุติธรรมเลยหรือ

นายพงศ์เทพกล่าวว่า ขณะเดียวกัน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังวางกลไกในการสืบทอดอำนาจ มีการโกงประชาชนโดยตลอด แล้วบอกประชาชนว่าตัวเองเข้ามาด้วยการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปไตยที่ประหลาดมาก เช่น การให้ 250 ส.ว. ซึ่งไม่ได้มาจากประชาชนมาเลือกนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังเขียนบทบัญญัติไว้ในมาตรา 279 ที่ว่า หากมีการโกงเกิดขึ้น ระบบตรวจสอบแบบโกงๆ ที่สร้างขึ้นก็ไม่ต้องไปตรวจสอบ และกลไกการตรวจสอบทั้งหลายก็ไปตรวจสอบเขาไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดถือเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น

“ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่เขาออกรัฐธรรมนูญมาใหม่ๆ ว่า ฉบับนี้เขียนมาเพื่อไม่ได้ให้แก้ไข เพราะได้ผูกกลไกไว้ให้แก้ไขยาก เขาเขียนมาเพื่อให้ฉีกหรือยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยคิดว่าความพยายามยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ พร้อมให้มี ส.ส.ร.จะเป็นไปได้ กระทั่งมีการเคลื่อนไหวด้านนอกจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา ภาคประชาชน นักวิชาการ ก็ต้องขอบคุณจริงๆ เขาทำให้สิ่งที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นไปได้สามารถเป็นไปได้” นายพงศ์เทพกล่าว

ADVERTISMENT

นายพงศ์เทพกล่าวว่า คุณสมบัติ ส.ส.ร.ชุดใหม่ที่คนไทยต้องการคิดว่าจุดสำคัญคือ มีความมุ่งมั่น สุจริตใจที่จะมายกร่างรัฐธรรมนูญโดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ขณะเดียวกัน ส.ส.ร.ต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นนักประชาธิปไตย เปิดกว้างในการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ส่วนเขาควรได้รับอาณัติจากใครนั้น คิดว่าต้องเป็นประชาชน ดังนั้น ที่มาของ ส.ส.ร.ด้วยการเลือกตั้งโดยประชานเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและมีเหตุผลที่สุด

ADVERTISMENT

นายพงศ์เทพกล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ร.ปี 2540 ใช้เวลา 240 วัน ซึ่งรัฐธรรมนูญก่อนหน้านั้นกับฉบับ 2540 เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกแผ่นดิน ตอนรัฐธรรมนูญ 2550 มีกรอบรัฐธรรมนูญ 2540 อยู่แล้ว จึงใช้เวลายกร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว 180 วัน คิดว่าในปัจจุบัน ส.ส.ร.ชุดใหม่ควรให้เวลา 120 วัน ขณะเดียวกัน ภาคประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาก็เป็นกลไกสำคัญในการรวบรวมความเห็นประเด็นสำคัญต่างๆ เมื่อ ส.ส.ร.เข้ามาก็ยกให้เขาได้เลยว่าประชาชนให้ความเห็นมาอย่างนี้ สามารถนำไปตัดสินใจได้เลย

“กลไกที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือผู้จัดการการเลือกตั้ง ส.ส.ร. หรือหมายถึง กกต. โดยเราสามารถเชื่อมั่น กกต.ชุดนี้ได้มากแค่ไหน ดังนั้น จึงคิดว่า ควรมี กกต.เฉพาะกิจใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ร. โดยคัดเลือกจาก กกต.ปัจจุบัน 2 คน และใช้กลไกสภา โดยให้รัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นชอบอีก 5 คน รวมเป็น 7 คน อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการที่ถ้ามี ส.ส.ร.แล้ว เราจะได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งพวกเราทั้งหลาย นิสิต นักศึกษา ประชาชน ต้องติดตามการทำงานของ ส.ส.ร.อย่างใกล้ชิด ต้องมาร่วมในการทำงานของ ส.ส.ร. เพราะเวลาอันจำกัด หากไม่ร่วมกันจริงๆ ก็ยากที่ ส.ส.ร.จะทำงานนี้ให้สำเร็จและทำได้ดี” นายพงศ์เทพกล่าว

ย้อนอ่าน : อดีต ส.ส.ร.ปี 2539 จวกเละรัฐธรรมนูญ 60 แนะสเปก ส.ส.ร.ชุดใหม่ มีทั้งคนรุ่นเก่า-ใหม่อย่างละครึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image