‘จิรายุ’ แฉ คนใกล้ชิด รมต.ต่อสายหา อัด พปชร.เย้ย ปธ.ชวน โวยญัตติที่บรรจุแล้ว

‘จิรายุ’ แฉ คนใกล้ชิด รมต.ต่อสายหา ลั่นพร้อมชนรัฐบาล ยันญัตติไม่ได้พาดพิงสถาบัน

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดอภิปราย ว่าการอภิปรายครั้งนี้มีคนโทรศัพท์หลากหลาย อยากบอกว่ารัฐมนตรีหลากหลายไม่ต้องโทรมาเคลียร์ หรือมีอะไรกับตนหรือเปล่า เพราะตนไม่เคยมีอะไรกับรัฐมนตรี แต่ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่าประชาชนให้ความสนใจว่ารัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายมีพฤติกรรมฉ้อฉลอย่างไร บางเรื่องยิ่งกว่าทุจริตเชิงนโยบาย มีการแบ่งงานกันทำ บางคนได้ดิบได้ดี แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส.ส.รัฐบาลจะยกมือให้ผ่านได้ แต่ประชาชนเขาจะเป็นผู้ร่วมลงมติด้วย และมั่นใจว่าฝ่ายรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่เคยเป็นฝ่ายค้านคงรู้วิธีการทำงาน ถ้าจะมาประท้วงกันมั่วๆ ไม่มีข้อบังคับ เรื่องนี้ฝ่ายค้านเราสมาธิดี สติมั่นคง ประท้วงเท่าไหร่ยิ่งลดเวลาของรัฐบาลไปเอง และในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้อภิปรายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ จะพูดถึงกระทรวงศึกษาธิการ คมนาคม และกระทรวงมหาดไทย และเตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว

เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีรัฐมนตรีมาเคลียร์หรือไม่ นายจิรายุกล่าวว่า ไม่มีมาเคลียร์ แต่มีการต่อสายจากคนรู้จักรัฐมนตรีมาถึงเพื่อน พรรคพวกของตน โดยพยายามสอบถามข้อสอบว่าจะพูดเรื่องอะไร อาจจะรู้จากสื่อมวลชน แต่ทีเด็ดเป็นเรื่องที่มีข้อมูลที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจมากพอสมควร ซึ่งฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นสมควรจะไว้วางใจหรือไม่ อีกเรื่องที่เราเรียกร้องไปถึงรัฐบาลคือปัญหาโครงการเราชนะ ที่มีคนร้องเรียนหลายคน แต่ไม่คิดว่ารัฐบาลจะด้อยปัญญา และคิดว่าสังคมไทยมีโทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ตครบทุกคน แต่ปรากฏว่าคนแก่ต้องเดินทางเป็นร้อยกิโลเมตรเพื่อมาธนาคารกรุงไทย ในขณะที่กระทรวงการคลังเปลี่ยนรัฐมนตรีไม่รู้กี่คน รู้หรือไม่ว่าธนาคารมีคำสั่งให้ปิดสาขาจำนวนมาก ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะมาชี้แจงแก้ต่างว่าธนาคารไม่ได้เปิดวันเดียว ต้องให้ไล่ทีมโฆษกและผู้ที่เกี่ยวข้องกับประชาสัมพันธ์ออกให้หมดเพราะทำงานใช้ไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่รู้ว่าให้เลื่อนลงทะเบียนไปถึงวันที่ 5 มีนาคม

เมื่อถามว่ารัฐบาลขู่ประท้วงหากอ่านญัตติที่พาดพิงสถาบัน นายจิรายุกล่าวว่า ญัตติไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามบอกว่าเกี่ยวข้องกับสถาบัน เรื่องนี้รัฐบาลกำลังดูถูกพวกเดียวกัน หากคิดว่าไม่ควรบรรจุ ต้องไปต่อว่าประธานและรองประธานรัฐสภาทั้งสองคน และไม่พาดพิงถึงสถาบัน แต่พาดพิงถึงตัวนายกรัฐมนตรีที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่สังคมอยากรู้ ฉะนั้น ไม่ว่าจะประท้วงแบบไหนเป็นสิทธิของ ส.ส.และจะพิสูจน์ว่าสังคมคิดเห็นอย่างไร และไม่กังวลที่ ส.ส.รัฐบาลจะประท้วง เพราะแต่ละคน เพราะเป็นการตำหนิไร้สาระ หากประท้วงข้ามพรรคตนจะไปจ่ายทิปและมีรางวัลให้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image