‘อานนท์-สุชาติ’ รัวโพสต์ หลังรุ้งถามชัชชาติ ชี้คุยเรื่องยากให้ปกติ คือยุทธวิธีทำลายความกลัว
สืบเนื่องกรณี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ถามนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ในงานตลาด (นัด) ราษฎร ที่สวนครูองุ่น ในประเด็นยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ต่อมาเกิดกระแสวิพากษ์ในโลกออนไลน์ว่าการถามคำถามดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่ กระทั่งน.ส.ปนัสยาโพสต์ชี้แจงในภายหลังผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเป็นเพียงการถาม ‘อย่างซื่อๆ’ ไม่ได้ต้องการโจมตีหรือคาดคั้นคำตอบ พร้อมกันนี้ได้ทวีตข้อความเดียวกันผ่านทวิตเตอร์ด้วย โดยนายชัชชาติ ได้ทวีตข้อความตอบ ว่า ขอบคุณรุ้งที่ตั้งคำถาม ตนยินดีตอบทุกคำถาม ดีใจที่ได้เจอ คุยกันแบบพี่น้อง
อ่าน : ‘รุ้ง ปนัสยา’ ถาม ‘ชัชชาติ’ กลางตลาดนัดราษฎร ปมยกเลิก 112 ว่าที่ผู้ว่าฯ คว้าไมค์ตอบ
อ่าน : รุ้ง แจงปมถาม ‘ชัชชาติ’ เรื่อง 112 ยันไม่ต้องการโจมตี อยากรู้จึงถาม หากไม่ตอบก็ไม่คาดคั้น
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ความเห็นในประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยระบุว่า นายชัชชาติคงไม่ได้เดินหลงทางเข้าไปในงาน และการพูดคุยเรื่องยากๆให้กลายเป็นเรื่องปกติเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่จะทำลายความกลัว
ความว่า
‘ชัชชาติคงไม่ใช่แค่เดินหลงทางเข้าไปในงาน 112 หรอกมั้งครับ การทำเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องปกติ การพูดคุยเรื่องยากๆให้กลายเป็นเรื่องปกติ นี่เป็นยุทธวิธีนึงที่จะทำลายความกลัว ความเขลาของสังคมลง สังคมมันควรเดินไปข้างหน้า สลัดความกลัว ความกังวลลงบ้าง แล้วชีวิตจะสนุกขึ้นครับ’
ต่อมา นายอานนท์ โพสต์ข้อความเพิ่มเติม 2 ครั้ง ถึงการเปิดใจให้กว้าง สิ่งใดผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความปรารถนาดี ซึ่งคนรุ่นใหม่ต้องรับฟัง
ความว่า
‘คือเห็นมาแล้วหลายคน ประเภทแทงสวนแล้วแทงผิด พอผิดก็สวิงเป็นสวนทุกเรื่อง อันนี้ต้องระวัง กล่าวโดยเฉพาะ กรณีการเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ พอเราไม่เห็นด้วยในบางเรื่องแล้วแทงสวนออกไป ปรากฏว่ามันแทงสวนผิด แล้วก็กลายเป็นสวิงเกลียดการเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ไปหมดทุกเรื่อง ไปมากกว่านั้นคือพร้อมที่จะทำลายการเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ด้วย
ในมุมกลับกัน ประเภทเชียร์ทุกเรื่องก็ไม่ไหว
ลองมองแบบเป็นเรื่องๆ เปิดใจให้กว้าง เช็คความคิดความรู้สึกของตัวเองบ่อยๆ กับพรรคการเมืองก็เช่นกัน ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก ผมว่าจะดีกว่ามากๆ
อีกเรื่อง มันมีสำนวนว่า ติเพื่อก่อ คือติติงติเตียนด้วยความหวังดี อันนี้ผมตามอ่านหลายคนแล้วดูออก หลายคนออกมาติเตียนคนรุ่นใหม่ด้วยความหวังดีจริงๆ (แม้การตินั้นบางครั้งก็อาจติเตียนผิด แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย) ซึ่งผมว่าคนรุ่นใหม่ต้องรับฟัง และขบคิดให้มากๆ ถกเถียงอย่างระวัง อย่าผลักให้คนหวังดีไปเป็นศัตรู
แต่มันมีอีกหลายคน…จ้องจะทำลายคนรุ่นใหม่เลย อันนี้กูก็ดูออกเช่นกัน อันนี้ผมว่าคนรุ่นใหม่ควรใส่ไม่ต้องยั้ง อย่าให้ได้เกิด
มันยากตรงต้องขบคิดว่าอันไหนมิตรอันไหนศรัตรูนี่แหละ เพราะถ้าเราไปใส่ไม่ยั้งกับมิตร อันนั้นคือเท่ากับผลักเขาเป็นศัตรูเลยทีเดียว’
ด้านนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ที่สวนครูองุ่น โดยระบุว่าเป็นความสวยงาม
ความว่า
‘สวยงามที่สวนครูองุ่น ทั้งรุ้งและชัชชาติต่างก็รู้ว่ามันทะลุเพดานไปแล้ว และมันจะไม่กลับมาที่เดิม’
