ฝ่ายค้านจ่อยื่นหนังสือ ‘ชวน’ ดึงผู้เชี่ยวชาญ กม.ให้ความเห็นศาลเพิ่ม เบรก ‘ประวิตร’ ใช้อำนาจจำกัด

‘ฝ่ายค้าน’ เตรียมทำหนังสือยื่น ‘ชวน’ ดึงผู้เชี่ยวชาญกฎหมายให้ความเห็นศาล รธน.เพิ่มเติม เบรก ‘บิ๊กป้อม’ อย่าใช้อำนาจเกินขอบเขตรักษาการนายกฯ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมผู้นำฝ่ายค้านและพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องปมวาระนายกฯ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และจะเชิญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการ กรธ. เพื่อไปให้การเป็นพยานต่อศาลเป็นลายลักษณ์อักษร ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าการที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ควรจะเชิญบุคคลมากกว่า 2 คน ซึ่งอาจจะเป็นอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ หรือประชาชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เป็นกลาง รวมถึงสื่อมวลชนที่เป็นกลาง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถาม พินิจ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม และเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

นายอดิศรกล่าวว่า ผู้นำฝ่ายค้านจะทำหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อเรียกบุคคลอื่นนอกจากนายมีชัยและนายปกรณ์มาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายจะทำการร่างหนังสือและส่งให้นายชวนอย่างด่วนที่สุด ส่วนใครจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมนั้น อยู่ในระหว่างการหารือและประสานบุคคลนั้น พร้อมทั้งจะแนบชื่อบุคคลไปในหนังสือคำร้องด้วย

นายอดิศรกล่าวด้วยว่า ส่วนการทำหน้าที่รักษาการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าการใช้อำนาจของรักษาการนายกฯต้องใช้อย่างจำกัดและระมัดระวัง ไม่ใช้อำนาจตามที่เนติบริกรบางคนได้อธิบายไปไกลจนถึงขั้นยุบสภา หรือโยกย้ายบุคลากรต่างๆ ซึ่งประเด็นการใช้อำนาจที่มีอยู่ในระยะเวลาสั้นๆ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ไปในทางใด จึงอยากให้ พล.อ.ประวิตรใช้อำนาจของตนเองอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพราะไม่อยากให้มองว่านายกฯรักษาการใช้อำนาจที่มีจำกัดจนเกินอำนาจที่มีอยู่

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงคิดว่านายมีชัยและนายปกรณ์จะให้ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อศาล นายอดิศรกล่าวว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือกัน เราอยากให้ฝ่ายที่เป็นกลางมีส่วนเพิ่มเติมความคิดเห็น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ซึ่งนายมีชัยและนายปกรณ์เป็นผู้ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนคนอื่นเป็นผู้เฝ้าติดตามตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญมาจนถึงปัจจุบัน ก็อยากให้มีหลากหลายความคิดเห็น เพื่อไม่ให้เอนเอียงไปทางไหน และเกิดความวางใจต่อสาธารณะมากยิ่งขึ้น

Advertisement

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระบวนการยื้อการพิจารณาเกิน 1 เดือน นายอดิศรกล่าวว่า คิดว่าใช้เวลา 1 เดือนน่าจะพอ ซึ่งจะเริ่มเมื่อไหร่ อย่างไร แต่ข้อเท็จจริงได้สิ้นสุดลงไปแล้วว่าใคร ทำอะไร ที่นี่อย่างไร เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงข้อกฎหมายที่มีการมองกันต่างมุมมอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image