จุดพลุ-เทียน-ส่งเสียงถึงนักสู้ ‘บอย’ ลั่นปี 65 ระเบิดเวลา ยกอานนท์-เพนกวิน เป็น ‘บุคคลแห่งปี’
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) จัดกิจกรรม “อยู่เป็นเพื่อน ย้ำเตือนความยุติธรรม” ชุมนุมเคานท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับศักราชใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ระหว่างเวลา 17.00 – 05.00 น.
อ่านข่าว : ครย.ม็อบส่งท้ายปี’64 ‘มีมี่’ โกนหัวรอบ 2 ย้ำเตือน เพื่อนยังถูกขัง ‘วีโว่’ เผากุ้งขายชุดละ 112
บรรยากาศ เวลา 18.46 น. นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย กล่าวปราศรัยความตอนหนึ่งเพื่อตอกย้ำถึงความสำเร็จของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และว่า หากกลไกเชิงอำนาจ-วัฒนธรรมยังไม่เปลี่ยน สุดท้ายก็จะมีรัฐธรรมนูญเผด็จการเข้ามาอีก สุดท้ายก็ต้องกลับมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปอีก
“รากฐานที่สำคัญมาก แต่ฝ่ายอนุรักษนิยมเลี่ยงที่จะพูดถึงและให้ความสำคัญ คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านวัฒนธรรม และเราเปลี่ยแปลงเชิงวัฒนธรรมสำเร็จแล้ว
ปี 2565 ปัญหาทุกอย่างจะระเบิดออกมาเหมือนระเบิดเวลา ปี 2565 นี้ เป็นสัญญานที่ผมบอกว่า ‘การลงมือเปลี่ยนสังคมไทยจะเกิดขึ้น’ ปี 63 ซึ่งหากย้อนดู อาจไม่ชัด และการต่อสู้อาจไม่ใช่แค่การตั้งคำถาม แต่จะกระทบไปถึงหลายมิติในสังคม เราได้เห็นหลายสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หลายองค์กรทั้งรัฐ เอกชน มีปรากฏการณ์ลุกขึ้นสู้ของคนเจนใหม่ เริ่มตั้งคำถามถึงคนในองค์กรตนเองที่มีลักษณะเชิดชูตนเอง และเป็นเผด็จการ เป็นการต่อสู้โครงสร้างอำนาจนิยมด้วย ซึ่งได้ระบิดโซ่ตรวน ปลดแอกความคิด วัฒนธรรม สังคมไทย และวัฒนธรรมการยอมรับต่างๆ ทุกอย่างปลดแอกหมดแล้ว ปี 2565 คือการปฏิบัติ” นายธัชพงศ์ กล่าว
ก่อนย้ำว่า ‘คนมาชุมนุมน้อยจัง’ อย่าไปหลงติดคำนี้ ปฏิบัติการไอโอ ชอบเอาจำนวนคนของการชุมนุมในอดีต มาเทียบเพื่อกดทับ ปี 65 เราต้องตั้งรับให้ดี นี่คือวาทกรรมในการลดทอนกำลังพวกเรา โดยเฉพาะการไม่ปล่อยเพื่อนเรา เอามากดทับให้รู้สึกพ่ายแพ้ และเอาจำนวนคน มาทำให้รู้สึกผิดหวัง แต่คนข้างในที่อยู่ได้ เพราะเสียงความหวังของพวกเราที่มาอยู่กันตรงนี้ ปี 2565 ถ้ามีการเลือกตั้ง เราจะไม่เลือกพรรคที่ไม่สนับสนุนการยกเลิก 112 เราจะต้องลงโทษทางสังคม ประจานพรรคการเมืองทุกพรรคที่ไม่สนับสนุนการปล่อยเพื่อนเรา และยกเลิก 112
เราต้องช่วยกันตั้งคำถาม นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 1.ต้องมีท่าทีที่ชัดเจนต่อการยกเลิกมาตรา 112 และ 2. แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า จะทำให้เพื่อนในเรือนจำออกมาได้อย่างไร เราต้องไม่ปล่อยให้เพื่อนโดดเดี่ยว ไม่ว่าจะอย่างไร เราจะยังคงรักษาไม่ให้ถูกลดเพดาน และยังยืนยันว่าการปฏิรูปไม่ใช่การล้มล้าง ปี 65 คือการเด็ดยอดชัยชนะ ในเชิงกลไกอำนาจ
ด่านแรกที่เราจะต้องสั่งสอนคือ เราจะตบหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราจะด้อยค่า ไม่มีการประนีประนอม” นายธัชพงศ์กล่าว
นายธัชพงศ์ ยังกล่าวคำอวยพรด้วยว่า อยากขอให้เพื่อนที่อยู่ข้างในออกมาให้เร็วที่สุด น่าจะเป็นคำอวยพรของพวกเราในวันนี้
“แต่คำอวยพรที่ผมอยากมอบให้เราทุกคน 2 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างคนหนุ่มสาวทุกกลุ่มมาตลอด ไม่เคยทิ้งเพื่อนเราที่อยู่ข้างใน ขอบคุณในความเสียสละของทุกคน เราจะไม่สามารถเดินต่อไปได้เลยถ้าไม่มีทุกท่านที่อยู่ตรงนี้
ปีใหม่พูดได้คำเดียวว่า เตรียมตัวขยับแข้งขา ปี 65 จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉลอง ให้กับประเทศไทยที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” นายธัชพงศ์กล่าว
ขณะที่ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน สวมเสื้อยืดสกรีนใบหน้าบุตรชาย มาร่วมชุมนุม พร้อมประดับไฟหลากสีเหนือศรีษะ นอกจากนี้ ยังมี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ดอาสาวีโว่ นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายธนพัฒน์ กาเป็ง และสมาชิกทะลุฟ้า ไปจนถึงสมาชิกแนวร่วม ครย. 112 ร่วมชุมนุม
จากนั้น เวลา 19.03 น. มีการอ่านบทกวีเนื้อหากล่าวถึงการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดการปัญหาโควิด-19 ทั้งนี้ นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือ เจมส์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เปิดเผยว่า ในเวลา 20.00 น. จะมีไฮไลท์ และมีเซอร์ไพรส์ในค่ำคืนนี้ ก่อนเข้าสู่ช่วงบรรเลงดนตรีโดยศิลปินเพลงเพื่อราษฎร
เวลา 19.37 น. น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา ผู้ก่อตั้งหน่วย FAV.53 First aid Volunteer กล่าวถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในเรือนจำ และกรณีที่ นายเปรมชัย กรรณสูตร อดีตประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ร้องขอการตรวจร่างกาย เพื่อออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
“เมื่อเป็นนักโทษ ต้องมีความเท่าเทียม ไม่ใช่ใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชน ทำไมถึงไม่ให้ประกันตัว เด็กควรต้องอยู่ในห้องเรียน ไม่ใช่ห้องขัง อนาคตเด็กคนหนึ่ง ไม่ได้มีชีวิตอย่างคนทั่วไป ไม่เข้าใจว่าเอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัด ทั้งเบนจา อานนท์ ก็มีการเขียนจดหมายปีใหม่ถึง
จากนั้น น.ส.ณัฏฐธิดา อ่านจดหมายที่ครอบครัวของนายอานนท์ เขียนถึงนายอานนท์ที่อยู่ในเรือนจำ ทั้งนี้ เมื่ออ่านจบ ผู้ชุมนุมร่วมปรบมือให้กับนายอานนท์ ที่คอยว่าความ ช่วยเหลือนักต่อสู้ทางการเมืองตั้งแต่สมัยคนเสื้อแดง
“อานนท์ ไผ่ เพนกวิน เบนจา อาทิตย์ ทะลุฟ้า ทุกคนต่างถูกกดหัวให้ยอมรับสิ่งที่ตนไม่ได้ทำผิด ด้วยมาตรา 112” น.ส.ณัฏฐธิดากล่าว
จากนั้น เวลา 19.48 น. “ตะวัน” เยาวชนหญิง อ่านบทกวี เนื้อกล่าวถึงกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม และยืนยันถึงการลุกขึ้นต่อสู้ร่วมกันต่อไป
“วิน” เยาวชนชาย อ่าวบทกวี ถึงลูกหลานสามัญชนที่ถูกจัง เพียงเพราะเรียกร้องความเป็นธรรม และการพัฒนาประเทศชาติ
กระทั่ง เวลา 20.00 น. มีการอ่านแถลงการณ์ คณะราษฎร ยกเลิก 112 โดยก่อนเริ่มอ่านแถลงการณ์ทีมงานได้แจกหน้ากาก ระบุข้อความ “ปล่อยนักโทษการเมือง ยกเลิก 112” ให้ผู้ชุมนุมสวมใบหน้า พร้อมเทียนไข
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย อ่าน ‘ราษฎรสานส์’ อวยพรปีใหม่ และตอกย้ำถึงวิกฤตโควิดว่า รัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหา แต่กลับซ้ำเติม ก่อนกล่าวถึงการร่วมต่อสู้ เพื่อยกเลิกมาตรา 112, ปล่อยนักกิจกรรมทางการเมือง
“ขอให้ชาติบ้านเมืองหลุดพ้นจากเผด็จการ ก้าวสู่ประชาธิปไตย และก้าวหน้าต่อไป ด้วยความผาสุก โดยทั่วกัน” นายสมยศกล่าว
จากนั้น ผู้ชุมนุมร่วมจุดเทียน ขับขานบทเพลง ‘บทเพลงของสามัญชน’ และ ‘เราคือเพื่อนกัน’ อย่างคึกครื้น ก่อนร่วมตะโกน ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ อย่างต่อเนื่อง และต่อด้วยวลี ‘ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ’ ดังกระหึ่ม
เวลา 20.25 น. มีการฉายวีดิทัศน์ บุคคลแห่งปี โดยเริ่มที่บทสัมภาษณ์ของนายอานนท์ นำภา ซึ่งกล่าวถึงขบวนการต่อสู้ ตัดสลับกับภาพฟุตเทจการชุมนุมที่ผ่านมา ในปี 2563-2564 โดยนายอานนท์ ได้ยึดคติของจิตร ภูมิศักดิ์ สู้จนตัวตาย และเชื่อว่า สิ่งที่ทำจะถูกส่งต่อไปสู่อีกรุ่น ไม่มีการต่อสู้ที่ชนะเด็ดขาด แต่ที่ว่า จบในรุ่นเรา คือปัญหาอะไรเกิด ก็ไปแก้
จากนั้นต่อด้วย การฉายคลิป นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ โดยผู้ชุมนุมร่วมปรบมือให้กำลัง นางสุรีย์รัตน์ มารดาของนายพริษฐ์
ต่อด้วยคำอวยพร ของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ ที่ขอให้ร่วมสานต่อการต่อสู้
“คนข้างในยังคงมีความหวัง สวัสดีปีใหม่” นายไชยอมร กล่าว
