รุมท้วงกมธ. เพิ่มบทเฉพาะกาล ยื้อใช้พ.ร.บ.ตำรวจ หวังอุ้ม 2 เด็กเส้นตั๋วช้าง เป็นผบ.ตร.

‘ก้าวไกล’ แฉ กมธ.เว้น กม.ปฏิรูปตำรวจ 180 วัน หวังอุ้ม ‘2 เด็กเส้นตั๋วช้าง’ เลื่อนตำแหน่ง ‘โรม’ ซัด กมธ.กำลังทำโผตำรวจ-เกิดสารพัดตั๋ว ช่วยคนท้ายบัญชีขึ้นเป็น ‘ผบ.ตร.’ ในอนาคต ด้าน ‘ชลน่าน’ ชี้ส่อเจตนาสืบทอดอำนาจ นำความอัปยศสู่วงการตำรวจ ขณะที่ ‘สมชาย’ บอกตำรวจขอมา สภาอย่าใจดำ สุดท้ายที่ประชุมเห็นด้วยกับ กมธ.

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว เป็นวันที่ 7 โดยช่วงเวลา 11.20 น. เข้าสู่การอภิปรายมาตรา 169/1 โดย นายอดิศร เพียงเกษ กมธ. อภิปรายว่า ก่อนที่จะถึงช่วงของการแต่งตั้งโยกย้าย ทาง ตร.ต้องรู้ร้อนรู้หนาวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้วว่าร่างกฎหมายตำรวจจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แล้วจะมาชักร่างกฎหมายเข้าออกแบบนี้ให้เปลืองค่าประชุม กมธ.ทำไม เราแก้ไขกฎหมายเพราะไม่ต้องการให้เกิดตั๋วที่ใหญ่กว่าม้า และเราต้องการให้เกิดการแต่งตั้งที่มีความยุติธรรม เมื่อ 169/1 ไม่มีตำหนิ แล้วจะมาแก้ไขทำไม ตนถามว่าสภาแห่งนี้เป็นเครื่องมือของใครหรือไม่ จะถอนไปเพราะคนใดคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังก็จะไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

ส่วน นายสาธิต วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับร่างกฎหมายนี้ มีคนเสียประโยชน์ แต่จะมีคนได้ประโยชน์ด้วย ต้องพูดให้หมด อะไรคือระหว่างบรรทัด ถ้าเรายอมให้ กมธ.แก้ไขรายงานที่พิจารณาเสร็จแล้วโดยไม่ยอมถอนร่างกลับไปแก้ไข จะกลายเป็นบรรทัดฐานนิติบัญญัติ ตนเป็นห่วงทั้งความไม่ปกติของข้อเสนอ และเป็นห่วงกระบวนการนิติบัญญัติที่เกิดขึ้น ถ้าเราเดินไปตามปกติ เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น ว่าจะคง 169/1 หรือตัด 169/1 ทิ้ง เพื่อไม่เป็นการโยนความรับผิดชอบให้รัฐสภา และเพื่อไม่ให้กระบวนการนิติบัญญัติต้องด่างพร้อย

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า มาตรา 169/1 ต้องบอกว่าเป็นมาตราที่เดิมจะต้องอ่านคู่กับมาตรา 69 ซึ่งมาตรา 169/1 สาระสำคัญคือการเขียนล็อกเอาไว้เลยว่าตำแหน่งต่างๆ นั้นจะต้องเป็นกี่ปี โดยวางกรอบระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่ พ.ร.บ.นี้ประกาศใช้ ประเด็นสำคัญคือ กมธ. รวมถึง ตร.ทราบอยู่แล้วว่ากฎเกณฑ์ในการโยกย้ายตำแหน่ง คุณสมบัติการดำรงตำแหน่งต่างๆ นั้นมีลักษณะประมาณใด ท่านรู้อยู่แล้วว่ากฎเกณฑ์กำลังจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ กมธ.ทำคือทำโผตำรวจ ในลักษณะที่ต่างกัน โดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา เราพิจารณากฎหมายฉบับนี้ได้ด้วยดี หลายเรื่องตนและพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยเลย แต่ก็ดีใจอยู่บ้างที่ในมาตรา 69 สุดท้ายมีการกำหนดปีเอาไว้อย่างชัดเจน อย่างน้อยที่สุดอาจจะป้องกันคนที่จะได้รับประเภท ”ตั๋วช้าง” เข้ามาดำรงตำแหน่งข้ามหัวคนอื่นได้

Advertisement

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณามาถึงตรงนี้อยู่ๆ ก็เสนอกัน ซึ่งการเสนอแบบนี้ตนคิดว่าเป็นการเสนอที่ผิด ถ้าเรายืนยันว่าทำกันแบบนี้ได้ ต่อไปนี้กฎหมายทุกฉบับก็เปลี่ยนกันหน้างานได้ ทั้งที่ในความเป็นจริง มาตรา 169/1 เราควรตัดทิ้งด้วยซ้ำไป เพราะมาตรา 69 ล็อกไว้อย่างชัดเจนว่าปีของการดำรงตำแหน่งต้องเป็นเท่าไหร่ เช่น คนที่จะขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.จะต้องเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.มาแล้ว 1 ปี คนที่จะขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.จะต้องเป็นผู้บัญชาการมาแล้ว 1 ปี อันนี้คือสิ่งที่เขียนล็อกเอาไว้ ซึ่งจะแตกต่างจากกฎ กตร.เดิม ในลักษณะที่สามารถยกเว้นได้ ถงแม้เนื้อหาสาระจะเขียนเหมือนกัน แต่กฎ ก.ตร.สามารถยกเว้นหลักเกณฑ์ตรงนี้ได้ และสิ่งที่แตกต่างจากเดิมคือคนที่ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.จะต้องมีอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าตำแหน่งว่างเท่าไหร่ก็คัดจากคนที่อาวุโสเท่านั้น ซึ่งจะไม่มีกรณีข้ามหัวคนอื่นเกิดขึ้น

“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีปัญหามาโดยตลอด และนำไปสู่การมีตั๋วช้าง และตั๋วตำรวจต่างๆ มากมาย ผมได้อภิปรายไปแล้วว่ามีตำรวจ 2 พันกว่าคน ที่ได้รับตั๋วและบางส่วนได้รับตั๋วช้าง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนไม่กี่คนที่ถูกข้ามหัว แต่ทำให้ความเชื่อต่อระบบคุณธรรมของวงการตำรวจพังทลายลง และวิธีการแบบนี้ไม่ได้กระทบกับตำรวจที่อยู่ในตำแหน่ง แต่กระทบกับครอบครัวของเขา ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันกับคนนับล้าน วันนี้ผมเชื่อว่าคนที่นั่งอยู่ในแห่งนี้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรากำลังจะอนุมัติให้เกิดตั๋วช้างอีกรอบ ท่าน กมธ.โดยเฉพาะท่านที่มาจาก ตร.ท่านรู้ดีว่ากำลังช่วยใคร สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ใช่แค่การวางตัวคนที่จะไปเป็นรอง ผบ.ตร.เท่านั้น แต่ผมได้ยินมาว่าลำดับท้ายๆ กำลังจะได้รับสิทธิในการข้ามหัวคนอื่นขึ้นมาเป็นรอง ผบ.ตร.แล้วปีถัดไปก็จะเป็น ผบ.ตร.

“และเหตุผลที่ กมธ.ต้องขอ 180 วัน ในการชะลอกฎหมายที่กำลังจะผ่านสภาออกไปก็เพื่อที่จะได้วางไข่ วางทายาทอสูร ตั้งแต่รอง ผบ.ตร.ไปจนถึงตำรวจระดับชั้นที่น้อยที่สุด ซึ่งก็คือช่วงเดือนเมษายน มากไปกว่านั้นท่านอ้างถึงการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมที่เขาอาจจะได้กลับมา เอาคนที่เสียหายจากการตัดสินใจของท่านมาเป็นเงื่อนไข ในการที่จะให้ตั๋วตำรวจกับแค่บางคน ซึ่งความจริงแค่ใช้กฎ ก.ตร.กับมาตรา 170 ก็ช่วยตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เนื้อหาแบบที่ กมธ.เพิ่งเสนอปรับแก้ใหม่เลย พูดกันตรงๆ พูดด้วยความจริง ท่านก็แค่ใช้โอกาสนี้ช่วยตำรวจบางคนเท่านั้น นี่คือสิ่งที่สภากำลังยอมให้เกิดระบบตั๋วเกิดขึ้นในวงการตำรวจ เป็นระบบที่ใช้ไม่ได้ ดังนั้น เราต้องหยุดยั้งระบบแบบนี้ จะปล่อยให้ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วแมว ตั๋วนก ตั๋วต่อ ตั๋วโต้ง ตั๋วอะไรก็แล้วแต่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปไม่ได้” นายรังสิมันต์กล่าว

Advertisement

พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายว่า ระหว่างที่คณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้ ทางตำรวจได้ทำข้อท้วงติงมาหลายเรื่อง แต่ตนไม่เห็นด้วย และเห็นว่าเป็นกระบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจทั้งประเทศกำลังจับตามองบุคคลเจ้าประจำที่ได้ตั๋วช้างช่วยมาตลอด เช่น ผู้บัญชาการสอบสวนกลางคนปัจจุบัน และผู้ช่วย ผบ.ตร.คนหนึ่งในขณะนี้ ซึ่งเขาจะครบเกณฑ์หนึ่งปีที่สามารถเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นได้ การขึ้นตำแหน่งรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. ถ้าเทียบเกณฑ์เก่ากับกฎหมายใหม่จะเหมือนกัน ไม่มีอะไรแตกต่าง แต่ถ้าไปดูในมาตรา 74 จะเห็นว่าการเลื่อนต้องเป็นไปตามเรียงคิว ตามหลักอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง 2 คนข้างต้นที่กล่าวถึง ขณะนี้อยู่ในลำดับอาวุโสท้ายแถว เพราะเขาใช้ตั๋วช้างยกเว้นหลักเกณฑ์มาหลายรอบ ถ้าบังคับใช้กฎหมายใหม่ในรอบนี้คงจะไม่ได้เลื่อนขึ้นแน่นอน แต่ถ้าเลื่อนออกไปอีก 180 วัน ตามที่คณะ กมธ.แก้ไข 2 คนดังกล่าวจะสามารถเลื่อนขึ้นได้ ดังนั้น ถ้าที่ประชุมรัฐสภามีมติผ่านเรื่องนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ตั๋วช้างคนดังกล่าวปีนี้จะได้เป็นรอง ผบ.ตร. และในปีหน้าก็จะสามารถขึ้นเป็น ผบ.ตร.ได้ ถามว่าเขาจะเป็นผู้นำองค์กรที่ตำรวจทั้งประเทศยอมรับได้อย่างไร จึงขอเสนอให้สมาชิกลงมติไม่เห็นด้วยกับที่ กมธ.ขอแก้ไขในมาตรา 169/1

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ตนพยายามต่อสู้ตั้งแต่ กมธ.เสนอจะแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 169/1 โดยการไม่เข้าร่วมประชุมแต่สู้ไม่ได้ ตนไม่เห็นด้วย กมธ.เสียงข้างมากที่แก้ไขมาตรานี้ เพราะส่อเจตนาอย่างชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์อะไรอยู่ ท่านอาจจะชี้แจงว่าเป็นความยุ่งยากของฝ่ายธุรกิจ ทั้งที่รัฐธรรมนูญให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจมาก โดยเขียนระบุไว้ถึง 3 มาตราคือ มาตรา 258 มาตรา 259 และมาตรา 260 เขียนชัดเจนจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าจะไม่ปฏิบัติตาม มีหลักประกันว่าข้าราชการตำรวจจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย ที่ต้องคำนึงถึงความอาวุโส และมีความรู้ความสามารถ ที่สำคัญคือมีความเป็นอิสระไม่ตกอยู่ในอาณัติของบุคคลใด การเพิ่มเติมนี้เป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 258 อนุ 4 อย่างชัดเจน เพราะไปเว้นบอกว่าภายใน 180 วัน การแต่งตั้งโยกย้ายให้ไปใช้กฎหมายหรือข้อบังคับเดิมที่ ก.ตร.ออก ทั้งที่ข้อบังคับเดิมที่ใช้อยู่เป็นเหตุให้ปฏิรูปกฎหมายตำรวจ แต่ท่านกลับมาเขียนกฎหมาย 2 ฉบับอยู่ในฉบับเดียวกัน แล้วแบบนี้จะปฏิรูปทำไม และเป็นการขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ถ้าท่านบอกว่าฝ่ายธุรการไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ก็อยากให้ดูหนังสือบันทึกข้อความ ลงวันที่ 20 มิถุนายน เรื่องประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับรองผู้กำกับ ถึงจเรตำรวจแห่งชาติ และรอง ผบ.ตร. เขียนไว้ว่าใครอาวุโสเท่าไหร่ โดยระบุระดับรอง ผบ.ตร. 3 คน และระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.มี 10 คน เขียนไว้หมด แล้วแบบนี้จะไม่ทันได้อย่างไร การแก้ไขจะทำให้การจัดลำดับอาวุโสในบันทึกดังกล่าวถูกทลายทั้งหมดภายใน 6 เดือน เพราะมีการเว้นเกณฑ์ไว้ และท่านสามารถไปจัดลำดับผู้อาวุโสที่ท่านจะวางไว้อีก 20 ปี ให้คนเหล่านี้ขึ้นมาครองอำนาจต่อในมุมของท่านได้ อยากถามว่า ท่านทำเพื่อใคร แล้ว กมธ.จะยอมเป็นเครื่องมือให้เขาหรือ ถ้าเรายอมผ่านมาตรานี้ไป จะเป็นการมอบความอัปยศให้กับวงการตำรวจ ตนจึงไม่สามารถเห็นชอบกับการแก้ไขของ กมธ.ได้จริงๆ

ส่วน นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธาน กมธ. ชี้แจงว่า ตนไม่มีญาติเป็นตำรวจ ดังนั้น การที่บอกว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคนได้ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วแมว หรือตั๋วอะไร ตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะมีทั้งคนได้และคนเสียพอกัน แต่สภาต้องออกกฎหมายแล้วต้องใช้ได้ อย่างไรก็ตาม มีตำรวจมาขอร้องว่าเกิดปัญหาตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ย้ายกลับลำบากถ้ากฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทันที ดังนั้น สภาจะใจจืดใจดำไม่ให้หรือ เพียงแค่ 180 วัน

จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับ กมธ.ที่เพิ่มขึ้นใหม่ 344 ไม่เห็นด้วย 181 งดออกเสียง 50 ไม่ลง 1 คน เป็นอันว่าที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับ กมธ.ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image