‘หมอชลน่าน’ สั่งฝ่าย กม. ศึกษาคำวินิจฉัยศาล รธน. คดีล้มล้างการปกครอง หวั่นนำไปสู่ความแตกแยก

“หมอชลน่าน” สั่งฝ่าย กม. ศึกษาคำวินิจฉัยศาล รธน. คดีล้มล้างการปกครอง หวั่นนำไปสู่ความแตกแยก เผยไม่กระทบญัตติด่วนขอตั้งกมธ.วิสามัญฯ ช่วยผู้ต้องขังทางการเมือง ชี้ไม่เกี่ยวแก้ ม. 112

เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของ 3 แกนนำผุ้ชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อเสนอข้อเรียกร้อง 10 ข้อ เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า เรื่องนี้ในนามพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีความละเอียดอ่อนมาก โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคศึกษารายละเอียดในคำวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนที่จะมีท่าทีออกไป แต่คำวินิจฉัยใดๆ ก็แล้วแต่ก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง โดยเฉพาะประเด็นที่มีความเห็นต่างเป็นที่เผยแพร่ในสื่อมวลชนว่าเป็นไปตามคำร้องหรือไม่ และเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมูญหรือไม่ มีการพิจารณาครบถ้วนรอบด้านหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการไต่สวนผู้ถูกร้องหรือพยานที่เป็นประเด็นอยู่ สิ่งเหล่านี้เองในระบบบ้านเราคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ผูกพันทุกองค์กรก็นำมามาสู่การปฏิบัติ มันเป็นเสมือนการเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษากันและมีความเป็นห่วง คือ จะนำไปสู่ความแตกแยกหรือไม่อย่างไร หรือจะมีเหตุอะไรบานปลายหรือไม่ เป็นข้อมูลใหญ่ของเรา เราไม่ได้โต้แย้งหรือขัดแย้งใดๆ กับคำวินิจฉัย นี่คือความห่วงใยของผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะประเด็นข้อห่วงใยเกี่ยวกับนักเรียน นักศึกษาที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งก็เป็นห่วงอนาคตของเขาเพราะสิ่งที่เขาแถลงคือ เขาไม่เห็นด้วยหรือไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล ฉะนั้นประเด็นเหล่านี้จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต เราเองมุ่งหวังว่าความห่วงใยของเราอยากให้ทุกฝ่ายและทุกคนมาช่วยกันคิด ช่วยกันติดตาม ใช้สติปัญญาช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศ สร้างพื้นที่ปลอดภัยเหมือนที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำอยู่ในขณะนี้ที่ได้ส่งญัตติให้สภาพิจารณาตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเป็นทางออกได้

เมื่อถามว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะกระทบกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการ ที่ประกาศเป็นสะพานเชื่อมแก้ไขกฎหมายมาตรา 116 และมาตรา 112 ในสภา อยู่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอญัตติเข้าสภานั้น มาจากข้อเสนอของกลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขังทางการเมืองที่มีวัตถุประสงค์ชัดว่าให้ช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมืองให้ได้รับสิทธิในการประกันตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องล้มล้างสถาบันใดๆ เลย ในส่วนนี้มีความชัดเจนว่าเมื่อเรารับข้อเสนอมาแล้วและพรรคตั้งกรรมการติดตามเรื่องนี้ สิ่งที่เราทำไปแล้วคือการยื่นญัตติด่วนให้สภา ช่วยพิจารณาตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา โดยจะพิจารณาเรื่องของสิ่งที่เป็นปัญหาต่างๆ เช่น กระบวนการการบังคับใช้กฎหมายว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การให้สิทธิประกันตัวตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะไม่ปล่อยตัวชั่วคราวมีเรื่องเดียวคือเกรงว่าจะหลบหนีเท่านั้น ไม่มีประเด็นอื่น แต่ขณะนี้มีเทคโนโลยีใหม่คือกำไลอีเอ็มก็ใช้ได้ ฉะนั้นเรื่องพวกนี้สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาได้ เพื่อมีข้อเสนอให้รัฐบาลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป เพื่อช่วยยับยั้งการถูกจับของคนรุ่นใหม่และอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราไม่ได้บังคับศาล เพราะการวินิจฉัยคำพิพากษาทางคดีเราก้าวล่วงไม่ได้ แต่ก้าวล่วงกระบวนการได้ ไม่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แม้กระทั่งคนจะยื่นแก้มาตรา 112 การดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต้องดูองค์รวม ไม่ใช่ดูเฉพาะประเด็น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image