‘เอกชัย’ พร้อมพวก ฟ้องอียู ‘อายัดทรัพย์สิน’ ผู้ข้องเกี่ยว ‘ละเมิดสิทธิ’ ผู้แทนรับปากส่งเรื่องถึงทูต

‘เอกชัย’ พร้อมพวก ฟ้อง EU ‘อายัดทรัพย์สิน’ ผู้ข้องเกี่ยว ‘ละเมิดสิทธิ’ อุ้มหาย จับกุม คุมขัง-ผู้แทนรับปาก ส่งเรื่องถึงทูต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มกราคม ที่สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) อาคารแอทธินี ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมด้วย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยานสำคัญคดี 6 ศพวัดปทุมฯ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีอาญามาตรา 112 นายธานี สะสม ประชาชนที่ขึ้นเวทีเยาวชนปลดแอก ซึ่งถูกข้อหาหลายคดี และผู้เสียหายอีกหลายราย เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้สหภาพยุโรปอายัดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

อ่านข่าว : ‘เอกชัย’ ชวนร้อง ‘อียู’ ประจำประเทศไทย อายัดทรัพย์สินผู้ข้องเกี่ยว ‘ละเมิดสิทธิมนุษยชน’ 6 ม.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกชัยได้ตั้งโต๊ะเพื่อรวบรวมข้อมูลผู้ที่ถูกดำเนินดคีจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, คดีตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ, ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และมาตรา 112 และอื่นๆ โดยนำหลักฐานการถูกดำเนินคดีหมายเรียกจากตำรวจ ภาพถ่าย หรือสำเนาคำฟ้องแนบมาด้วย ก่อนจะร่วมยื่นหนังสือถึงผู้แทน EU พร้อมกันที่บริเวณด้านหน้าตึกแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการ EU โดยมีผู้แทนสหภาพยุโรป เป็นตัวแทนลงมารับหนังสือจากกลุ่มของนายเอกชัย

Advertisement

นายเอกชัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมาธิการของสหภายุโรปได้ออกระเบียบ 1 ฉบับ ชื่อว่า ระเบียบที่ว่าด้วยมาตรการเข้มข้นในการต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง (Concerning restrictive measures against serious human rights violations and abuses) ซึ่งสาระสำคัญของระเบียบนี้อยู่ที่มาตรา 2 ซึ่งระบุเกี่ยวกับพฤติกรรมใดๆ อันเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เข้าข่ายมาตรการจากระเบียบฉบับนี้ ซึ่งมีเรื่องของการอุ้มหายบุคคล, การจับกุม หรือคุมขังโดยพลการ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ในช่วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการออกประกาศเรียกคนไปปรับทัศนคติ ซึ่งหลายครั้งไม่มีการออกประกาศ แต่อุ้มไปเฉยๆ อย่างตนเองถูกอุ้มไปปรับทัศนคติ ที่ จ.กาญจนบุรี เช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำคุมขังโดยพลการ

นายเอกชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการละเมิดต่อเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมามีการชุมนุมของเยาวชนปลดแอก และกลุ่มราษฎรหลายครั้ง ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยสันติ ไม่มีใครมีอาวุธ แต่รัฐบาลกลับใช้มาตรการรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำแรงดันสูง การใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิการชุมนุมอย่างสันติ รวมทั้งการละเมิดต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จะเห็นได้ว่า นอกจากมีการฉีดแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำแล้ว ยังมีการแจกข้อหา โดยเฉพาะมาตรา 116 และ 112 ให้กับการปราศรัย หรือการแสดงออกของผู้ชุมนุม แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้ชุมนุม เพียงแค่โพสต์เฟซบุ๊กก็โดนข้อหา ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิ เข้าข่ายตามมาตรา 2 ของระเบียบนี้

Advertisement

นายเอกชัยกล่าวต่อว่า หลายคนอาจจะสงสัยว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป เช่นนี้แล้วหากเข้าข่ายกฎหมาย จะมีผลบังคับใช้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากอ่านตามมาตรา 19 ระบุไว้ว่า ให้ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ต่อบุคคลทั่วไป ที่มาศัยอยู่ภายใน หรือภายนอกดินแดนของสหภาพยุโรป หรือสัญชาติของประเทศสมาชิกสหภายุโรป ซึ่งก็มี ส.ส.บางท่าน หรือแม้แต่อดีตนายกรัฐมนตรีบางคน ที่ถือทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอังกฤษ ก็จะเข้าข่ายระเบียบนี้ รวมถึงนิติบุคคล หรือบุคคลที่อยู่ภายใน หรือภายนอกสหภาพยุโรป ซึ่งทำธุรกรรม หรือจดทะเบียน ไม่ว่าจะบริษัท หรือหน่วยงานที่อยู่ในสมาชิกสหภาพยุโรป ก็เข้าข่าย ดังนั้น การที่อาจจะมีนักการเมืองบางคนไปเปิดบัญชีธนาคาร ซื้อหุ้น ทำธุรกรรม หรือซื้อที่ดิน ก็เข้าข่ายการการบังคับใช้กฎหมายนี้


“เราจะเห็นว่า ตั้งแต่ผ่าการรัฐประหารมา ซึ่งความจริงก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ ตั้งแต่เหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ก็มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่าเรื่องไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดย ป.ป.ช.ก็พยายามดองเรื่อง แม้จะมีความพยายามหลายครั้งในการส่งเรื่องฟ้องศาลโดยตรง แต่ศาลก็ไม่รับฟ้อง โดยอ้างว่าเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่ใช่อำนาจของดีเอสไอ หรือผู้เสียหายเอง ล่าสุดจะเห็นว่า คสช.มีการออกกฎหมาย โดยใช้ ม.44 ในการปรับทัศนคติ อุ้มคนเข้าค่ายทหาร 7 วัน นับร้อย นับพันคน จุดนี้เป็นการละเมิดสิทธิชัดเจน ล่าสุดคือการชุมนุมที่ผ่านมาในหลายครั้ง มีผู้ชุมนุมโดนคดี ม.112 ไปแล้วมากกว่า 40 คน และยังโดน ม.116 อีกกว่า 100 คน

“ฉะนั้น ถือเป็นการเข้าข่ายต่อระเบียบฉบับนี้อย่างชัดเจน ในวันนี้เราจึงนำเอกสาร หลักฐานต่างๆ และภาพถ่าย โดยส่วนตัวเป็นเอกสารเกี่ยวข้องกับคดี เพราะผมถูกดำเนินคดีทั้งข้อหา 116 และ 110 และอีกหลายคน เราจึงเอาหลักฐานมามอบให้กับตัวแทนของสหภาพยุโรป เพื่อส่งเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา เพราะระเบียบฉบับนี้ให้อำนาจต่อสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกให้สามารถมีมาตรการตอบโต้ต่อบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ด้วยการอาญัติทรัพย์สิน ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย เป็นไปได้ว่า ถ้ามีความผิดจริง และถ้าเรื่องถูกนำส่งศาล ก็จะสามารถเอาเงินมาชดเชยให้ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิได้” นายเอกชัยกล่าว และว่า

หลังจากนี้จะมาติดตามทวงถามความคืบหน้า โดยผู้แทนบอกว่า ตนเป็นเพียงตัวแทน แต่รับปากว่าจะส่งเรื่องให้ทางทูตของสหภาพยุโรปโดยตรง ซึ่งวันนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบยังมาไม่ครบ อย่างกรณีอุ้มหาย วันนี้ตัวแทนไม่ได้มาร่วมด้วย มาเฉพาะผู้ที่โดนแก๊สน้ำตาหน้ารัฐสภาแล้วได้รับบาดเจ็บ มีคนที่ถูก ม.116 จากการร่วมชุมนุม และคนที่โดน ม.116 ซึ่งระเบียบฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป ครอบคลุมการอุ้มหาย และจับกุมคุมขัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image