“จุรินทร์” โต้พท.โกงถุงมือยาง ยันเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ รมต.ไม่เกี่ยว ชักใยอคส.ไม่ได้

“จุรินทร์” โต้พท.โกงถุงมือยาง ยันเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ รมต.ไม่เกี่ยว ชักใยอคส.ไม่ได้

วันนี้ (18 ก.พ.) เวลา 10.35 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเป็นวันที่ 3 โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลุกขึ้นชี้แจงหลังถูก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรู้เห็นกับกับทุจริตซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำรัฐเสียหายเบื้องต้นแล้ว 2,000 ล้านบาท ทันที

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายจุรินทร์ ชี้แจงตอนหนึ่งว่า ประเด็นที่มีการอภิปรายไม่ใช่เรื่องใหม่ของสภาฯ เพราะเคยมีการพูดกันเมื่อมีการตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี และนายกฯได้มอบหมายให้ตนมาตอบกระทู้ เชื่อว่าได้ตอบชัดเจน ตามสมควร แม้จะมีเวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ อดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้ากับพวก บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ และอีก 7 บริษัท ประธานบอร์ดและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเห็นด้วยเกือบจะเรียกว่าทุกประการ ไม่มีอะไรไปโต้แย้ง แต่ขอปฏิเสธว่า ตนไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับโครงการนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่า จะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ แอบสั่งการในที่ลับหรือที่แจ้ง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องขออภัยที่ต้องใช้คำว่าผู้อภิปราย ”โกหกหลายประการ” ต่อที่ประชุม โดยเรื่อง กมธ.พาณิชย์ ที่หยิบยกขึ้นมาเอ่ยอ้างว่า มีการกล่าวพาดพิงถึงรัฐมนตรี มีจริงแต่อ้างไม่หมด ส่วนที่บอกว่า ตนไม่เคยตั้งกรรมการสอบ ไม่อายัดเงินหรือหน่วยงานมีอำนาจไม่อายัดเงิน ไม่ดำเนินคดี ไม่เคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อหรือแถลงข่าวนั้น ไม่เป็นความจริง

Advertisement

เพราะมีการตั้งกรรมการสอบโดยอคส. และตนก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องนี้ตลอดเพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โต พาดหัว เท่านั้นเอง ส่วนกรณีที่บอกว่า หลังย้ายอดีตรักษาการผู้อำนวยอคส. นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งเฉย ขอชี้แจง และขอความเป็นธรรมว่า ทันทีที่ตนทราบเรื่องก็ดำเนินการจนย้ายอดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.ไปประจำสำนักนายกฯ และเมื่อมีการตั้งกระทู้ ตนก็มาตอบกระทู้และติดตามความคืบหน้า

“การที่เอ่ยอ้างถึงประธานบอร์ด โดยบอกว่า ใกล้ชิดเป็นคนสนิทนายบัญญัติ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกไม่ว่าคุณจะรู้จักใคร รู้จักผู้ใหญ่ขนาดไหน รู้จักนายกฯ หรือรัฐมนตรี ไม่ได้แปลว่า จะมีอำนาจล้นฟ้าหรือทำอะไรก็ได้ เมื่อทำผิดกฎหมายต้องเข้าคุก เรื่องนี้ผมไม่ยอม ไม่ว่าใครทุจริตโครงการนี้ก็ตาม ผมจะจัดการทั้งทางวินัย แพ่ง อาญา จนถึงที่สุด ตราบเท่าที่ผมอยู่ในอำนาจหน้าที่และกฎหมายให้อำนาจผม ขอพูดไว้ต่อสภาฯไม่ใช่ไปพูดที่ใด การเอาเทปมาเปิดและตีความผิดเพื่อจงใจใส่ความ ทำให้คนเข้าใจผิดว่า รัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง” รมว.พาณิชย์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า การที่บอกว่า ตนมอบนโยบายเตรียมการทุจริตให้ประธานบอร์ดไปดำเนินการซื้อขายถุงมือยาง และสอดคล้องนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อสภาฯว่า กระทรวงพาณิชย์จะจัดการให้ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ค้าขายยางออนไลน์ รวมทั้งตลาดถุงมือยางนั้น

Advertisement

เป็นงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไม่ใช่ถุงมือยางเทียม เป็นถุงมือยางธรรมชาติ ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยาง ส่วนที่ผู้อภิปรายถามว่า ตอนทำสัญญาแสนล้านตนไปอยู่ที่ใด ตนตอบไม่ถูก เพราะไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ไปร่วมกระบวนการสมคบกับใครทำสัญญาแสนกว่าล้านบาท

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ขอชี้แจงว่า อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจของกระทรวงฯไม่ใช่ส่วนราชการที่รัฐมนตรีมีอำนาจไปสั่งปฏิบัติราชการหรือสั่งการทางนโยบายได้ และคนที่มีอำนาจวางนโยบายคือบอร์ดเท่านั้นและมีอำนาจเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้อำนวยการในการแต่งตั้งถอนถอดโดยขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่รัฐมนตรีมีอำนาจจำกัดตามพระราชกฤษฎีกาอคส.ฉบับใหม่ 2535 เนื่องจากนำรัฐมนตรีออกจากการเป็นประธานบอร์ด แต่ให้ผู้ทรงคุณวุฒิมาทำหน้าที่แทนเหมือนรัฐมนตรีกลายเป็นบุรุษไปรษณีย์ ระหว่างครม.บอร์ด ผู้อำนวยการและพนักงาน ไม่มีอำนาจบังคับบัญชา ต่างจากกรมที่รัฐมนตรีดูแล เพราะต้องการให้อคส.เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

“ทันทีที่ผู้อำนวยการอคส.คนใหม่รับทราบความไม่ชอบมาพากล และรายงานให้ผมทราบ ไม่ได้แปลว่า ผมไม่ได้ทำอะไร เพราะใช้อำนาจที่มีอยู่จำกัดดำเนินการร่วมกับผู้อำนวยการอคส.หลายอย่าง ดังนั้น การบอกว่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเป็นการใส่ความ เพราะหลังจากที่ได้รายงานนายกฯแล้วนายกฯก็ลงนามคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากนั้นก็มีมติระงับโครงการทันที และผู้อำนวยการอคส.ก็ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีกับอดีตรักษาการอคส.กับพวก และบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ รวมทั้งแจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดบัญชีของอดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.กับพวก หลังจากนั้นได้ยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.เอาผิดกรณีใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต เป็นต้น ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ก็มีการรายงานให้ตนทราบเป็นระยะๆ และตนก็รับทราบและสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”

รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ทางผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ รายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 กับตนว่า ขณะนี้สอบเสร็จแล้ว มีเอกสาร 2,268 แผ่น พบผู้ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมจากอดีตรักษาการอคส. 1 คน แต่มีเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน และได่รายงานข้อเท็จจริงต่อบอร์ดแล้วมีมติรับทราบ ขณะเดียวกันผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ ส่งสำเนารายงานการตรวจสอบไปยังป.ป.ช.เพื่อประกอบการพิจารณาไต่สวนดำเนินคดี และนำผลที่พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมไปดำเนินการตั้งกรรมการสอบตามขั้นตอนทางวินัยของระเบียบอคส.ต่อไป ซึ่งตนได้รับทราบ และสั่งเร่งดำเนินการทางวินัย แพ่ง อาญา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ

“ผมได้ทำทุกอย่างเรียกได้ว่า ครบถ้วนด้วยความปรารถนาอย่างแท้จริงที่ตั้งใจจะนำคนผิดมาลงโทษและเอาเงิน 2 พันล้านบาทของอคส.พร้อมดอกเบี้ยกลับคืนมาเป็นของรัฐโดยเร็วภายใต้อำนาจที่มีอยู่ ส่วนที่ห่วงว่ามีการอายัดบัญชีหรือไม่ ขณะนี้ปปง.ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ที่ผมพูดได้เพราะไม่ได้แทรกแซงหรือล้วงความลับแต่ทางประธานป.ป.ช.แถลงตั้งอนุกรรมการไต่สวนและลงมติอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องไว้แล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนเงินได้ และการที่นายประเสริฐ หยิบยกการให้การของอดีตรักษาการของผู้อำนวยการอคส.มาพูด โดยบอกว่าอดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.พูดพาดพิงว่าผมรับทราบเรื่องการจัดซื้อถุงมือยางนั้น เป็นการฟังความข้างเดียว เสียยี่ห้ออดีตรัฐมนตรีหมดเลย เพราะรายงานนี้ผมไม่เคยมีโอกาสไปชี้แจง มีแต่อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส.เท่านั้น ทำไมท่านหัวอ่อนเช่นนี้ “นายจุรินทร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าดำเนินคดีได้หรือไม่ เพราะคนอย่างตนใครมากล่าวหาว่าโกง ไม่มีวันยอม ดูได้จากทนายความคนหนึ่งหาว่าตนโกงหน้ากาก ตนฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว เพราะฉะนั้นการกล้าวอ้างอะไรอย่าฟังความข้างเดียว

นายจุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเทปที่เปิดนั้น ตนจับความได้ว่า “จะเก็บไว้ให้รัฐมนตรีเป็นผลงาน เดี๋ยวจะให้รัฐมนตรีมากดเดิน” เป็นอะไร ผมก็ไม่ทราบ หรือทำอะไรก็ไม่ทราบ แต่นายประเสิรฐมาพูดว่ามากดเงิน มันเจตนาอะไร มันมีตรงไหนที่บอกว่ารัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องทางมิชอบกับการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยาง งานนี้จะให้เป็นผลงานรัฐมนตรี ตนไม่รับ เพราะมันคือผลงานอัปยศ บอกเลยว่าจะนิมนต์ตนไปเป็นประธานกดปุ่มอะไร ตนไม่รับนิมนต์ สำหรับการตั้งประธานบอร์ดมีขั้นตอนตามกฎหมายที่กำหนดไว้ การบอกว่า ได้ประธานบอร์ดที่ไม่มีคุณสมบัติ ตนไม่มีหน้าที่ปกป้อง ท่านถามว่า เหตุใดไม่ต้องกรรมการสอบประธานบอร์ด ปล่อยปละ ละเลย ขอชี้แจงว่า ตนไม่ตั้งกรรมการสอบ และเรื่องนี้ส่งไปยังป.ป.ป.ช.แล้ว เนื่องจากมีอำนาจในการตรวจสอบ

“สิ่งที่เขียนในญัตติว่าพฤติกรรมของตนไม่มีธรรมาภิบาล แต่ท่านกำลังเรียกร้องอะไร ท่านเรียกร้องให้ตนใช้ธรรมาภิบาลหรือลุแก่อำนาจ อยากปลดใครก็ปลด อยากสอบใครก็สอบ ท่านทราบหรือไม่ว่าคนที่ลุแก่อำนาจ เคยมีตัวอย่างปรากฎให้เห็นมาแล้ว คือ อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านคงรู้จักดี จำได้หรือไม่ที่ไปย้ายอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สุดท้ายไปศาลปกครองสูงสุดและศาลตัดสินว่าใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ไปศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผมกำลังอธิบายว่าเหตุใดไม่ตั้งกรรมการสอบ ไม่ปลดประธานบอร์ด เพไม่ต้องการใช้อำนาจที่ลุแก่อำนาจโดยไม่ชอบ “

อย่างไรก็ตาม หากป.ป.ช.ชี้มูลว่า ใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำความผิด ตนจะดำเนินการทุกวิถีทางภายใต้อำนาจและไปสู้คดีเองในชั้นศาลและอัยการ และสิ่งที่ตนจะทำต่อไปคือ หากกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบอคส.ชี้ว่าใครผิดจะตั้งกรรมการสอบวินัย ต้องรับโทษอย่างไร รวมทั้งตั้งกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดโดยส่งให้กรมบัญชีกลางพิจารณาตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และเมื่อป.ป.ช.ชี้มูลส่งอัยการฟ้องศาล อคส.โดยผู้อำนวยการฯจะยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาด้วย และทันทีที่ป.ป.ช.ชี้มูลกำหนดโทษส่งให้อคส.จะเร่งให้ผู้อำนวยการอคส.ลงโทษโดยเร็วที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image