เพื่อนเก็ทพ้อ-‘ปูน’ ขอสิทธิประกัน ตะวันทรุดหนักจริง ชี้ 1 วินาทีมีค่า ‘ชีวิตคนรอไม่ได้’

เพื่อนเก็ทพ้อ-‘ปูน’ ขอสิทธิประกัน ตะวันทรุดหนักจริง ชี้ 1 วินาทีมีค่า ‘ชีวิตคนรอไม่ได้’

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดย รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยนักวิชาการจากหลากหลายสถาบัน และประชาชน ร่วมทำกิจกรรม “เดินหยุดขัง” #เดินไปบอกศาลให้ทำตามกฎหมาย เริ่มจากหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ไปยังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ร่วมยืนหยุดขัง กับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ และปราศรัยเรียกร้องสิทธิการประกันตัวชั่วคราวให้กับนักกิจกรรมทางการเมือง ทั้ง 11 ราย ซึ่งถูกคุมขังโดยคำพิพากษายังไม่ถึงที่สิ้นสุด

อ่านข่าว :

โดยเวลา 17.20 น. ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า กล่าวว่า วันนี้ตนมาร่วมเดินตั้งแต่เรือนจำคลองเปรม มาที่ศาลอาญา รัชดา รู้สึกดีใจที่มีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก และรู้สึกว่าคนข้างในน่าจะยังมีความหวังอยู่อีกครั้งหนึ่ง

Advertisement

“เราอยู่ข้างนอก เห็นคนมาเดินให้เพื่อน ยังรู้สึกว่า นี่แหละคือพลังของประชาชนจริงๆ เราอาจจะต้องยอมรับว่า มันไม่ได้มากเท่าเมื่อก่อน หรือยิ่งใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ว่ายังมีคนที่สู้อยู่ ตราบใดที่เรายังสู้อยู่ ก็แสดงว่าคุณค่าความเป็นคนในตัวเรายังมี ไม่ว่าคนน้อยหรือมาก มันไม่ได้อยู่ที่จำนวนของคน แต่อยู่ที่จำนวนของใจ ต่อให้เรามีใจที่จะสู้ และใครยิ่งใหญ่ขนาดไหน เขาก็ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ เพราะเราเชื่อว่าเวลาเป็นของเรา” นายธนพัฒน์กล่าว

นายธนพัฒน์กล่าวว่า เมื่อวานตนได้มีโอกาสคุยกับ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง โดยเพื่อนที่เรือนจำของ น.ส.ปนัสยาเล่าให้ฟังว่า แค่ น.ส.ทานตะวันจะเอื้อมไปเล่นกับแมว ยังไม่มีเรี่ยวแรงเลย

Advertisement

“แปลว่าอาการมันต้องหนักขนาดไหน การที่คนจะเดินไปหาหมอ แต่เดินไปไม่ได้ ต้องให้คนช่วยพยุงไป ดังนั้น การที่ราชทัณฑ์บอกว่า น.ส.ทานตะวันแค่อ่อนเพลียเล็กน้อยนั้น คิดว่าไม่เป็นความจริง” นายธนพัฒน์กล่าว

เมื่อถามว่า คิดว่าพรุ่งนี้จะได้ต้อนรับเพื่อนกลับบ้านหรือไม่ ?

นายธนพัฒน์เผยว่า ใจลึกๆ มีความหวังว่าอย่างไรพรุ่งนี้เพื่อนจะได้ออก ถ้ากระบวนการยุติธรรมฟังเสียงเรา และคิดได้ว่าการนำเยาวชนคนหนึ่งซึ่งเป็นอนาคตของชาติไปขังไว้นั้น ทำให้ประเทศของเราถอยหลัง อย่างเช่นนายโสภณ หรือเก็ท กำลังจะไปสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แล้ว แต่ก็ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ปีที่แล้ว นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ก็กำลังจะสอบตั๋วทนาย จะขอประกันตัวออกมาสอบ ก็ไม่อนุญาต ซึ่งก็ไม่รู้ว่านายโสภณกับทางครอบครัวจะเครียดมากขนาดไหน หากไม่ได้ออกมาสอบ และประเทศของเราบุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้มีมากพอขนาดนั้น

นายธนพัฒน์ยังกล่าวถึงการใช้ชีวิต โดยมีกำไล EM ที่ข้อเท้าด้วยว่า

นอกจากจะเป็นที่สนใจจากสายตาผู้คนแล้ว ยังทำให้ขาถลอก และผิวหนังเป็นรอย ส่วนเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ค่อนข้างมีความอันตราย เพราะใส่มา 8 เดือนแล้วและโดนน้ำทุกวัน เราไม่รู้ว่าวันไหนจะชอร์ตและระเบิด เป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะไม่สามารถถอดออกจากข้อเท้าและนำมาชาร์จได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันนี้ มีเยาวชนชายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของ นายโสภณ หรือเก็ท กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ผู้ต้องหา ม.112 ที่อดอาหารประท้วงในเรือนจำเป็นเวลา 22 วัน ยืนถือภาพนายโสภณ ที่เปิดจากไอแพด พร้อมกล่าวถึงเพื่อนว่า

เพื่อนของเราไม่สมควรที่จะมาเจออะไรแบบนี้ มันโหดร้ายมาก คือความรุนแรงจากรัฐที่เราไม่สมควรยอมรับมัน และมันก็ไม่สมควรเกิดขึ้นกับพวกเรา

“เรามองเห็นความเข้มแข็งและกล้าหาญของเพื่อนเรา ที่เขากล้าจะยืนยันในสิ่งที่เขาเชื่อ ในสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเขา แต่เขาก็ยืนหยัดว่านี่คือความถูกต้อง เขาสู้กับมัน สู้กับระบบเดิม สู้กับความเชื่อเดิมๆ เขาสู้กับความคิด หรือกลุ่มคนที่สามารถฆ่าเขาได้ เราว่าเพื่อนเรากล้าหาญมาก และเราชื่นชมเพื่อนเรามาก” เยาวชนชาย เพื่อนเก็ทกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image