คนปชป.ดาหน้ารุมอัด ม็อบทะลุฟ้า “ถาวร”รุดคุยผกก.บางซื่อ เร่งออกหมายจับ

“ถาวร”รุดหารือ ผกก.บางซื่อ จี้เร่งออกหมายจับม็อบ“ทะลุฟ้า”บุกหยามปชป. “รองโฆษกปชป.” คาดมีคนคอยให้ท้าย “กลุ่มทะลุฟ้า” มีคดีที่ไรไปประกันตัวทุกที ที่ปรึกษา รมช.สธ.” อัด“ทะลุฟ้า” ควรเคารพสิทธิ์ผู้อื่น

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายถาวร เสนเนียม อดีตรมช.คมนาคม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าพบ พ.ต.อ.กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผู้กำกับ สน.บางซื่อ และได้ร่วมปรึกษากับทีมสืบสวนของ สน.บางซื่อ เพื่อสืบสวนสอบสวน ในการออกหมายจับผู้กระทำความผิด และจับตัวมาดำเนินคดี กับกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ที่ได้เดินทางมาชุมนุมยังพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ เพราะมีการทำลายทรัพย์สิน เป็นการกระทำผิดต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ได้แจ้งความไว้แล้ว

นาย นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า เพื่อเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมทำลายทรัพย์สิน ป้ายสีตัวอาคาร และก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนทั่วไปว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนเห็นว่า สวนทางกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมพยายามบอกคนทั่วไปว่า เป็นผู้รักประชาธิปไตยและไม่ต้องการการเมืองแบบเดิมๆ แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ ตั้งแต่ที่เริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 63 จนถึงตอนนี้ กลับเป็นการสร้างความไม่สบายใจและเอือมระอาต่อผู้คนในสังคม เพราะนอกจากจุดยืนที่ไม่สามารถเป็นไปได้แล้ว ยังมีข่าวเป็นระยะๆ ในเรื่องของความขัดแย้งของมวลชนด้วยกันเอง และการไม่ยอมฟังความคิดเห็นของคนอื่น ซึ่งถ้าคนรุ่นใหม่รักประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว จะต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพของตนเองและความแตกต่างของผู้อื่น หาทางประสานประโยชน์ระหว่างกัน ไม่ใช่ไปไล่กดดันให้คนอื่น คิดเหมือนตนเอง ซึ่งนั่นไม่ต่างอะไรกับคนเอาแต่ใจ ที่เป็นแนวทางไปสู่ความคิดที่เป็นเผด็จการในเวลาต่อมาได้

“เหตุการณ์ที่เกิดกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ผมคาดว่าจะต้องมีคนคอยให้ท้ายแน่นอน ที่ผ่านมาปรากฏว่า พอมีการดำเนินคดีก็จะมีบุคคลที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในวงการเมือง ไปประกันตัวออกมา รวมทั้งใช้จุดอ่อนเรื่องสถานภาพการเป็นนักศึกษาหรือเยาวชน มาเป็นเกราะกำบัง ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ใจ ทำให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายและเกิดเหตุทำลายทรัพย์สินบ่อยครั้งขึ้น ดังนั้นผมอยากให้ผู้ชุมนุมหรือน้องๆเยาวชน ที่รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข่าวสารและพฤติกรรมของนักการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองที่สนับสนุนอยู่นั้น ได้ปฏิบัติตนตามหลักประชาธิปไตยหรือช่วยเหลือดูแลประชาชนหรือไม่ เพราะผมเชื่อว่าน้องๆเยาวชนหรือแม้แต่คนในสังคม ต่างก็อยากให้ปัญหาการเมืองไปแก้ไขกันในพื้นที่ที่ถูกที่ควร”นายชัยชนะ กล่าว นายชัยชนะ กล่าวต่อว่าในเมื่อผู้ชุมนุม กระทำการอันเกินขอบเขตการใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมือง มีการละเมิดทรัพย์สินและสวัสดิภาพของประชาชน รวมทั้งฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทางพรรคฯ ก็ได้ดำเนินการแจ้งความและจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นๆ ที่คิดจะล้ำเส้นโดยใช้สิทธิเกินเลยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ยืนยันว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ทางพรรคฯ ไม่ได้คิดเรื่องการเมือง เพราะยังมีปัญหาของประชาชนมากมายรอให้ทางพรรคประชาธิปัตย์แก้ไขอยู่

ขณะที่ ​นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกลุ่มทะลุฟ้า ทำกิจกรรมชุมนุมหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยบุกรุกเข้าไปบริเวณอาคารพรรค เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว การเคลื่อนไหวควรเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับส่วนรวมอย่างแท้จริง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย จากวิกฤตโควิด-19 และเร่งแก้ปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ตนเป็นที่ปรึกษา นายสาธิต ปิตตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้รับมอบหมายให้ประสานงานช่วยเหลือประชาชน ในเรื่องการระบาดของโควิดบริเวณพื้นที่ชายแดนและพื้นที่สูง การเตรียมความพร้อมให้กับโรงพยาบาลสนามและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่ชายแดน ไทย-เมียนม่า โดยเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ทำเพื่อทุกฝ่าย โดยไม่เลือกปฏิบัติ จึงอยากให้ กลุ่มเดินทะลุฟ้า มองภาพรวมประเทศและทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ ความจริงแล้วข้อเรียกร้องต่างๆสามารถพูดคุยกันได้อย่างสันติ พรรคยินดีรับฟังเพียงแต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆของ ผู้บริหารและสมาชิกพรรค ซึ่งทางกลุ่มควรเคารพสิทธิและเสรีภาพของเรา เหมือนที่เราเคารพสิทธิและเสรีภาพของหลายๆกลุ่ม ในการแสดงออกทางการเมืองเช่นกัน

“ประเทศจะดีขึ้นได้ต้องเริ่มจากการเคารพสิทธิ์เสรีภาพซึ่งกันและกันก่อน ไม่ใช่มาข่มขู่คุกคาม ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เพียงเพราะความเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรเลยจากการเมืองในอดีต ถ้าอยากเห็นประเทศดีขึ้นจริงๆคงต้องเริ่มเปลี่ยนจากพฤติกรรมของตัวเองก่อนที่จะไปเปลี่ยนความคิดของผู้อื่น อยากถามว่าการออกมาเคลื่อนไหว สาดสีสร้างความเสียหายครั้งนี้ คิดว่าภาพที่ออกมาคนส่วนใหญ่ ที่รับรู้ข้อมูลข่าวสารเขาเห็นด้วยหรือไม่ หรือหวังผลให้ภาพออกไปยังต่างประเทศเท่านั้น ผมขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา บนหลักการของกฎหมาย อะไรที่ผิดกฎหมายก็ขอให้ว่ากันไปตามผิด รวมไปถึงหาต้นตอผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ด้วย” ที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image