สุขสันต์วันเกิด จาก ‘ทะลุฟ้า’ เล่าเรื่องหดหู่ที่น่าดีใจ ‘เรามี จิตร ภูมิศักดิ์ เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ’
เมื่อวันที่ 25 กันยายน สืบเนื่องกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ประกาศนัดหมายชุมนุม ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี ที่แยกยมราช ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ
อ่านข่าว :
- ‘ทะลุแก๊ซ’ ลุยทำเนียบ ร่วมม็อบทะลุฟ้า ย้ำไม่พกอาวุธ-ยึดสันติ เต็มที่แค่ ‘สี-สเปรย์’
- ‘จีโน่-คฝ.’ เข้าประจำการข้างทำเนียบ รับม็อบทะลุฟ้า นัดชุมนุมเย็นนี้
- รองผบช.น.ระบุหากทะลุแก๊ซ รวมกับทะลุฟ้า ต้องให้ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรม เพื่อแยกระหว่างผู้ก่อความวุ่นวาย กับผู้ชุมนุม
อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยวันที่ 25 กันยายน 2564 เป็นวันครบรอบ 91 ปี วันคล้ายวันเกิด “จิตร ภูมิศักดิ์” อดีตนิสิตคณะอักษรศาสตร์ ผู้เป็นกวี คีตกร และนักคิดทางการเมืองคนสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย และเป็นบุคคลต้นแบบ ด้านการต่อสู้ทางความคิดของเยาวชนไทยในปัจจุบัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “กลุ่มทะลุฟ้า” ได้โพสต์ข้อความรำลึก ผ่านทางแฟนเพจ ความว่า
วันเกิดจิตร ภูมิศักดิ์ : ในสังคมไทยทำไมคนชี้ให้เห็นปัญหา กลับถูกมองว่าเป็นตัวปัญหา
จิตร ภูมิศักดิ์ ถือเป็นนักเขียนแหกขนบเพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมคนหนึ่งที่แม้จะต้องถูกกลั่นแกล้งด้วยความอยุติธรรม แต่เขาก็ไม่ละเลิกที่จะชี้ชวนให้คนมองเห็นถึงปัญหาที่หลายคนพยายามซุกไว้ใต้พรม
ความพยายามที่จะตีแผ่ปัญหาสังคมของจิตร เริ่มเมื่อสมัยเขายังเป็นนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเขาได้รับหน้าที่เป็นสาราณียกรให้หนังสือประจำปีของมหาวิทยาลัย เขาได้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่เคยทำกันมาในปีก่อนหน้านั้นเป็นจำนวนมาก เขาปรับลดเนื้อหาเชิดชู และเพิ่มเนื้อหาที่เป็นการวิพากษ์สังคม เช่น บทความที่วิพากษ์วิจารณ์วงการพระสงฆ์ รวมถึงระบบโซตัสในสมัยนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากการกระทำดังกล่าว เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งสาราณียกร และถูกนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่โกรธแค้นในข้อวิพากษ์ของเขา จับโยนลงจากเวทีในขณะที่เขาชี้แจงต่อเพื่อนนิสิตในหอประชุม เขาสลบทันทีและถูกนำส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ความยุติธรรมที่เขาได้รับคือการถูกสั่งพักการเรียนเป็นเวลา 1 ปี
หลังจากเรียนจบ เขาได้ทำงานสอนหนังสือและถูกเพ่งเล็งจากรัฐ ที่ตอนนั้นนำโดยรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ เขาถูกฟ้องร้องด้วยข้อหากระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐ จากการเขียนหนังสือ “โฉมหน้าศักดินาไทย” ที่อธิบายการกดขี่ขูดรีด ทำให้เขาถูกฝากขังระหว่างรอพิจารณาคดีนานถึง 7 ปี ก่อนจะถูกยกฟ้องไปในที่สุด
หลังจากออกจากคุก และยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุกคามอยู่เสมอ ทำให้เขาตัดสินใจไปอยู่ที่ชนบทภาคอีสานและจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรมของรัฐเผด็จการในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม น่าเศร้าที่เขาไม่ชนะและถูกคนของรัฐยิงจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เรื่องราวของจิตร ภูมิศักดิ์ ทำให้เราอดฉุกคิดไม่ได้ว่า ในสังคมไทย เหตุใดคนที่พยายามตีแผ่ปัญหาสังคมเพื่อให้สังคมร่วมกันแก้ไขปัญหากลับถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาเสียเอง แทนที่เราจะพุ่งเป้าไปที่ปัญหา เรากลับด่าทอคนที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหา และในกรณีของรัฐ รัฐมีอำนาจถึงขั้นจับจิตรขังคุกถึง 7 ปี โดยที่ยังไม่ได้มีคำพิพากษาด้วยซ้ำ
น่าเศร้ามากขึ้นไปอีก เมื่อเวลาผ่านไปแล้วกว่า 60 ปี เรื่องราวเช่นนี้ก็ยังคงเกิดขึ้น เราเห็นนักเรียนที่พยายามตีแผ่ปัญหาของโรงเรียนตัวเองแต่กลับถูกอาจารย์เรียกเข้าห้องปกครอง และที่เห็นได้ชัดยิ่งกว่านั้น เราเห็นเพื่อนนักสู้ของเรากำลังถูกขังคุกมามากกว่า 1 เดือน เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เพียงเพราะพวกเขา “พูดความจริง”
กว่า 1 ปีที่ผ่านมา เราพบว่าประชาชนผู้ลุกขึ้นมาชี้ปัญหา กลับถูกกลั่นแกล้งโดยเจ้าหน้าที่รัฐ พวกเขาถูกตามตัว ไปเยี่ยมบ้าน ชวนไปดื่มกาแฟ ยิงด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยาง จนในขณะนี้บางคนกำลังนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่จากปฏิบัติการยับยั้งความจริงของรัฐเผด็จการนี้
แม้จะฟังดูหดหู่ แต่สิ่งที่น่าดีใจคือในวันนี้เรามี จิตร ภูมิศักดิ์ เกิดขึ้นใหม่เป็นล้านๆ คน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จิตร ภูมิศักดิ์ รุ่นใหม่นี้จะลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งหลายที่รัฐเผด็จการนี้มอบให้
ดั่งเพลงดวงดาวแห่งศรัทธาที่แต่งโดย จิตร ภูมิศักดิ์ ที่ว่า
“ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คนยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้นผืนฟ้า มืดดับเดือนลับละลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน”
ย้อนอ่าน : สโมสรนิสิตจุฬาฯ ขอโทษ ‘จิตร ภูมิศักดิ์’ 67 ปี ‘โยนบก’ เพื่อเตือนใจ ให้สังคมรับฟังความเห็นต่าง