‘โคทม’ สดุดีวีรชนพฤษภา 35 ขอ ‘คนรุ่นใหม่’ กล้าหาญ เสียสละ หวัง ปชต.กินได้ ไม่เอื้อแต่ผู้มีอำนาจ
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดงานรำลึกครบรอบ 29 ปีเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2535 โดยมีหน่วยงานต่างๆ ส่งพวงหรีดร่วมรำลึก อาทิ พรรคไทยสร้างไทย, คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม, มูลนิธิ 14 ตุลา, สถาบันปรีดี พนมยงค์, ภาคึเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย, แนวร่วมประชาธิปไตยต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช), เป็นต้น
สำหรับบรรยากาศเวลาประมาณ 10.00 น. ผู้เข้าร่วมต่างทยอยเดินทางมาถึง อาทิ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชนฯ และแกนนำกลุ่มไทยไม่ทน, นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดานางสาวกมณเกด หรือเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตจากการสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 2553, ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์, นายโคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชน และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล, นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นายเมธา มาสขาว เลขาฯครป., นายนันทพงศ์ ปานมาศ เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้น
เวลา 10.30 น. ญาติวีรชนและผู้ร่วมพิธีรำลึก นำพวงมาลัยวางบนฐานอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมซึ่งสลักรายชื่อผู้เสียชีวิตและสูญหาย จากนั้นโปรยกลีบกุหลาบ แล้วร่วมกันนำดอกกุหลาบวางบนภาพถ่ายวีรชนที่ถูกนำมาจัดวางบนโต๊ะหน้าอนุสาวรีย์
จากนั้น รศ.ดร.โคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชน และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวปาฐกถาว่า วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราอยู่ร่วมกันในที่นี้ แม้ว่าเรายังพบอุปสรรค และวิกฤตต่างๆ แต่ความกล้าหาญของผู้ที่สละชีวิตต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยนั้น ยังอยู่ในความทรงจำของเรา ขอกล่าวสดุดี
รศ.ดร.โคทมกล่าวว่า เมื่อได้เห็นรูปภาพของผู้ที่จากไป ผมก็รู้สึกสะเทือนใจอีกครั้ง จากไปแล้วหลายปี แต่ได้ฝากร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย อยากให้คนรุ่นต่อๆ ไป คนที่กำลังต่อสู้อยู่ในขณะนี้ ได้มีจิตใจที่กล้าหาญและเสียสละ เราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมายาวนาน แต่หนทางยังจะต้องเดินต่อไป เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ แต่ไม่ใช่กินเฉพาะผู้มีอำนาจเท่านั้น
“อยากจะให้เป็นประชาธิปไตยที่คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ก่อนอื่นเราต้องมีเสรีภาพ ไม่อย่างนั้นคนมีอำนาจก็จะใส่ข่าวปลอม กรอกหูเราทุกวัน เมื่อมีเสรีภาพแล้ว เราก็จะได้คุยกันว่าประโยชน์ของคนส่วนใหญ่อยู่ที่ไหน ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเหลื่อมล้ำสูงมาก ทั้งในทางเศรษฐกิจ และสังคม ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ คือลดความเหลื่อมล้ำนั้น จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อ เราเมีสรีภาพและความุม่งมั่นที่จะทำให้ประชาธิปไตย ก่อประโยชน์จริงจัง
“ตอนนี้เป็นเพียงแค่ภาพลวงว่ามีประชาธิปไตยแล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น อุดมการณ์ของวีรชนที่จากไป อุดมการณ์ของพวกเราที่ยังอยู่ คือเราต้องการประชาธิปไตยที่มีทั้งเสรีภาพ และความเสมอภาค ภายใต้ความเอื้ออาทร ระหว่างพวกเราทุกคน
“อุดมการณ์นี้ยังดำรงอยู่ แล้วเราก็มีอนุสาวรีย์ มีอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป ขอให้เจตนารมย์ประชาธิปไตยของวีรชนพฤษภาปี 35 จงดำรงอยู่ และเจริญสืบเนื่องไป” รศ.ดร.โคทมกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คนรุ่นใหม่ แห่รำลึก 29 ปี พฤษภา35 ลั่น ‘วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด’ ต้องจบในรุ่นเรา
