09.00 INDEX ปฏิมาใหญ่ ในทาง “ความคิด” จากก้าวของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
การเสนอคำว่า “เพื่อนร่วมงาน” จากปาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ภายหลังได้รับเลือกตั้งเป็น “ผู้ว่าฯกทม.” มีลักษณะของการปักธงในทาง “ความคิด” อันลึกซึ้งบนฐานแห่งความเท่าเทียมกันของคน
อาจไม่ทะลวงลึกในระดับเดียวกันกับที่ นายวิโรจน์ ลักขณา อดิศร เคยเสนอแต่ก็ถือได้ว่าเป็นบาทก้าวแรก
สัมผัสได้จาก “ปฏิกิริยา” อันมาจากเจ้าหน้าที่หลายระดับที่ทำ งานอยู่ภายใต้ร่มเงาของตึก “กรุงเทพมหานคร” ไม่ว่าจะที่เสาชิงช้า ไม่ว่าจะที่ดินแดงก็เป็นเรื่องน่ากลัว
บรรยากาศในการต้อนรับการเดินเข้าอาคารของกรุงเทพมหานครของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับ “ผู้ว่าฯกทม.” ทุกคนที่ผ่านมา
เป็นบรรยากาศอบอุ่น เป็นบรรยากาศแห่งความคาดหวังและความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันกว่า 200 นโยบายที่ตระเตรียมไว้เป็นอย่างดี
ยิ่งหากคนในอีก 70 จังหวัดนำภาพของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไปเปรียบเทียบกับการเข้ารับตำแหน่งของ “ผู้ว่าราชการจังหวัด” แต่ละคนในจังหวัดของตน ยิ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นจุดต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง “ผู้ว่าฯ” ที่มาจาก “เลือกตั้ง” กับที่มาจาก “การแต่งตั้ง”
ท่าทีของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ต่อบางคำพูดอันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะที่ว่า “คงต้องมาคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน เขาต้องมาอยู่แล้ว”
ไม่เพียงสะท้อนความเข้าใจต่อระบบราชการได้อย่างยอด เยี่ยม เป็นจริง หากเปี่ยมด้วยความสุภาพ และนอบน้อม
เข้าใจว่าในฐานะ “ผู้ว่าฯกทม.” อันเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นจำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” มิใช่หน่วยขึ้นตรงกับ “นายกรัฐมนตรี”
ขณะเดียวกัน ก็มองเห็นความจำเป็นของงานที่จะต้องเคลื่อนไปข้างหน้าของกรุงเทพมหานครเป็นอันดับแรก เพราะนี่อยู่ ภายใต้ “คำสั่ง” อันมาจากประชาชนทั้งที่เลือกและไม่เลือก
จึงมีทั้งความนอบน้อมและความแข็งแกร่งอย่างเป็นเอกภาพ
หากมองจากด้านของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สถานะที่ดำรงอยู่ใน ทางการเมืองภายหลังได้อาณัติจากชาวกรุงเทพมหานคร จึงไม่เพียงแต่รับผิดชอบต่อชาวกรุงเทพมหานครเท่านั้น
หากแต่ยังเป็น “ความหวัง” ต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา
โดยพื้นฐานคือการสำแดงให้เห็นถึงพลานุภาพแห่งกระบวน การประชาธิปไตยที่อำนาจอันยิ่งใหญ่เป็นของประชาชนผ่านกระบวนการของ “การเลือกตั้ง”
จึงทำทุกอย่างไปตาม “คำสั่ง” อันมาจาก “ประชาชน” แน่วแน่