‘หมอวรงค์’ เชื่อ แกนนำม็อบขัดแย้ง เป้าหมายไม่ชัด เผยส่องโซเชียลส่องโพสต์อ่านเมนต์ ทั้งกลางวัน กลางคืน
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ที่ทำการกลุ่มไทยภักดี ถนนพระรามที่ 5 เวลา 10.30 น. มีการจัดแถลงข่าว “1 สิทธิ์ 1 เสียง” สนับสนุนมาตรา 112 นำโดย นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี ในตอนหนึ่ง นายแพทย์วรงค์ แสดงความเห็นในประเด็นกลุ่มเยาวชนปลดแอกซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ ต่อมา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ออกมาระบุว่า ตนอยู่ในกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมไม่ใช่เยาวชนปลดแอก โดยยืนยัน 3 ร้องเรียกร้องเดิม
นายแพทย์วรงค์กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่า กลุ่มแกนนำมีความขัดแย้งกันมาก แต่ละกลุ่มขัดแย้งกัน หลายคนกระโดดออกจากขบวน บางคนบอกว่าต้องการไปสถานีประชาธิปไตย ไม่ไปสถานีดินแดง บางคนบอกว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มเยาวชนปลดแอก แต่อยู่ในกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งบ่งบอกว่ามีความขัดแย้ง กรณีล่าสุดที่เยาวชนปลดแอกประกาศแนวทางคอมมิวนิสต์มาใช้ในประเทศไทย มีแรงต้านสูงมาก ตนเข้าไปอ่านคอมเมนต์ซึ่งมีจำนวนหลายพัน เชื่อว่า 99 เปอร์เซนต์ ไม่เห็นด้วย ดังนั้น สถานการณ์ตอนนี้ บทสรุปคือ ม็อบไม่มีความชัดเจนในเป้าหมาย ที่บอกว่าปีหน้าจะมีความเข้มข้นมากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่พูดได้ แต่วันนี้มีความสับสน โพสต์ล่าสุด ตนอ่านทั้งกลางคืนและตอนเช้า ปกติ ตนอ่านโพสต์รอบเดียวก็เข้าใจ แต่ล่าสุด กลางคืนอ่าน 3 รอบ เช้ามาอ่านอีก 3 รอบก็ยังไม่เข้าใจ
ทั้งนี้ ในการแถลงดังกล่าวมีการเปิดเผยถึงการออกแคมเปญ 1 สิทธิ์ 1 เสียง สนับสนุนมาตรา 112 ซึ่งประกอบด้วย 3 กิจกรรมได้แก่
1.เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศที่พร้อมแจ้งความดำเนินดคี ม.112 หากพบเห็นหลักฐานการกระทำเข้าข่ายความผิดให้เก็บหลักฐานส่งมาในกล่องข้อความเพจกลุ่มไทยภักดีประเทศไทย ทางกลุ่มพร้อมรวบรวมข้อมูลที่ส่งมา โดยมีทนายอาสาพร้อมเขียนสำนวนให้ เพื่อส่งกลับไปให้พี่น้องประชาชนนำไปแจ้งความที่ สน. ใกล้บ้าน เพื่อให้ผู้ต้องการยกเลิก ม.112 เข็ดหลาบ
2.กลุ่มไทยภักดีและเครือข่ายจะจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับ ม.112 ที่ถูกต้องต่อประชาชน เดิมตั้งใจจะจัดวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เวลา 16.00 น. ที่สวนลุมพินี แต่ล่าสุดมีความวิตกเรื่องสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาเปลี่ยนเร็วมาก จึงจำเป็นต้องระงับไว้ก่อน โดยปรับรูปแบบจากการปราศรัยเป็นวงเสวนา และถ่ายทอดสดให้รับชม โดยใช้ห้องส่งของสถาบันทิศทางไทย ในวันและเวลาเดิม โดยรับชมสดได้ที่เพจสถาบันทิศทางไทยและเพจไทยภักดี ประเทศไทย วิทยาการ ได้แก่ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินพระมหากษัตริย์, ดร.เวทิน ชาติกุล, นางหฤทัย ม่วงบุญศรี และนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม
3. กลุ่มไทยภักดีประเมินว่า โซเชียลมีเดียเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ และสถาบัน ถ้าปล่อยไว้จะยิ่งเป็นอันตราย จึงมีแผนการยื่นหนังสือเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเร่งให้ปฏิรูปโซเชียลมีเดีย โดยนัดหมายในวันที่ 17 ธันวาคม เวลา 10.00 น.
“กฎหมายมาตรา 112 มีมานาน ไม่มีอุปสรรคต่อคนสุจริต ถ้าไม่คิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย ก็ไม่ผิด ขอยืนยันว่าคนเหล่านี้ตั้งใจกระทำ ไม่ใช้พลั้งเผลอ ประชาชนมีสิทธิรับไม่ได้ ต้องไปแจ้งความดำเนินดคี การให้ประชาชนไปแจ้งดำเนินคดีด้วยตนเอง บางครั้งไม่รัดกุม ไทยภักดีจึงจะช่วยกลั่นกรองและทำสำนวนให้ ประชาชนก็สะดวก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สะดวก อะไรที่ไม่ชัดเจน ก็จะตัดออก” นายแพทย์วรงค์กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ‘ไทยภักดี’ จับมือเครือข่ายป้องสถาบัน ออกแคมเปญ 1 สิทธิ์ 1 เสียง หนุน ม.112 ผุด 3 กิจกรรม
– ‘เพนกวิน’ แจงไม่ได้เป็นสมาชิก ‘เยาวชนปลดแอก’ หลังมีดราม่าจุดยืน – แนะประเมินแนวคิด ยัน ‘3 ข้อเรียกร้อง’
– รุ้ง โพสต์แจงเป็นสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ยืนยันจุดยืนข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
– เยาวชนปลดแอกแจง ‘คอมมิวนิสต์’ ไม่เท่ากับเผด็จการ – ซัด ‘ทุนนิยมล้มเหลว’