“ครูแก้ว” เผย โครงการประกันโควิด อสม.นครพนม ไม่ได้ใช้งบรัฐ สวน คนถาม ‘เอาสมองส่วนไหนคิด’ หยุดอิจฉา-จับผิดคนทำดี ชี้ อสม.มีทุกจังหวัดไม่สงวนสิทธิ์นำไปใช้ได้ ยืดอก หากผิดกฎหมายตรวจสอบได้ไม่เกี่ยง
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์เรื่องการทำประกันภัยไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วทั้งจังหวัดนครพนม ว่า ตนและพรรคพวกไม่ว่าจะเป็นหอการค้า นักธุรกิจ พ่อค้าและประชาชนในนครพนมร่วมถึง กลุ่มนครพนมร่วมใจ มานั่งหารือเรื่องอสม.ที่เป็นนักรบด่านหน้าในการต่อสู้กับโควิด-19และเสี่ยงภัยมาตลอดเป็นระยะเวลาปีเศษแล้ว ซึ่งพวกตนอยากให้ขวัญกำลังใจแก่อสม.ที่ทำงานอย่างหนัก
“จึงได้ข้อสรุปว่าร่วมกันบริจาคเปิดบัญชีเงินฝาก และบอกบุญต่อๆกันในหมู่คนรู้จัก ส่วนใครจะบริจาคเท่าใดก็บริจาคเข้ามา ได้เท่าไหร่ก็เอามาทำประกันชีวิตหมู่ให้แก่อสม.นครพนม แต่ตอนนี้จำนวนเงินเท่าใดตนยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้ถามกับผู้ที่ดำเนินการว่า ตรวจสอบหรือไม่ว่าได้เงินเท่าไหร่ ในส่วนยอดเงินบริจาคได้เท่าไหร่ทำประกันชีวิตให้อสม.ได้กี่คน เรื่องเหล่านี้สุดท้ายจะสรุปและเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างแน่นอนแล้วรับประกันว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดในฐานะที่เป็นส.ส. และรองประธานสภาฯ รับรองว่าไม่กระทำการอะไรที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างแน่นอน”
“แต่สิ่งที่ทนไม่ได้และทำให้เราอยู่ไม่ได้ คือการที่เห็นพี่น้องอสม.ทำงานอย่างทุ่มเทและเสียสละ แต่พวกเรานั่งอยู่เฉยๆไม่คิดทำอะไรเลยที่จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องอสม. จึงได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ อยากฝากไปถึงผู้ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่คิดจะทำอะไรก็อย่าขัดขวาง ทางที่ดีในสถานการณ์อย่างนี้ควรที่จะมาร่วมมือกัน ไม่ต้องกลัวผมจะได้หน้า ใครจะเอาไปทำผมก็ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็ช่วยกันทำ ไม่ใช่มาคอยจับผิดกัน” นายศุภชัย กล่าว
เมื่อถามว่าความร่วมมือนี้จะซ้ำซ้อน กับโครงการที่ทางรัฐบาลจะช่วยเหลืออยู่แล้วหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ซ้ำซ้อน ตนไม่ได้เอาเงินของราชการแต่เป็นเงินที่ประชาชนใจบุญร่วมกันบริจาคและมาทำประกันชีวิตให้กับอสม. ซ้ำซ้อนหรือไม่ซ้ำซ้อนมันไม่เกี่ยวกัน เพราะจะทำกี่กรมธรรม์ก็ไม่ผิด และไม่ได้ใช้งบของราชการ ถ้าตนเอางบของราชการมาทำแล้วซ้ำซ้อนอย่างนี้ผิด แต่ที่ตนทำเป็นเงินจากคนมาบริจาคและผิดอย่างไร ส่วนคนที่ตั้งข้อสังเกตทำอะไรให้กับอสม.บ้างทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง คอยแต่จะจับผิดคนทำดี นักการเมืองไทยควรที่จะเลิกคิดหวาดระแวง และอิจฉาตาร้อนกันได้แล้ว มาร่วมจับมือและช่วยกันดีกว่า ตนขอย้ำว่าไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ ส่วนใครจะทำในนามของตัวเองตนก็ไม่หวงห้าม
นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีคนมองว่าเป็นการหาเสียงว่า ไม่รู้ แต่ถ้าทำ และได้เสียงได้คะแนนบ้างก็ไม่ใช่เสียหาย แต่ต้องถามว่าประโยชน์ตกอยู่กับใคร ประโยชน์มันตกอยู่ที่อสม.ที่ได้รับขวัญกำลังใจ เวลาเขาติดโควิดเขาก็จะรู้ว่าต่อให้เสียชีวิตก็มีหลักประกันว่าได้เงิน 5 แสนบาทให้กับครอบครัว และถ้าติดโควิดเข้ารับการรักษาได้รับการดูแลวันละ 500 บาท หรือมีอาการแพ้ต่อวัคซีน ก็จะได้รับการดูแลเป็นต้น อย่างนี้ถามว่าใครเป็นคนได้ประโยชน์ แต่ถ้าอสม.เห็นว่าตนทำดี และอยากให้กำลังใจ ถ้าเวลาเลือกตั้งจะเลือกตน มันก็ไม่ใช่ความผิดของตนแล้วผิดกฎหมายข้อใด
“การที่นักการเมืองหาเสียงและประโยชน์ตกอยู่กับประชาชน มันไม่ได้ผิดกฎหมายข้อใด ถ้าจะบอกว่าทำเพื่อหาเสียงทำเพื่อหวังผลทางการเมืองตนอยากถามว่ามีนักการเมืองคนใด ทำและไม่หวังผลทางการเมือง แต่เมื่อทำแล้วมันไม่ได้ไปเบียดบังราชการ ไม่ได้ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อสม.ได้ประโยชน์ มีกำลังใจในการทำงาน ประเทศชาติได้ประโยชน์
อยากจะถามคนที่พูดเหลือเกินว่าเอาสมองส่วนไหนคิด เราควรช่วยกันออกมาทำเพราะอสม.มีอยู่ทุกจังหวัดก็ดูแลอสม.บ้านของตัวเอง ตนไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ถ้าเห็นว่าตนทำดีและอยากจะนำไปใช้ที่จังหวัดตัวเองก็นำไปใช้ได้ ไม่ใช่มาแสดงเป็นมือปืนรับจ้างได้รับงานมาก็มาพูดเพื่อที่จะทำร้ายจิตใจคนที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคม ตนก็ไม่เห็นมีประโยชน์อย่างไรเลยในการตั้งคำถามอย่างนี้ สถานการณ์ปัจจุบันในขณะนี้ต้องการความรักความสามัคคีไม่ใช่มาคอยจับผิดกัน สุดท้ายถ้ามันผิดกฎหมายจะตรวจสอบอย่างไรก็ได้จะเอาผิดตนอย่างไรตนไม่เกี่ยง” นายศุภชัย กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ยุทธพงศ์’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องเคลียร์ให้ชัด กระจายวัคซีนอย่างไร หลังประกาศวาระแห่งชาติ
