‘นิสิต ม.เกษตร’ เล่า ความสูญเสียที่มากกว่าภาษี ซัดรัฐเห็น ปชช.เป็นตัวเลข-ไม่ยอม ‘โดนกระทำฝ่ายเดียว’

‘นิสิต ม.เกษตร’ เล่า ความสูญเสียที่มากกว่าภาษี ซัดรัฐเห็น ปชช.เป็นตัวเลข-ไม่ยอม ‘โดนกระทำฝ่ายเดียว’

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ ในวาระครบรอบ 1 ปี การชุมนุม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย’ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) จัดกิจกรรมชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน” ทั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงการชุมนุมม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเชิญชวนประชาชนไปร่วมชุมนุมวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยจะมีการปราศรัย บรรเลงดนตรี และร่วมจุดเทียนรำลึกถึงผู้สูญเสียจากการบริหารจัดการของรัฐบาลภายใต้สถานการณ์โควิด-19

สำหรับการชุมนุมวันนี้ นำโดย นายอานนท์ นำภา หรือ “ทนายอานนท์” ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ กลุ่ม ROOT ซึ่งเป็น 2 ผู้ปราศรัยสำคัญในม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์เมื่อปี 2563 ร่วมด้วย นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย ตัวแทนกลุ่มราษฎร, แชมป์ ครช. และ นัท ศาลายา ทั้งนี้ นายถนอม ชาภักดี นักวิจารณ์ศิลปะชื่อดัง และนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

อ่านข่าว : https://www.matichon.co.th/politics/news_2865251
https://www.matichon.co.th/politics/news_2865538
https://www.matichon.co.th/politics/news_2865562


โดยเวลา 17. 07 น. น.ส.พริม มณีโชติ หรือ “เอ๋ย” พิธีกร กล่าวว่า ความฝัน อนาคตของเราถูกพังทลาย ประชาชนส่วนใหญ่ในชีวิต กำลังใช้วัยหนุ่มสาวไปกับรัฐบาลชุดนี้ นี่คือช่วงเวลาที่เราควรได้ใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดในชีวิต ใครที่โกรธ หาที่ลงไม่ได้ นี่คือความผิดของประยุทธ์ จันทร์โอชา เราเดินทางมาถึง 1 ปี ไม่มีเพดานอีกต่อไปแล้ว คุณได้ร่วมกับเรา ทลายเพดานไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เราอยู่ในช่วงเวลาหนักหนาสาหัส และสูญเสีย คนที่ควรปกป้องกลับหันอาวุธใส่เรา

Advertisement

อาชีพหนึ่งในแฮร์รี่ที่น่าสนใจ คือมือปราบมาร คือคนที่คอยจัดการคนที่ใช้คำสาปแบบผิดๆ แต่ผู้แต่งคงลืมว่า มีโลกคู่ขนานคือปรเทศไทย

“อย่างตำรวจ ทหาร ที่เป็นลิ่วล้อจากจอมมาร ความโกรธแค้น เจ็บปวด ที่ประชาชนเสียน้ำตามากที่สุด คือจำนวนกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาที่ยิงออกมาจากคนที่ควรปกป้องเรา เราคาดหวังให้คุณปราบมาร” น.ส.พริมกล่าว

จากนั้น กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมเขียนจดหมายให้กำลังใจ นางอัญชัน ปรีเลิศ ผู้ต้องหาคดี ม.112

Advertisement

เวลา 17.11 น. ตัวแทนนิสิต ม.เกษตร กล่าวปราศรัยในหัวข้อ “โควิด และความสูญเสียที่มากกว่าภาษี” ความตอนหนึ่งว่า

ที่ผ่านมาได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ประชาชนล้มตาย แต่รัฐบาลยังคงใช้เม็ดเงินจากภาษีประชาชนหวังให้นำไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ไปกับการบำเรออำนาจ และใช้กับการช้อปปิ้งอาวุธ โดยไม่สนใจใยดีชีวิตประชาชนที่ต้องตายจากการบริหาร

“ดิฉันเป็นนิสิตคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ ต้องเรียนออนไลน์ รัฐบาลไม่เคยช่วยค่าอินเทอร์เน็ต ค่าหอพักให้แก่นิสิต นักศึกษาเลย นี่หรือคือสิ่งที่เยาวชนต้องพบเจอ รัฐปฏิบัติกับคนที่จะเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติและขับเคลื่อนสังคมข้างหน้าอย่างนี้หรือ

ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5,315 รายแล้ว ต่อให้ไม่ตายเพราะโควิด เขาก็ฆ่าตัวตายเพราะเศรษฐกิจ นายกฯ กลับให้สัมภาษณ์ จะเพิ่มขั้นตอนการตรวจเชื้อ เพราะไม่อย่างนั้นยอดจะพุ่งสูงกว่านี้ มองเห็นประชาชนเป็นแค่ตัวเลขอย่างนั้นหรือ” ตัวแทนนิสิต ม.เกษตรกล่าว

ตัวแทนนิสิต ม.เกษตร กล่าวต่อว่า ประชาชนต้องรอต่อแถวตรวจโควิด-19 ต้องตายข้างถนน บุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ ไม่ได้กลับบ้านนอนพักผ่อน ชีวิตประชาชน เยาวชน นักเรียน ไม่มีค่า

ควรจะเอาไปลดความเหลื่อมล้ำ กลับไปเพิ่มความเหลื่อมล้ำ ด้อยค่าชีวิตของประชาชน สั่งสอนและกดหัวประชาชนว่า อย่าตีตนเสมอ แต่ไม่เคยสอนว่า ชีวิตมนุษย์มีคุณค่า พวกเรามีสิทธิ์มีเสียง สมควรได้รับการถูกรับฟังความเจ็บปวดที่โครงสร้างได้กดทับไว้

“อยากให้พวกท่านได้จินตนาการถึงวันที่รถขยะทั้งประเทศไม่ออกมาเก็บขยะ ไม่ออกมากวาดถนน คนขับรถเมล์ รถสาธารณะ ไม่ออกไปทำงาน เมื่อนั้น คือวันที่ประเทศฉิบหายอย่างแท้จริง คนจะเดินทางไม่ได้ ขยะมากมายเต็มเมือง แต่หากคณะรัฐมนตรีและ ส.ว.ไม่มาทำงาน สังคมก็ยังคงจะเคลื่อนต่อไป เพราะมดงานอย่างพวกเรา คือคนที่ขับเคลื่อนสังคม ไม่ใช่ผลาญภาษีไปวันๆ

หากใครเจ็บปวดจากการถูกย่ำยี ขอร่วมเชิญสมัคร “สหภาพคนทำงาน” เพื่อให้ชีวิตของแรงงานดีขึ้น ตราบใดที่ไฟตรงกระบอกปืนยังไม่หายไป ก็ไม่จำเป็นที่จะ โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว หากยังไม่ยอมฟังเสียงของประชาชน แล้วเจอกันวันที่ 7 สิงหาคม” ตัวแทนนิสิต ม.เกษตร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image