‘ชำนาญ’ ชวนจับตา ‘พปชร.-ส.ว.’ ผนึกกำลังป่วนแก้ รธน.วาระ 2 แปรญัตติเข้าทางตัวเอง หากฝ่ายค้านคว่ำนาทีสุดท้าย ก็กลายเป็นผู้ร้าย
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นายชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ภายหลังรัฐสภาโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประเด็นแก้ไขระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ว่า ขณะนี้รัฐสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ … พ.ศ. … จำนวน 45 คน เพื่อแปรญัตติในวาระ 2 แล้ว
นายชำนาญกล่าวว่า ตามข้อบังคับของรัฐสภากำหนดไว้ว่า สมาชิก กมธ.ต้องเป็น ส.ส. หรือ ส.ว.เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้หากนำเสียงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมกับ ส.ว.ที่มาจากแหล่งกำเนิดและที่มาเดียวกัน จะกลายเป็นเสียงข้างมากใน กมธ. ก็จะแปรญัตติได้ตามใจชอบ โดยอาจจะออกกฎเกณฑ์เพื่อประโยชน์ของตัวเอง เช่น การกำหนดจำนวนขั้นต่ำเปอร์เซ็นต์คะแนนที่จะนำมาคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือการกำหนดจำนวนส่ง ส.ส.เขต เท่าไหร่ จึงจะส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐสภา รับหลักการร่างที่ 13 ของ ปชป. เปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ เพียงร่างเดียว
-
สภาตั้ง กมธ. 45 คน พิจารณาร่างแก้ไข รธน. เริ่มประชุมนัดแรก 29 มิ.ย.นี้
นายชำนาญกล่าวว่า แต่หากพรรคขนาดกลาง เช่น พรรค ปชป.และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ดูแล้ว เห็นว่าตัวเองเสียเปรียบก็อาจจะไม่โหวตรับในวาระที่ 3 หรือหากพรรคเพื่อไทย (พท.) เห็นว่าเสียเปรียบก็อาจไม่ลงเสียงให้จำนวนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ร่างแก้รัฐธรรมนูญอาจถูกคว่ำในวาระที่ 3 ได้เช่นกัน
นายชำนาญกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (6) ที่เรียกเป็นภาษาพูดว่า หากไม่ได้เสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้าน 20 เปอร์เซ็นต์ ร่างนั้นก็จะตกไปนั้น ประกอบด้วย พรรคฝ่ายรัฐบาลที่ไม่ได้มีตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คือยังรวมพรรคปัดเศษ เช่น พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคเศรษฐกิจใหม่ ฯลฯ ไปด้วย หากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พรรค พท. และพรรคเล็กเหล่านี้ ไม่เอาด้วยร่างก็จะตกไป อย่างไรก็ตาม หากร่างนี้ถูกตีตกในวาระที่ 3 พรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคที่ไม่โหวตรับ ก็จะกลายเป็นแพะรับบาปและผู้ร้ายทันที ทำให้พรรค พปชร.สามารถตีกินได้ทั้งขึ้นทั้งล่องว่าฝ่ายค้านเป็นฝ่ายทำให้การแก้รัฐธรรมนูญไปต่อไม่ได้