สุพัฒนพงษ์ ชี้ 10 มาตรการด่วน รักษาเสถียรภาพการเงินไทย คาดอีก 3 เดือน ‘ยูเครน-รัสเซีย’ ดีขึ้น

‘รองพงษ์’ จับมือ ก.คลัง-พลังงาน-แรงงงาน แถลงช่วย ปชช.จากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย คาดอีก 3 เดือนสถานการณ์ดีขึ้น ลั่นยามวิกฤตการเงินเราต้องเข้มแข็ง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการแถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน-รัสเซียที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมแถลงด้วย

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ตั้งแต่มีการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน รวมทั้งมาตรการต่างๆ จนกระทั่งมีสายพันธุ์คือใหม่โอมิครอน ซึ่งเป็นเวลา 2 ปีแต่วิกฤตนี้ก็ยังไม่หมดไป รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางต่างๆ และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจึงตัดสินใจเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้ มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเกือบ 2% ซึ่งเหมือนจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็มีสัญญาณของพลังงานและราคาสินค้าบางตัวที่สูงขึ้น แต่รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการออกมาตรการตรึงราคาพลังงานต่างๆ และเมื่อมีสัญญาณความขัดแย้งของยูเครนกับรัสเซียเกิดขึ้น ในส่วนนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้ 3 หน่วยงานที่เป็นหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ช่วยกันติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด พบว่า มีความน่าเป็นห่วง คาดว่าในเดือนมีนาคมสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติ ประเทศไทยควรฟื้นตัวและเดินหน้าต่อโดยเน้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ

Advertisement

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวต่อว่า จากการติดตามสถานการณ์ของ 3 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจเห็นว่าเกิดการสนับสนุนเป็นขั้วต่างๆ รวมถึงมีการกีดกันทางการค้า ซึ่งเมื่อเป็นขั้วต่างๆ โลกที่เคยสมดุลด้านทรัพยากร หรือสินค้า หรือการค้าขายก็ไม่เกิดการสมดุล โดยแต่ละขั้วมีจุดเด่นที่ต่างกันมาถูกตัดขาด ทำให้มีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจสรุปได้ และคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง คิดว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาตรการระยะสั้นเพื่อประคับประคองประชาชนในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ โดยยังรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศไทยไว้ ซึ่งเป็นความมั่นคงที่จำเป็นและในยามวิกฤตเราต้องมีความเข้มแข็งทางการเงิน จึงได้ออกมาตรการ 10 มาตรการ อย่างน้อย 3 เดือน เป็นเรื่องราคาขายปลีกน้ำมัน ราคาก๊าซหุงต้ม และดูแลกลุ่มเปราะบาง 5 กลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าหาบเร่แผงลอย มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ เพื่อให้บริการประชาชนในอัตราที่ไม่ได้เพิ่มขึ้น ผู้ใช้ไฟรายย่อย กลุ่มนายจ้าง-ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมที่จะได้รับการช่วยเหลือ” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image