‘ประเสริฐพงษ์’ ซัดกลับ รมช.มท. ตอบไม่ตรงหัวใจ และเป็นการขี่ม้ารอบค่าย ยันเอกสารอภิปรายจริงแน่นอน ท้า ‘นิพนธ์’ หากบริสุทธิ์ใจ ต้องยอมเปิดข้อมูลการซื้อขายที่ดินจะนะ
เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า จากที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่าตนโกหก นำเอกสารมาตัดแปะนั้น ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริง ตนได้เอกสารมาจากรายละเอียดพื้นที่เข้าดำเนินงานของศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.สงขลา-นครศรีธรรมราช ประจำปี พ.ศ.2563 โดยบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562-30 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายนิพนธ์เป็น รมช.มท. และเวลาการดำเนินงานเขตพัฒนาพิเศษจะนะ จ.สงขลา
นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า หนังสือที่อ้างเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ มีการตั้งงบประมาณและระบุบุคลากรชัดเจน ไม่ใช่หนังสือสั่งการลอยๆ ดังที่นายนิพนธ์อ้าง ทั้งนี้ หนังสือที่นายนิพนธ์อ้าง เป็นประกาศของ จ.สงขลา เป็นหนังสือเก่าตั้งแต่ปี 2561 ที่นำมาชี้แจงตน แต่เอกสารที่ตนนำมาอภิปรายและเตรียมจะยื่นให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นรายละเอียดปีงบประมาณ 2563
นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า ชัดเจนว่าเอกสารนี้ระบุการเดินสำรวจเน้นไปที่ จ.สงขลา 10 อำเภอ โดยมีอำเภอจะนะรวมอยู่ด้วย ซึ่งมีหลายตำบล แต่ระบุชัดว่าเป็น ต.นาทัพ ต.ตลิ่งชัน ต.ป่าชิง และ ต.บ้านนา ยืนยันว่าการเดินสำรวจนี้ทำหลังจากที่นายนิพนธ์เป็นรัฐมนตรีแล้ว
อ่านข่าว : ‘นิพนธ์’ แจงยิบ ถูกพาดพิงกินกำไรที่ดินจะนะ ชี้ข้อมูลก้าวไกลไม่จริง ไม่มีเอื้อพวกพ้อง
นายประเสริฐพงษ์กล่าวต่อว่า การที่นายนิพนธ์ชี้แจงถึงเรื่องในอดีต ไม่ลงรายละเอียด แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่อภิปราย หลักๆ แล้วตนบอกว่ารัฐมนตรีมีประวัติติดตัว มีมลทินมัวหมองเท่านั้น หากข้อเท็จจริงของนายนิพนธ์ถูกต้อง ทำไมข้อเท็จจริงเหล่านั้นแพ้ทุกองค์กร รวมถึงข้อต่อสู้ของนายนิพนธ์ที่ทำหนังสือโต้แย้งถึงผู้ว่าราชการ จ.สงขลา หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 15 ศาลปกครองและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสดงว่าไม่ใช่แค่ ป.ป.ช.องค์กรเดียวที่ชี้ว่านายนิพนธ์มีความผิด และตนมีคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นที่ระบุรายละเอียดในการสืบพยานชัดมาก
“ประเด็นหลักที่ผมได้อภิปรายในวันนี้คือ เรื่องคนใกล้ชิดของนายนิพนธ์ที่ได้ประโยชน์จากการซื้อขายที่ดินในพื่นที่ อ.จะนะ เรื่องนี้รัฐมนตรีจะบอกว่าเป็นเรื่องระหว่างเอกชนไม่ได้ เพราะเอกชนที่ว่าคือคนใกล้ชิด ซึ่งนายนิพนธ์มีการใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อผลประโยชน์ผลักดันโครงการตั้งแต่สมัยเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบจ.) ปี 56 จนมาเป็นรัฐมนตรี
“ที่นายนิพนธ์กล่าวว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศนิคมอุตสาหกรรมจะนะในเดือนพฤษภาคม 2562 ยังไม่เป็นรัฐมนตรีโดยมีประกาศเปลี่ยนผังเมืองเมื่อวันที่ 21 มกราคม 63 ซึ่งนายนิพนธ์เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่จากข้อมูลการซื้อขายที่ดินเห็นได้ชัดว่า เครือข่ายของนายนิพนธ์เร่งซื้อขายโอนที่ดินก่อนมีมติ ครม.วันที่ 21 ม.ค. 63 ว่าจะเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่โครงการจะนะและเปลี่ยนสีผังเมือง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องผิดศีลธรรมที่ผมได้สรุปและอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ชัดเจน และเรื่องจริยธรรมไม่ว่าจะเป็นประกาศสำนักนายกและหลายหน่วยงานที่ประกาศออกมา และผมได้อภิปรายเรื่องครอบครัวเอื้อประโยชน์เป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรม ขัดกันแห่งผลประโยชน์ เอาข้อมูลภายในมาเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง นั่นคือประเด็นหลักของการอภิปราย
“ขอท้าท่านรัฐมนตรีอีกครั้ง แม้ว่าผมจะเป็น ส.ส.สมัยแรก คิดว่าวัดกันไม่ได้ ก่อนเป็น ส.ส.ผมก็รับราชการ อบจ.มาก่อน รู้ระเบียบหลายอย่างดี น่าเสียดาย ไม่รู้ใครเป็นกุนซือท่านสมัยเป็น อบจ.สงขลา หากผมเป็นกุนซือของรัฐมนตรี จะไม่ให้ทำแบบนั้นแน่ๆ ขอท้าว่าหากบริสุทธิ์ใจ เครือญาติของท่านทำธุรกิจแบบตรงไปตรงมา ขอให้เปิดข้อมูลสารระบบที่ดิน ปี 2562 และ 2563 บอกมาชัดๆ จะได้เห็นว่าครอบครัวคนใกล้ชิดได้รับเงินจากการซื้อขายที่ดินไปแล้วเท่าไหร่” นายประเสริฐพงษ์กล่าว
นายประเสริฐพงษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเอกสารหลังโฉนดที่ระบุว่ามีการโอนซื้อขายในช่วง 4 วันทำกำไรหลักร้อยล้าน ตนก็ตั้งคำถามว่า หากมีข้อมูลเปิดเผยมากกว่านี้ เชื่อว่ามีกำไรมากกว่านี้ และเชื่อว่าหลังจากที่ ส.ส.ได้ฟังตนอภิปรายในวันนี้ประกอบหลักฐานแล้ว จะร่วมลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีกับฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอคติใดๆ และใช้ข้อมูลที่ได้จากข้อเท็จจริงเป็นเอกสารชัดเจน
“ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่ทำหรือถูกกล่าวหาเหมือนที่รัฐมนตรีกล่าวเลี่ยงไปเลี่ยงมาแบบในสภา ต้องบอกว่ารัฐมนตรีตอบไม่ตรงหัวใจ และเป็นการขี่ม้ารอบค่าย” นายประเสริฐพงษ์กล่าว
