ไผ่ เปิดใจหลังถูกพรากอิสรภาพ 6 เดือน เผยคิดพา ‘แมว’ ออกมาด้วย หวังเพื่อนทุกคนได้ปล่อยตัว

ไผ่ ดาวดิน เปิดใจหลังถูกพรากอิสรภาพ 6 เดือน เผยคิดพา ‘แมว’ ออกมาด้วย ยอมรับเสียใจพลาดสอบตั๋วทนาย หวังเพื่อนทุกคนได้ปล่อยตัว

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลจังหวัดภูเขียวมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ในข้อหา ม.112 และคดีการชุมนุมทุกคดีที่อยู่ในศาลอาญา โดยมีเงื่อนไข 1.ติดกำไล EM 2.ห้ามทำกิจกรรมที่กระทบต่อสถาบัน 3.ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่ก่อความวุ่นวาย และ 4.ห้ามเดินทางออกประเทศ ซึ่งนายจตุภัทร์จะได้รับการปล่อยตัวในช่วงค่ำของวันนี้ หลังจากถูกคุมขังด้วยข้อหาทางการเมืองเป็นเวลากว่า 6 เดือน ขณะที่นายภาณุพงศ์ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายภาณุพงศ์พรุ่งนี้ (11 ก.พ.)

ขณะเดียวกัน นายจตุภัทร์ หรือ ไผ่ ร่วมเผยความในใจหลังได้รับอิสรภาพผ่านทาง เพจทะลุฟ้า ระบุว่า ถ้าอยู่ในเรือนจำ ตอนนี้เขานอนกันแล้ว ช่วงนี้เขากำลังดูหนังเรื่องดาบมังกรหยกอยู่ กำลังมัน อย่างน้อยเป็นสิ่งให้เราได้เพลิดเพลิน ถ้าตื่นเช้ามาก็ใช้ชีวิตปกติ ช่วงโควิด-19 ก็กักตัวอยู่ในห้อง ก็ดี มีแมวตัวนึงชื่อหมวย ตอนแรกไม่รู้ว่าวันนี้จะได้ประกันตัวไหม ว่าจะเอาหมวยออกมาด้วย เป็นแมวแม่ลูกอ่อน แมวเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา

“ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อสู้” นายจตุภัทร์ยืนยัน

นายจตุภัทร์กล่าวว่า คิดว่าการต่อสู้ก็ยังมี เป็นเรื่องในอนาคต รอให้เพื่อนๆ ทุกคนออกมาแล้วคุยกัน คิดว่าทุกคนยังมีจิตวิญญาณการต่อสู้อยู่ เราอาจยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างเห็นได้ชัด แต่การเปลี่ยนแปลงเชิงวัฒนธรรมก็มาจากการต่อสู้ของทุกคน

Advertisement

“ผมอยู่ในเรือนจำ รองเท้าที่ใส่เตะฟุตบอลมีเขียนข้อความว่าไม่ให้บูลลี่ ผมว่าสำนึกของมนุษย์ การเคารพการเป็นมนุษย์ สิทธิต่างๆ มันสะท้อนในสิ่งที่ใช้ชีวิต การไม่ยอมต่อการเอาเปรียบ การกดขี่ การที่เราไม่ได้เลือกอนาคตของเรา ผมคิดว่ามันก็อยู่ในจิตวิญญาณของทุกคน ในระยะต่อไปเราต้องมาคุยกันยาวๆ ผมต้องอัพเดตสถานการณ์อีก การมีเสรีภาพเป็นสิ่งจำเป็น มนุษย์ควรมีเสรีภาพ อยากให้เพื่อนออกมาด้วยกันทุกๆ คน” นายจตุภัทร์กล่าว

สำหรับเพื่อนที่อยู่ข้างใน นายจตุภัทร์บอกว่า แต่ละคนพยายามหากิจกรรมทำ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ สีซอ ทนายอานนท์ นำภา ออกกำลังกาย กระโดดเชือก วิ่ง ส่วนตัวเองบางทีก็เตะบอล พยายามใช้ชีวิต ทุกที่คือการต่อสู้ ทุกคนก็สู้ พยายามปรับตัวและสู้กับทุกสถานการณ์

ประเด็นที่ไม่ได้ออกมาสอบตั๋วทนายนั้น นายจตุภัทร์กล่าวว่า อยู่ในข้างเตรียมตัวสอบเต็มที่ เริ่มจับทางการสอบได้แล้ว ก็เสียใจอยู่ เพราะใช้เวลานานกว่าจะรอสอบอีกครั้งหนึ่ง

Advertisement

“ผมว่าบรรยากาศของสังคมมันมีพัฒนาการ คนกล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ มีความเข้าใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น อย่างที่บอกว่าเชิงวัฒนธรรมนั้น อะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้เกิดขึ้น ปรากฏการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น เช่น ม็อบชาวบ้าน ม็อบรถบรรทุก เป็นความเดือดร้อนที่ทุกคนออกมา เรามีสิ่งเดียวคือความหวัง ประชาชนก็เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลง รัฐสภาก็สำคัญ ทุกส่วนสำคัญหมด

“ระยะต่อไปคิดว่าการต่อสู้คงต้องเด็ดขาด หมายถึงต้องทบทวนบทเรียน นำปัญหาต่างๆ มาแล้วตั้งหลักดีๆ รอเพื่อนๆ ออกมาแล้วพูดคุยกัน ยังเชื่อว่าในยุคสมัยนี้บรรยากาศทางสังคมเปลี่ยนไป หวังว่าทุกคนออกมา ฝากให้กำลังใจเพื่อนๆ ข้างในให้เขาออกมาใช้ชีวิตข้างนอก ต่อสู้ข้างนอกอีกครั้ง

“ตกใจ 6 เดือนไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้ ออกมาแล้วตื่นเต้น เห็นพี่น้องมา บางคนอยู่ตั้งแต่ผมโดนที่ขอนแก่น ราวปี 59-60 ก็ยังเจอกันอยู่ ตื้นตันใจ แม่ๆ ป้าๆ ก็ยังออกมาเคลื่อนไหว บางครั้งตอนออกมาจากศาลก็เห็นการเคลื่อนไหว เราเห็นมาโดยตลอด ชีวิตนึงก็คุ้มแล้วที่ได้ต่อสู้ มีคุณค่ามากๆ บอกไม่ถูก ทุกคนมากอด ดีใจ

“เวลาเราไม่ออกศาลก็มีเพื่อนๆ บอกว่ามีคนมายืนให้กำลังใจ ดีใจ มันเป็นกำลังใจให้เรา รู้สึกว่าเราก็ไม่ท้อ ป้าๆ แม่ๆ สู้มาตั้งแต่ยุคไหนแล้ว เขาสู้มานาน การต่อสู้ยังมีต่อไปอยู่ ขอบคุณทุกคนด้วยที่เราได้รับจดหมาย ทุกคนจะนั่งอ่าน เก็บใส่กระเป๋า มีความรู้สึกดีๆ ขอบคุณทุกฉบับที่เขียนมา” นายจตุภัทร์กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image