‘อานันท์’ ไม่ลืมอดีต ‘เปิดอนุสาวรีย์วีรชน 35’ ยันต้องปรองดอง เดินข้ามความทรงจำ-อย่าให้เคียดแค้น กีดขวางชีวิต

‘อานันท์’ ไม่ลืมอดีต ‘เปิดอนุสาวรีย์วีรชน 35’ ยันต้องปรองดอง เดินข้ามความทรงจำ-อย่าให้เคียดแค้น กีดขวางชีวิต

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ คณะกรรมการญาติวีรชน 35, มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล, รัฐสภา ตลอดจนภาคประชาชน ร่วมจัดงานรำลึก “30 ปี พฤษภาประชาธรรม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ที่อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 คณะผู้จัดงาน ญาติวีรชน ผู้แทนภาคส่วน และประชาชนร่วมพิธีรำลึก โดยมีผู้ร่วมงานคับคั่ง อาทิ ญาติวีรชน, นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35, ฯพณฯ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา, พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้แทนฝ่ายค้าน, พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล กรรมการกลาง มูลนิธิปรีดี พนมยงค์, นายเมธา มาสขาว เลขาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร และ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไปจนถึง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เป็นต้น

อ่านข่าว : รำลึก 30 ปีพฤษภา 35 ‘ชวน’ ปธ.เปิดงาน ยันหลักดีต้องคู่ ‘คนดี’ โคทม รับมีเสียงค้าน

: วางมาลา-ปลูกต้นไม้-วาดปชต. ‘บิ๊กป้อม’ ส่งตัวแทนกล่าวอาลัยวีรชน’35 ‘หมอชลน่าน’ ชี้ต้องสร้าง รธน. ปชช.

Advertisement

บรรยากาศเวลา 10.25 น. นายชวน ประธานรัฐสภา เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยพระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ และตามด้วยถวายภัตตาหารเพล 10 รูป จากวัดเทพธิดาราม โดยมีพระวิสุทธิวราภรณ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

เวลา 11.30 น. มีการถวายบังสุกุล และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้วายชนม์จากเหตุการณ์พฤษภา 35 ก่อนพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน ทั้งนี้ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงษ์และกรวดน้ำร่วมกับครอบครัวญาติด้วย

จากนั้นเวลา 11.42 น. นายอานันท์ ปันยารชุน ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อติดตามผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้เสียหายจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 เป็นประธานถวายปัจจัยพระสงฆ์ และให้เกียรติกล่าวเปิดอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 ก่อนร่วมวางดอกไม้ที่อนุสรณ์

Advertisement

นายอานันท์กล่าวว่า ญาติพี่น้องของผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม วันนี้พฤษภาคม 35 ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง เป็น 30 ปีในปีนี้ มูลนิธิพฤษภาประชาธรรมและญาติวีรชน จึงได้จัดงานรำลึก

“วันนี้ผมมาเนื่องจากหลังเหตุการณ์พฤษภา 35 จะลุกลามต่อไป ผมได้รับเชิญให้เป็นนายกฯ และต่อมา เป็นประธานคณะกรรมการในเรื่องของการชดใช้ ความเสียหาย การสูญเสียทรัพย์ ลูก พี่ น้องทั้งหลาย การสูญเสียนั้นพี่น้องที่นี่ยังจำได้ดี แม้ผ่านมา 30 ปีแล้ว ตัวผมเองก็จำได้ดี และคงจะไม่ลืม แต่ชีวิตคนเรา ทุกครั้งที่ประสบปัญหาในชีวิต ไม่ว่าเราทำเอง หรือคนทำอื่นทำให้เรา หรือถูกกระทำ ชีวิตเราต้องดำเนินต่อไป ชีวิตที่เราดำเนินมาอีก 30 ปีนั้น หลายครั้งหลายคราว เราขมขื่น แต่สุดท้ายถึงแม้จะไม่ได้มีการค้นหา ความเท็จ-ความจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในทางพุทธศาสนา เราจะเอาความเคียดแค้น ผิดหวัง เสียใจในชีวิต มาเป็นเครื่องกีดขวางการดำเนินชีวิตในอนาคต ไม่ได้

ผมยินดีที่ไม่กี่ปีมานี้ คณะรัฐมนตรีได้ออกข้อเท็จ-จริงที่เกิดขึ้น กระทรวงกลาโหมได้ขอโทษอย่างเป็นทางการ และผู้ที่มีส่วนเสียหายก็ได้อโหสิกรรมให้กับการกระทำ ความทรงจำยังมีอยู่ เราไม่ลืม แต่เราต้องเดินข้ามไปแล้ว” นายอานันท์กล่าว

นายอานันท์กล่าวต่อว่า ยินดีที่วันนี้ได้มาพบปะญาติพี่น้องของผู้สูญเสียอีกครั้ง ถือเป็นบุญกุศลแก่ผู้ที่เสียชีวิต อนุสาวรีย์เป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึง ต่อไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความเคียดแค้น เจ็บใจ แต่สร้างบทเรียนประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานผู้ประสบเหตุได้ระลึกถึงเสมอว่า ครั้งหนึ่งมีการต่อสู้เพื่อ ‘ประชาธรรม ประชารัฐ และประชาคม’ เรียกร้องหาเสรีภาพ โอกาสลดความเหลื่อมล้ำ มีนิติธรรมในสังคม แสวงหาสิทธิขั้นต้นในการออกความเห็นที่แตกต่าง

“คนเราความเห็นแตกต่างกันได้ แต่เมื่อไหร่มีการแตกแยก ต่อสู้ ใช้กำลัง นั่นเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ 80 ปีที่ผ่านมาเรามีบทเรียนหลายครั้ง แต่เราไม่เคยจำ เหตุการณ์ประเภทนี้ยังเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งต่อไป การไม่อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ทำให้ความขัดแย้งลุกลามไปถึงจิตใจของประชาชน ก่อให้เกิดความเกลียดชัง โมโหโทสะอย่างรุนแรงเมืองไทยเราจะหาความสุขสงบยาก

เพราะความปรองดอง เริ่มสร้างจากความเข้าใจ ความเชื่อถือซึ่งกันและกัน และถึงแม้จะไม่เป็นมิตร แต่สร้างความไม่เป็นศัตรูซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้ใช้เวลา ใช้ความพยายาม ใช้สติ วันนี้มาระลึกถึงอดีต คงสติไว้ เพื่อนำประเทศชาติสู่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ มั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจ และการเมือง ผมหวังว่าเหตุการณ์ประเภทนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย เพราะถ้าเกิด เราไม่โต แต่จะย้อนหลังเป็นเด็กทุกที ผมไม่ได้สูญเสียอะไรจากเหตุวันนั้น แต่ทำให้ผมรู้ว่า ต้องรักประเทศชาติ รักประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะในสังคมมีแต่ความเกลียดชัง ความดูถูก ดูแคลน” นายอานันท์กล่าว และว่า

“30 ปีประชาธรรม ขอตั้งจิตอธิษฐานให้วิญญาณของผู้เสียชีวิต ไม่ว่าเพศ ศาสนาใด ให้คนไทยตื่นจากความมืดมัว ตื่นจากความซึมเศร้า ตื่นเพื่อต่อสู้ สร้างอนาคตใหม่ที่ดี ที่งาม ที่เป็นธรรม และที่ไม่เป็นภัยกับผู้ใดทั้งสิ้น ผมขอเปิดอนุสรณ์ ณ บัดนี้” นายอานันท์กล่าว

กระทั่งเวลา 11.54 น. นายอานันท์ได้ทำการเปิดอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม พร้อมวางพวงมาลาหน้าอนุสรณ์ และยืนมองรายชื่อที่สลักบนอนุสรณ์อยู่ชั่วครู่ ก่อนพนมมือไหว้ทำความเคารพ และร่วมแปะภาพนกบนภาพศิลปะตัดแปะ เหนือประติมากรรมรูปดาวที่ตกแต่งไว้บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมขุดดินรดน้ำปลูกต้นไม้ประชาธิปไตย ที่สวนสันติพรอีกด้วย

โดยภายหลังจบงาน มีการเลี้ยงอาหารกลางวัน อาทิ ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ อภินันทนาการจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และขนมจีนน้ำยา โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image