‘ส.ส.พปชร’ จี้ สธ.ลงพื้นที่ตรวจโควิดหาดใหญ่ ชี้มาตรการ ‘เจอ แจก จบ’ มีปัญหา เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ยารักษา-อาหาร ส่งล่าช้า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่รัฐสภา นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงถึงกรณีความเดือดร้อนของประชาชนใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่าจากรณีที่สาธารณสุขมีมาตรการเกี่ยวกับการรักษาโควิดขณะนี้ว่า เจอแจกจบนั้น อยากให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้ใหญ่ในกระทรวงตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามที่ตนได้รับร้องเรียนนั้นยังมีปัญหาอยู่มาก แม้มาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการที่ดี มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิดได้ในอนาคตก็ตาม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านตามมาตรการพบปัญหามาก เนื่องจากมีการส่งยารักษาที่ล่าช้า ทั้งฟาวิพิราเวียร์ และยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ไอ ลดไข้ ลดน้ำมูก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ส่งยารักษามีจำนวนไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัยให้อาสาสมัครและจิตอาสาเข้ามาช่วย แต่ทั้งอาสาสมัครและจิตอาสาไม่สามารถมาช่วยได้ทุกวัน ดังนั้น ผู้ที่มีหน้าที่หลักควรจะเพียงพอรวมไปถึงอาหารที่จัดส่งให้ผู้ป่วยที่กักตัวก็มีความล่าช้า บางคนได้รับอาหารเสีย ดังนั้นขอเรียกร้องให้สาธารณสุขเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาโดยด่วน
“ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือคนติดตามของผมที่ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และต้องกักตัวที่บ้านก็ประสบปัญหาในเรื่องของยาและอาหารที่มาล่าช้า เน่าบูด เพราะเขาไม่สามารถที่จะออกไปหาอาหารเองได้ จึงเห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรมีการสื่อสารกับผู้ป่วยมากกว่านี้ เพราะแม้แต่ผมเองยังต้องไปส่งยาให้กับผู้ป่วยเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ส่งข้อความข้อความช่วยเหลือว่ากักตัวผ่านไป 3 วันแล้วยังไม่มียารักษา ผมจึงไปรับยาจากโรงพยาบาลและบางครั้งจะซื้อยาสามัญประจำบ้านไปให้ผู้ป่วยก่อน” นายศาสตรากล่าว
นายศาสตรากล่าวว่า นอกจากนั้นยังให้กระทรวงสาธารณสุขลงไปดูแลชุมชนแออัด ผู้มีรายได้น้อยบางครอบครัวมีถึง 5 คน แต่ต้องกักตัวอยู่ในห้องเดียวกัน รวมไปถึงกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการและเด็ก ซึ่งมาตรการดังกล่าวทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ไม่พร้อมรอแบบไม่มีความหวัง ไม่ทราบว่าจะมาส่งยาให้วันไหน อาหารพอหรือไม่ ถ้ากระทรวงสาธารณสุขต้องการให้มาตรการเจอแจกจบเป็นผล ต้องมาส่งยาและอาหารตามเวลา เพราะโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแพร่เชื้อรวดเร็วมาก และใน อ.หาดใหญ่ มีผู้ติดเชื้อวันละ 200 คน คิดเป็น 97 % รวมไปถึงห้ามถอดถอนสิทธิ์การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ตนคิดว่าสิทธิ์การรักษานี้ควรขยายไปอีกระยะหนึ่ง เพราะหากถอดสิทธิ์ตอนนี้ประชาชนยังไม่พร้อม รวมไปถึงการห้ามล็อกดาวน์ใน อ.หาดใหญ่ เพราะมีเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจว่าหากล็อกดาวน์อีกจะทำให้เกิดความเดือดร้อนตามมา ยืนยันว่าการออกมาพูดในครั้งนี้ของตนไม่ได้เป็นการแทรกแซงหรือไม่เห็นด้วยกับมาตรการ แต่ต้องการให้ผู้บริหารลงไปดูในพื้นที่จริง
