กกต.เรียก ‘ศรีสุวรรณ’ ให้ถ้อยคำปมคณะก้าวหน้า ดำเนินกิจการคล้ายพรรคการเมือง พรุ่งนี้

กกต.เรียก ‘ศรีสุวรรณ’ ให้ถ้อยคำปมคณะก้าวหน้า ดำเนินกิจการคล้ายพรรคการเมือง พรุ่งนี้

วันที่ 23 ธันวาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า หลังยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวนคณะผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้าทั้งหมด รวมทั้งผู้สมัคร นายก อบจ. และ ส.อบจ. ทั่วประเทศในนามคณะก้าวหน้า ว่าเข้าข่ายสมคบกันในการดำเนินกิจการเช่นเดียวกันกับพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 111 หรือไม่นั้น ล่าสุดประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงาน กกต. ได้มีหนังสือด่วนที่สุดมา เพื่อไปให้ถ้อยคำพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในวันที่ 24 ธันวาคม เวลา 13.30 น.

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้ร่วมกันตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมา โดยมีการกำหนดตำแหน่งประธาน กรรมการ และเลขาธิการ มีภาพเครื่องหมายของคณะเช่นเดียวกันกับพรรคการเมือง และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับพรรคการเมือง เช่น การจัดประชุมเปิดตัวผู้สมัคร และส่งคนสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกและนายก อบจ. กว่า 42 จังหวัด ทั่วประเทศในนามกลุ่มก้าวหน้า โดยใช้สัญลักษณ์หรือโลโก้กลุ่มในสื่อหาเสียงต่างๆ และให้นายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ ก็ไปร่วมปราศรัย เดินรณรงค์หาเสียงเฉกเช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองด้วยเช่นกัน

พฤติการณ์หรือการกระทำดังกล่าว จึงเป็นการสมคบกันตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 มาตรา 111 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดําเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใดให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมือง โดยมิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image