‘โตโต้’ โพสต์หลักฐานหนีกลุ่มเห็นต่างดักรอ – เปิดศูนย์ร้องทุกข์ช่วยราษฎรช่วยเหยื่อถูกคุกคาม

‘โตโต้’ โพสต์หลักฐาน หนี ‘กลุ่มเห็นต่าง’ ดักรอ เปิด ‘ศูนย์ร้องทุกข์ช่วยราษฎร’ วาง 3 มาตรการ ช่วยเหยื่อถูกคุกคาม

สืบเนื่องจากกรณี นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ดอาสา We Volunteer หรือ วีโว่ ได้ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ปอท. ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามที่มีบุคคลไปแจ้งความ ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการแสดงความเห็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก นั้น

อ่านข่าว :
โตโต้ ปิยรัฐ รับทราบข้อหา ม.112 เผย ยังไม่รู้ว่าโดนคดีไหน
โตโต้ลั่น ‘คงว่างมาก’ เตรียมร้องยูเอ็น-สถานทูต หลังรอง ปธ.สหภาพฯบินไทย ฟ้อง 112
‘โตโต้’ ได้อีกหมาย ‘ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์’ งง คนร้องทุกข์เป็นใคร ลั่น แจ้งความมั่ว เตรียมแจ้งกลับ

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายปิยรัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า

“เตือน!! ขณะนี้กลุ่ม “กลุ่มคนที่ว่าอ้างปกป้องสถาบันกลุ่มหนึ่ง” คาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ ปอท. เมื่อวาน เวลานี้พวกเขาไปรวมตัวกันที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดา (ติดกับศาลอาญา) เพื่อยื่นหนังสือเร่งรัดให้อัยการยื่นคำร้องให้ศาลถอนประกันแพนกวิ้น

Advertisement

สำหรับพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยที่มีธุระจะต้องไปสำนักงานอัยการโปรดเลี่ยง และระมัดระวัง การกระทบกระทั่ง”

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มคนที่อ้างว่าปกป้องสถาบัน ดังกล่าว นายปิยรัฐได้โพสต์ข้อความ เล่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ขณะเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ ปอท. ด้วยว่า

ผม และ ทนายปลอดภัยจากพวกอันธพาลแล้ว!!

Advertisement

เมื่อเวลา 09:15 น.ตัวผมเอง พร้อมผู้ติดตามหนึ่งคน และทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนฯ Facebook

วันนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น เมื่อมีการรับทราบข้อกล่าวหาไป ในส่วนคดีความผมขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และพร้อมจะให้การเพิ่มเติมเป็นหน้งสือภายใน30 วัน จากนั้นตามขั้นตอนคือการลงบันทึกประจำวันและกลับบ้านได้

แต่แล้วเหตุการณ์ขณะที่ผมจะกลับ เวลาประมาณ 11:30 น. ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ10 คน ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน อ้างกับ จนท. ตำรวจว่า เป็นกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ได้มาดักรอ ผมบริเวณประตูทางออกของ สำนักงาน ปอท.

เมื่อผมเห็นเช่นนั้นจึงได้ขอให้ทาง จนท. ไปจัดการให้คนกลุ่มนั้นกลับไปก่อนไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมากับทุกฝ่าย

หลังจากนั้นผมไม่ทราบว่าทาง จนท. จะพยายามไปขอให้ทางฝ่าย ปกป้องฯ กลับไปหรือไม่ เพราะ ผมไม่อาจจะรอนานได้เกรงว่าถ้ารอนานกว่านั้น จะมีเหตุบานปลายแน่ จึงตัดสินใจขอหาทางหลบออกมาด้วยลำพังโดยแยกจากทนายเพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตา โดยการใช้ช่องทางพิเศษที่ใช้ขนส่งพัสดุจึง จนถึงทางปลอดภัย

ส่วนทนายก็ทราบว่าหลบออกไปอีกทาง ซึ่งก็รู้ภายหลังว่าถึงที่หมายที่ปลอดภัยแล้วเช่นกัน

ผมสารภาพเลยว่าตามปกติแล้ว เวลาผมจะออกไปรับทราบหมายหรือ ไปร่วมกิจกรรมที่ใดๆ ก็ตาม พี่ๆ น้องๆ ผมมักจะขอติดตามไปด้วยจำนวนมากเกือบทุกครั้ง ผมไม่อยากจะปฏิเสธความตั้งใจดีของพวกเขา แต่วันนี้ด้วยคำขอของเจ้าหน้าที่ฯ เนื่องจากขอจำกัดจำนวนผู้ติดตาม เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ผมจึงใช้เหตุนี้อ้างกับทุกคนที่อยากจะติดตามไปด้วย ไม่ให้ติดตามไป

คุณลองคิดดูสิว่า เราให้ความร่วมมือขนาดนี้ เราทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง แม้รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นการกลั่นแกล้งและไม่เป็นธรรมแต่เราก็พร้อมเดินหน้าเผชิญกับมัน แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองกลับปล่อยให้มีกลุ่มอันธพาลเที่ยวดักรอ และไปคุกคามบ้านของคนที่คิดต่างกับตนแบบนี้ได้อย่างไร หรือกฎหมายมันมีไว้บังคับใช้กับคนอีกกลุ่มเท่านั้นหรือ

ถ้าขืนเป็นแบบนี้ ผมก็จำเป็นต้องมีมาตรการที่ต้องดูแลรักษา ชีวิต และทรัพทย์สิน ร่วมทั้งสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกผมกันเอง อย่าได้หวังว่าจะมีใครที่ไหนมาดูแลเราได้ ก็ให้มันรู้ไป

ต่อมา เวลาประมาณ 13.30 น. นายปิยรัฐ โพสต์คลิปวิดีโอหลักฐาน พร้อมข้อความอีกว่า

หลังจากมีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าปกป้องสถานบันฯ ออกมาแถลงการณ์ ถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่ ปอท. ว่าไม่ได้มีการไปดักรอผม

ซึ่งจะจริงเท็จอย่างไร ผมก็บอกชัดว่าผมได้รับแจ้งจากทางตำรวจเอง ว่ามีกลุ่มคนมาดักรอผม หลังจากที่คนกลุ่มนั้นได้มีการมาตามเรื่องถอนประกันแพนกวิ้น แล้ เพื่อความปลอดภัย ทาง จนท. ตำรวจเอง ก็เป็นผู้นำทางและแนะนำให้ผมหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยโดยใช้เส้นทางที่ปกติไม่ได้อนุญาตให้บุคคลทั่วไปใช้ (ตามคลิป)

ดังนั้น คุณจะแถลงแก้ต่าง หรืออ้างว่าจะดำเนินคดีกับผมในฐานอะไร ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายดำเนินคดีกับพวกคุณ ถ้าแจ้งมาผมก็แจ้งกลับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง ปอท. ในเหตุวันนั้นผมจะเรียกมาเป็นพยานทั้งหมด

(คลิกชมคลิป)

อย่างไรก็ดีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด กลุ่ม We Volunteer ได้ตั้งศูนย์ร้องทุกข์ช่วยเหลือราษฎร จากการคุกคามโดยกลุ่มอ้างปกป้องสถาบันฯ โดยระบุว่า

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 กลุ่ม We volunteer ได้เปิดคลับเฮาส์ พูดถึงกลุ่มที่อ้างว่าจัดตั้งเพื่อ “ปกป้อง”สถาบัน เนื่องจากมีราษฎรได้ร้องทุกข์ผ่านมายังพวกเราเป็นจำนวนมาก ว่าถูกกลุ่มเหล่านี้คุกคาม ข่มขู่ ทำให้เกิดความกลัว

ด้วยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นการคุกคามอย่างหนึ่ง และอีกการคุกคามในรูปแบบประสงค์ต่อชีวิต เช่นการบุกยิงด้วยอาวุธปืน หรือขว้างปาระเบิดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ผ่านมา ก็ล้วนมาจากกลุ่มที่อ้างว่าตนปกป้องสถาบันฯ ทั้งสิ้น โดยที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายเอง ก็ไม่ได้กระตือรือร้นในการเข้าแก้ไขให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม หรือปกป้องประชาชนแต่อย่างใด ทำให้ We volunteer ต้องตัดสินใจขออาสาทำหน้าที่รับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อประสานงานและช่วยเหลือเหยื่อต่อไป

โดยทางกลุ่ม We volunteer ได้สรุปมาตรการไว้ 3ข้อ ดังนี้

1.) Wevo ขออาสาเป็นศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องเรียน หรือแจ้งขอความช่วยเหลือในกรณีการการถูกคุกคาม การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

2.) Wevo จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อแสวงหาและติดตามพฤติกรรม บุคคล กลุ่ม หรือองค์กร ที่กระทำการอ้างสถาบัน และสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เพื่อใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ ในการกลั่นแกล้งหรือคุกคาม เพื่อบันทึกเป็นรายงานพฤติการอันเป็นภัยต่อสิทธิมนุษยชน

3.) Wevo จะรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันตีแผ่เรื่องราว และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นรายวัน ใกรณีการคุกคามดังกล่าวเพื่อนเป็นการติดตามช่วยเหลือเหยื่อในเบื้องต้น ตามแต่สถานการณ์จะกระทำได้

โดยกลุ่ม We volunteer มิได้ประสงค์ที่จะเห็นความขัดแย้งหรือการนำสถาบันมาใช้เพื่อเป็นการข่มขู่หรือคุกคาม คนที่เห็นต่างทางการเมือง พวกเราเชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตยที่ทุกคนสามารถที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้เสมอ พวกเราไม่เชื่อว่าการบังคับจะเป็นวิธีที่ทำให้คนที่คิดเห็นต่างกับเราจะมาเห็นด้วยกับเราได้จริง แต่การรับฟังซึ่งกันและกันจะเป็นวิธีในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมโดยแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image