ศาลไม่ให้ประกัน7 เเกนนำชี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนเเปลงคำสั่งเดิม เเม่เพนกวิน ซัดเขาไม่เห็นเราเป็นคนเเล้ว ย้อนถามไหนบอกรากฐานผู้ปกครองต้องมีเมตตาเรายอมประนีประนอมเเล้วทำไมไม่ให้ประกัน
ตามที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เดินทางมาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อยื่นจดหมายและรายชื่อผู้สนับสนุนเรียกร้องให้ประกันตัวแกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมเปิดปราศรัยที่หน้าบันไดศาลนั้น
เมื่อเวลา 18.00 น. เศษ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยภายหลังฟังคำสั่งว่า ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง7 ในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม โดยเหตุผลที่เรายื่นคำร้องไปว่าก่อนหน้านี้ศาลเคยให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสามคนชุดสมยศ,หมอลำเเบงค์ เเละไผ่ดาวดิน ตรวจอาการโควิด ดังนั้นการยื่นประกันในวันนี้จึงไม่มีเหตุผลที่ศาลจะไม่อนุญาตให้ประกันประกอบกับสถานการณ์โควิด ในเรือนจำระบาดอย่างมากและพวกเราก็ไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนหลังจากนี้จะทำยังไงต่อไปตนคิดไม่ออก เพราะตอนนี้บรรดาแม่ของจำเลยทุกคนก็ช็อกเพราะไม่คิดว่าศาลจะไม่อนุญาตให้ประกัน พ่อแม่ทุกคนก็หวังว่าจะรับลูกกลับบ้านอย่างมีชีวิต ส่วนจะยื่นประกันอีกครั้งเมื่อไหร่ขอปรึกษากันก่อน เหตุผลที่เราเสนอไปไม่สมควรที่จะถูกปฏิเสธ ถ้าเป็นแบบนี้เราก็คิดไม่ออกว่าจะต้องทำทำอย่างไรก็ต้องให้สังคมช่วยกันคิด แม่ทุกคนก็หมดแรงแล้ว
เรื่องในครั้งนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อหลักสิทธิเสรีภาพเป็นอันมาก
นายกฤษฎางค์ตอบคำถามกรณีการพูดคุยกับ น.ส.เบนจา เเกนนำผู้ชุมนุมที่มาศาลวันนี้ ว่าตนไม่ได้พูดคุยอะไรมากเพราะว่าวันนี้ทางศาลได้ขอให้ตนมาพูดคุยกับน้องๆ และอธิบายให้ว่าให้ได้รับฟังว่ากระบวนการทางศาลเป็นอย่างไร เเต่เขาไม่ได้เชื่อเพราะเขาไม่ได้เชื่อถือใคร เขาเพียงเเต่คิดว่าเขาต้องต่อสู้เพื่อความยุติธรรมเหมือนเพนกวิน แม่ของเพนกวินก็ยังได้บอกว่าให้มาฟังว่าผลจะเป็นอย่างไรและก็อย่ารบกวนสถานที่ราชการ
ขอศาลก็เป็นสถานที่ราชการผู้พิพากษาก็เป็นอำนาจตุลาการซึ่งเป็นอำนาจของประชาชน
ส่วนที่วันนี้มีการนำตำรวจควบคุมฝูงชนมาเรารับไม่ได้
“ เราเสนอเงื่อนไขของทั้ง7คนเหมือนกับ3คนที่ได้ประกันก่อนหน้านี้ แต่ทำไมให้ประกันบางคนและไม่ให้ประกันบางคน”ทนายความกล่าว
นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำราษฎร กล่าวว่าภายหลังจากยื่นเงินไขต่างๆเหตุผลต่างๆให้ศาลพิจารณาหยุดเรายื่นเหตุผลว่ามีชีวิตหนึ่งที่กำลังจากไปด้วยความทรมานทั้งที่เขาไม่ควรจะโดนเช่นนั้น สิ่งต่างๆที่เราแสดงถึงการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เราพยามจะบอกให้คนที่มีหน้าที่รักษาความยุติธรรมให้ความยุติธรรมกับเรา แต่ เขาไม่เห็นค่าของชีวิตเพนกวินที่กำลังจะเสียไป เขาไม่เห็นชีวิตของเราทุกคน เขาไม่เห็นพวกเราเป็นคน ชีวิตเพนกวิน หลายๆคนก็เห็นแล้ว เขาก็รับรู้เราไม่ได้สร้างเรื่อง แล้วทำไมถึงไม่ให้ ประกันตัวเหตุการณ์มันก็เหมือนกับ3แกนนำที่ได้ประกันตัวก่อนหน้านี้ เป็นเหตุการณ์เดียวกันทางที่เรายื่นเหตุผลและเงื่อนไขเหมือนกัน ทำไมเขาไม่ให้ประกันตัว
“จะฆ่าเพนกวินให้ตายอย่างทรมานใช่หรือไม่ มีทั้งโควิดมีทั้งเพนกวินเจ็บป่วย คุณจะเอาอะไรของคุณหรือต้องให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับลูกคุณ อยากรู้ว่าถ้าเป็นลูกคุณจะรู้สึกอย่างไร ลูกดิฉันกำลังจะตายอยู่ในคุก คุณไม่ปล่อยลูกฉัน มารักษาตัว คุณไม่มีความเป็นคนแล้ว ไหนคุณบอกว่ารากฐานของผู้ปกครองต้องมีเมตตาทำไมความเมตตาของคุณหายไปไหนหมด แล้วคุณจะปกครองคนอื่นได้อย่างไร คุณจะให้ดิฉันต้องทำอย่างไรอีกดิฉันอยากทราบ ดิฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้หลักการแล้วฉันจะรู้เหตุผลที่จริงของคุณได้อย่างไรฉันอยากให้ ประธานศาลฎีกา อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา หรือใครก็แล้วแต่ที่มีอำนาจ มาอธิบายเหตุผลจริงๆว่าทำไมถึงไม่ให้ลูกดิฉันประกัน ทั้งที่ลูกดิฉันยอมรับเงื่อนไขแล้วเด็กยอมลดแล้ว ยอมประนีประนอมแล้วเหตุใดท่านจึงไม่ยอมประนีประนอมกับเรา แล้วท่านกล่าวหาว่าเราไม่ประนีประนอม ลูกเราแลกด้วยชีวิตอยากให้ท่านอธิบายไม่ใช่บอกแต่เพียงว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม คนเราพูดด้วยเหตุผลโตๆกันแล้วเรียนหนังสือมาก็ไม่ใช่น้อย กรุณาตอบมาตอบผ่านทางสื่อมวลชนก็ได้ เราไม่ไหวแล้ว เราเสนอเงื่อนไขเหมือนที่3แกนนำที่ได้ประกันเสนอไป ” เเม่เพนกวินกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมภายในศาล ภายหลังทราบผลการไม่ได้ประกันตัวของแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ได้ตะโกนโห่ร้อง พร้อมปราศรัยแสดงความไม่พอใจอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งนางสุรีย์รัตน์ แม่ของเพนกวิน ได้ขอให้ยุติการชุมนุมบริเวณหน้าศาล เก็บพลังไว้ต่อสู้วันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม มีผู้ชุมนุมบางส่วนที่ตามมาสมทบภายหลัง ได้กางเต๊นท์ปักหลักพักค้างที่ประตู 9 ของศาลอาญา แต่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ได้ทยอยย้ายออกไปชุมนุมปราศรัยนอกพื้นที่ศาล ริม ถ.รัชดาภิเษก ต่อ
