‘รุ้ง ปนัสยา’ ถาม ‘ชัชชาติ’ กลางตลาดนัดราษฎร ปมยกเลิก 112 ว่าที่ผู้ว่าฯ คว้าไมค์ตอบ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 พฤษภาคม ที่สวนครูองุ่น ซอยทองหล่อ 3 มีกิจกรรม ตลาด (นัด) ราษฎร โดยในงานมีการจัดเสวนา ‘TALK TALK เรื่องเล่า หลังกรงขัง’ โดย ซี จันทนา วรากรสกุลกิจ หรือซี และนายบุรินทร์ อินติน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีและจำหน่ายสินค้าต่างๆ (อ่านข่าว 2 นักสู้ร่วมเสวนา ‘เล่าเรื่องหลังกรงขัง’ ปลื้มคนรุ่นใหม่สานอุดมการณ์ ขอเอฟซี ‘พท.-กก.’ อย่าตีกันเอง)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.24 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปรากฏตัวในงาน จากการสอบถามทราบว่านายชัชชาติกำลังจะเดินเข้าบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสวนครูองุ่น เพื่อเตรียมตัวไปงานแต่งงาน ระหว่างทางเห็นมีกิจกรรมจึงแวะเข้ามาเยี่ยมชม โดยนายชัชชาติได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่มาออกร้าน พร้อมอุดหนุนสินค้า อาทิ น้ำมังคุด ทอดมัน ฯลฯ

ระหว่างที่นายชัชชาติเดินทักทายประชาชนอยู่นั้น ‘ลูกพีช รพีพร’ ได้เล่นเพลงท่อนหนึ่งซึ่งร้องว่า “ลาออกสักที ลาออกสักที” ก่อนจะรีบบอกว่า ไม่ได้หมายถึงนายชัชชาตินะ พร้อมร้องท่อนต่อไปว่า “ลาออกสักที อยู่มา 8 ปี ลาออกสักที…” ทำให้คนที่มาร่วมงานหัวเราะชอบใจ

ช่วงหนึ่งพิธีกรได้เชิญนายชัชชาติกล่าวกับผู้ร่วมกิจกรรมถึงการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ในอนาคต เพราะที่ผ่านมาถูกกฎหมายควบคุมไม่ให้จัดกิจกรรม นายชัชชาติกล่าวว่า บ้านตนอยู่ใกล้แถวนี้ ซึ่งเดินผ่านไปมาตลอดและเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ทรงคุณค่า หากได้อ่านนโยบายของตนจะเห็นว่ามีนโยบายเรื่องการจัดพื้นที่สาธารณะเพื่อให้แสดงออก โดยจะให้กระจายหลายๆ ที่ เพราะตนเห็นว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเรา ซึ่ง พ.ร.บ.การชุมนุม มาตรา 9 หน่วยงานราชการสามารถจัดพื้นที่ให้ประชาชนชุมนุมแสดงความเห็นได้

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวว่า หากมองส่วนตัวตนเห็นว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงชัยชนะของตน แต่หมายถึงชัยชนะของพวกเรามากกว่า ตนว่าเรามีพลังขึ้น และเชื่อว่าเวลาอยู่ข้างพวกเรา เชื่อว่าสถานการณ์จากนี้จะค่อยๆ ดีขึ้น เราจะเริ่มที่กรุงเทพฯนี้ก่อน เช่น การแสดงความเห็นและการยอมรับความคิดเห็นต่างๆ โดยเริ่มต้นจากความหลากหลายทางเพศ คนมีหลายเฉดสีความคิดเห็นทางการเมืองก็เช่นกัน

“เราไม่ใช่คอมพิวเตอร์ และพื้นที่อย่างนี้จะทำให้เราเจอตัวตนและได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งผมยืนยันตามนโยบายว่าจะหาพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพให้พวกเราสามารถมาแสดงออก และเอาของมาขายเป็นแหล่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ แต่การจะทำกรุงเทพฯให้ดีขึ้น ผมไปคนเดียวไม่ได้ ต้องเดินไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าจะเป็นผู้นำแห่งความหวังให้กับพวกเราได้” นายชัชชาติกล่าว

Advertisement

 

จากนั้น น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้ถามความเห็นนายชัชชาติถึงประเด็นการยกเลิกมาตรา 112 นายชัชชาติกล่าวว่า อย่านำมาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยก ตนมองในแง่ของผู้บริหารที่การบริหารจะต้องมีความละมุนละม่อมในระดับหนึ่ง ดังนั้น ต้องมีวิธีการค่อยๆ ปรับ การจะยกเลิกมาตรา 112 จะกลายไปเป็นอีกขั้วหนึ่ง

“คิดว่าต้องเริ่มจากการไม่เอามาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วค่อยๆ พัฒนาไป ผมเป็นผู้บริหารจะต้องมีวิธีในการสื่อสาร อย่างผม ผมก็อดทนมา 8 ปีเหมือนกัน แต่เราต้องมียุทธศาสตร์ในการเดิน ภาษาอังกฤษประโยคหนึ่งบอกว่า การแก้แค้นที่ดีที่สุดคือทำตอนที่เย็นแล้ว อย่าเอาความโกรธความแค้นมาทำ การยกเลิกในความเป็นจริงไม่ง่าย แต่ขออย่านำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เราเริ่มกันตรงนี้ก่อนดีไหม …เวลาอยู่ข้างพวกเรา” นายชัชชาติกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image