แห่ชม ‘สาย สีมา’ บุตรสาวเสนีย์ เสาวพงศ์ ลั่น ‘ยิ่งกดขี่ ปีศาจยิ่งดุ’ ชี้ 70 ปียังฮิต เพราะสังคมไม่เท่าเทียม
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน Matichon Bookmark 2021 #คั่นไว้ในใจเธอ ในช่วงบ่ายที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (Matichon Academy) โดยเมื่อเวลา 13.00 น. มีการจัดกิจกรรม ‘ดูหนัง ฟังเสียง ปีศาจ’ เปิดให้ชมภาพยนตร์เรื่อง ‘สาย สีมา นักสู้สามัญชน’ จากผลงานนวนิยายเรื่อง ‘ปีศาจ’ ของ เสนีย์ เสาวพงศ์ หนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 11 มรดกภาพยนตร์ของชาติ ประจำปี 2564 ซึ่งถูกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2524 ผลงานของ ‘พิฆเณศภาพยนตร์’ โดยมีนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้อำนวยการสร้าง เมื่อ 40 ปีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มชมภาพยนตร์มีการพูดคุยกับนายกล้า สมุทวณิช นักเขียนชื่อดัง และนางศราพัส บำรุงพงศ์-ปทุมรส บุตรสาวของนายศักดิชัย บำรุงพงศ์ นักเขียนชื่อดังเจ้าของนามปากกา เสนีย์ เสาวพงศ์
นางศราพัสกล่าวว่า ตอนแรกไม่รู้ว่า เสนีย์ เสาวพงศ์คือนามปากกาของบิดา ความที่ท่านรับราชการกระทรวงการต่างประเทศซึ่งต้องเดินทางบ่อย จึงไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน ต่อมาท่านให้อ่านเรื่องปีศาจ จึงรู้สึกว่าก้าวหน้ามาก และเป็นเฟมินิสต์มาก ให้เกียรติผู้หญิงมาก ไม่ค่อยทะเลาะกับคุณแม่เลย บุคลิกเป็นคนขรึม ไม่ค่อยเล่น ลูกๆ จะค่อนข้างเกรง วัยเด็กก็ไม่รู้จะคุยอะไร แต่พอช่วงวัยเกษียณก็สนิทกันมากขึ้น มีการคุยเรื่องการเมืองมากขึ้น ยิ่งท่านมาเป็นที่ปรึกษาให้มติชนยิ่งคุยกันมากขึ้น
“ในนิยามของคุณพ่อปีศาจคือเป็นสิ่งที่น่ากลัวของฝ่ายปกครอง ในยุคใดที่มีความกดขี่ข่มเหงสูงๆ จะถูกนำมาอ่านเยอะ เป็นที่นิยม ยิ่งสมัย 6 ตุลา 14 ตุลา มีคำพูดหลายๆ ตอน จุดประกาย เติมความหวังให้คนรุ่นใหม่ๆ ว่าเขาคือปีศาจที่จะมาฆ่าความโบราณ ความล้าหลัง ซึ่งทุกคนก็เป็นปีศาจได้ มีคนถามว่าเมื่อไหร่คนจะเลิกอ่านปีศาจ วันใดที่สวัสดิการดี คนต่างจังหวัดไม่ต้องส่งลูกมาเรียนกรุงเทพฯ วันใดที่การศึกษาเท่าเทียม สวัสดิการเท่าเทียมเมื่อนั้นปีศาจจะเชยทันที 70 ปีแล้ว ไม่ขยับเลย คนยังมาอ่านปีศาจอยู่เลย
ตอนที่มีการสร้างภาพยนตร์ ช่วงนั้นคุณพ่อเพิ่งเกษียณกลับมา เป็นยุคเริ่มต้นของมติชน แล้วก็ได้พบกับอาช้าง (นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)) จริงๆ คนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคืออาช้าง มีโอกาสได้ไปดูตอนที่ฉายที่โรงภาพยนตร์โคลีเซียม มีคนดูน้อยกว่าวันนี้ โรงหนังวังเวงมืด ได้ยินเสียงแอร์ เจ้าของโรงภาพยนตร์ต้องมาบอกว่าถอดออกเถอะ” นางศราพัสกล่าว
นางศราพัสกล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ภาพยนตร์เรื่องสายสีมา นักสู้สามัญชน ไม่โด่งดังในยุคที่ฉายในโรงภาพยนตร์ ส่วนหนึ่งคงเพราะสังคมถูกแรงเผด็จการทหารจากการปราบนักศึกษากดจนนิ่งเงียบหมด
“จากสถานการณ์ในปัจจุบันถ้าฝ่ายอนุรักษนิยมยังยึดติดกับขนบ ทุกอย่างจะต้องอยู่แบบเดิมหรือเข้มยิ่งกว่าเดิมคิดว่าปีศาจก็จะยิ่งดุขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายจารีตก็จะยิ่งกดขี้นเรื่อยๆ เห็นได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้วิธีปราบน้องๆ มันป่าเถื่อนมาก เราดุเขาก็เหี้ยมอยากให้หนังสือของคุณพ่อเป็นนิยายอมตะ อยากรอวันที่น้องๆ หยิบมาอ่านเพราะภาษาสวย แต่ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมหมดไปแล้ว” นางศราพัสกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
งานหนังสือ Matichon Bookmark คึก! นักอ่านลุยช้อปแต่เช้า ปวศ.-เรื่องสั้น-วรรณกรรมแปล ขายดี
