ชีวิต ‘ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร’ อดีตคน กต.-พ่อของลูกปารีณา-ถูกโยงพ่อค้าอาวุธ

ชีวิต ‘เสี่ยอู’ อุปกิต ปาจรียางกูร อดีตคน กต.-พ่อของลูกปารีณา-ถูกโยงพ่อค้าอาวุธ

ข่าวทางการไทยจับกุม นายตุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา ใน คดียาเสพติด กับ ฟอกเงิน ทำให้ชื่อของ “เสี่ยอู” อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิก ส.ว. ปรากฏเป็นข่าวอีกครั้ง

หลัง นายอุปกิต เป็น 1 คนที่ Justice for Myanmar กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมในเมียนมา โยงให้เป็นเครือข่ายธุรกิจกับ นายตุน มิน ลัต นายหน้าค้าอาวุธให้กองทัพเมียนมา และฟอกเงินผ่านธุรกิจขายไฟฟ้า ที่ถูกทางการอังกฤษคว่ำบาตร โดยให้เหตุผลว่าเป็นความพยายามที่จะจำกัดการเข้าถึงอาวุธ และรายได้ของกองทัพเมียนมา

โดยรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าว 3 แหล่ง ระบุว่า นายตุน มิน ลัต ทำธุรกิจหลากหลาย ทั้งนายหน้าค้าอาวุธ โรงแรม พลังงาน และเหมืองแร่ ผู้จัดหาเสบียงอาหารให้กับกองทัพ โดยเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้นำรัฐบาลทหารพม่า มิน อ่อง ลาย

ที่สำคัญเคยมีภาพร่วมกับผู้นำรัฐบาลทหารในงานแสดงอาวุธที่ไทยด้วย

Advertisement

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวกระฉ่อนไปทั่วโลก โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ได้อ้างทางการไทยตีข่าวนี้ ก่อนที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ จะยอมรับเมื่อวันที่ 21 กันยายน ว่าการจับกุมเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของ 17 กันยายนที่ผ่านมาแล้ว

กระฉ่อนจนกระทั่ง นายอุปกิต ต้องออกมาชี้แจงสิ่งที่ถูกพาดพิง

“ไม่มีอะไร นายตุน มิน ลัต เข้าไปทำธุรกิจค้าขายไฟระหว่างท่าขี้เหล็กกับแม่สาย ซึ่งเป็นธุรกิจสุจริต โดยผมรู้จักกับบุคคลดังกล่าวมาเป็น 10 ปีแล้ว ยืนยันได้ เพราะเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ของพม่า มีความสนิทสนมกับผู้นำพม่าจริง ซึ่งผมกล้ารับประกันได้ว่าเขาไม่มีเรื่องยาเสพติด โดยเฉพาะผมและครอบครัวไม่มีประวัติด่างพร้อย เราทำธุรกิจกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องอย่างนี้” 

Advertisement

เขารับตรงๆ ว่า ระหว่างนายตุน มิน ลัต เคยทำธุรกิจร่วมกันจริง

แต่หลังจากมาเรียน วปอ.ได้รับการแต่งตั้งเป็น ส.ว.แล้วอยากเคลียร์ทุกอย่าง ไม่อยากเป็นมลทิน จึงได้ขายโรงแรมไป และเลิกธุรกิจหมดแล้ว โดยนายตุน มิน ลัต เป็นผู้รับทำธุรกิจไฟฟ้าต่อ

“ล่าสุด นายตุน มิน ลัต จะมาปักหลักทำธุรกิจไฟฟ้าที่เมืองไทย เขามีเงินทองทรัพย์สินที่โอนมาจากต่างประเทศ สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปทั้งหมดได้ เพิ่งซื้อคอนโดเพราะเตรียมที่จะมาอยู่ไทย ตอนนี้ก็โดนยึดหมด คิดว่าเป็นเรื่องของคดีที่เขาต้องพิสูจน์กับศาล”

“ที่ผ่านมาได้ติดต่อกับนายตุน มิน ลัต ตลอดเพราะรู้จักกันมา 20 กว่าปี ยืนยันว่าไม่ได้ขายอาวุธเถื่อน เขาเป็นตัวแทนอย่างถูกต้องขายให้รัฐบาลพม่า และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดแน่นอน แต่ไม่มั่นใจเรื่องความเชื่อมโยงระบบโอนเงินของเขา” นายอุปกิตยอมรับ

เป็นระบบโอนเงินจ่ายค่าไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งอาจจะมีพ่อค้ายามาเกี่ยวพัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องนี้กะฉ่อน นายอุปกิต ยอมออกสื่ออย่างเป็นทางการครั้งแรก เพื่อมาชี้แจงเรื่องนี้ทันที แม้ที่ผ่านมาตัวเขามักจะถูกพาดพิงเรื่องต่างๆอยู่เสมอก็ตาม

โดยเฉพาะจากประวัติเป็นอดีตสามีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเส้นทางของนายอุปกิตถือเป็น “นักธุรกิจชายแดน” ที่มีชื่อคนหนึ่ง

อดีตเคยเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนลาออกเมื่ออายุได้ 30 กว่าๆ เพื่อมาลุยธุรกิจชายแดนพม่า ในฝั่งท่าขี้เหล็ก ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการพนัน และยาเสพติด อย่างที่เขาระบุไว้

โดยเฉพาะที่สังคมรับรู้ เป็นธุรกิจโรงแรม Allure Resort Hotel ก่อนที่จะขายทิ้งไปก่อนที่จะรับตำแหน่ง ส.ว. เป็นเงินทั้งสิ้น 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงทิ้งธุรกิจไฟฟ้า ด้วยการยื่นลาออกจากบอร์ด บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA พร้อมขายล้างพอร์ตหุ้นเป็นเงินถึง 600 ล้านบาท

เขารับว่า “จุดเปลี่ยน” ที่ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับชายแดน เพราะได้เข้ามาลึกซึ้งกับพระพุทธศาสนา

“ผมจึงเข้ามากรุงเทพฯและมาเริ่มทำบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และไม่เคยเหยียบขาเข้าไปเลย 8-9 ปี ผมมาเรียนวปอ. หลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ส.ว.” นายอุปกิต ระบุ

นี่จึงเป็น “ที่มา” ทำให้เขาตัดสินใจขายธุรกิจที่ว่านั้นทิ้งไป 

สำหรับ นายอุปกิต ถือเป็น ส.ว.ที่มีทรัพย์สินอันดับต้นๆ ของสมาชิกทั้งหมด

แจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่าสถานะหย่า มีบุตร 4 คน บัญชีทรัพย์สินตอนรับตำแหน่งมีทั้งหมด 1,774,334,576 บาท

เป็นพ่อของลูกชายที่นายอุปกิตแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่า มีบัญชีเงินฝากเปิดร่วมกับ น.ส.ปารีณา ไว้เลี้ยงดูบุตร โดยนายอุปกิตโอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือนตั้งแต่ปี 2557 เดือนละ 250,000 บาท

ในครั้งเขาถือโอกาสชี้แจงเรื่องที่ถูกพาดพิงกับ น.ส.ปารีณา โดยรับว่า เขาผิดพลาดในเรื่องชีวิตคู่

“ผมโดนว่ามาตลอดว่า เป็นเหมือนกับเจ้าพ่อ ก็ไม่ทราบว่าทำไมต้องมาเขียนถึงผมตลอดเวลา ผมก็ผิดพลาดในเรื่องชีวิตคู่บ้าง ขอถามจริงๆ ต้องซ้ำเติมมั้ย เขาจะว่าอะไรก็ว่าไป และสื่อก็เขียนมาตลอด ทั้งที่ น.ส.ปารีณาก็หย่ากับผมไปนานแล้ว ซึ่งจริงๆชีวิตเขา ก็คือชีวิตเขา ชีวิตผมก็คือชีวิตผม แม้กระทั่งเขา ผมก็ไม่เคยตอบโต้อะไรเลย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว” นายอุปกิต ทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม “ตระกูลปาจรียางกูร” เพิ่งได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้

โดยช่วงปลายเดือนสิงหาคม คำว่า “ปาจรียางกูร” ปรากฏเป็นคำค้นยอดฮิตขึ้นกูเกิลเทรนด์ไทย โดยมีคนสนใจนำไปเสิร์ชใน Google ถึง 1 แสนครั้ง เพราะโยงเรื่องฮือฮา “นักธุรกิจหนุ่ม” อ้างตัวเป็นหลานรัฐมนตรีในคดีล่วงละเมิดดาราสาว

ซึ่งทั้ง 2 เป็นญาติกัน เด็กหนุ่มคนนั้นคือหลานของนายอุปกิต

ส่วน นายอุปกิต เป็นลูกชาย นายอุปดิศร์ ปาจรียางกูร อดีตรมต.ต่างประเทศ 3 สมัย คนที่ถูกหลานอ้างถึง

ถือเป็นคนในตระกูลดังยุคหลัง 6 ตุลา 2519 

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image