กทม.ผนึกตร. ตั้งคณะทำงานร่วม 4 ด้าน คุยเรื่องด่วน ‘เอเปค’ ติดกล้องเพิ่มกว่าร้อย ทยอยซ้อมแผนเผชิญเหตุ

กทม. ร่วมตำรวจ ตั้งคณะทำงาน 4 ด้าน พร้อมรับมือประชุมเอเปค

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

นายชัชชาติแถลงหลังการประชุมว่า วันนี้มีการพูดคุยประเด็นการตั้งคณะทำงานร่วมกันกับ ตร. 4 ด้าน ประกอบไปด้วย ด้านแรก Smart Safetyzone ซึ่งทาง ตร.ทำมาแล้ว 3 รุ่น โดยจะขยายไปพื้นที่ที่มีความเสี่ยง มีการติดกล้องซีซีทีวี กทม.ให้ความร่วมมือทำแสงสว่าง ป้ายบอกทาง ทำทางเดินเท้าให้ดี และบูรณาการกล้องซีซีทีวีกว่า 60,000 ตัว ร่วมกับ ตร.

ด้านที่ 2 การป้องกันปราบปรามยาเสพติด กทม.จะรับผิดชอบเรื่องการบำบัด การดูแลผู้ป่วย เก็บข้อมูลในชุมชน โดยจะมีชุมชนตัวอย่างต่อต้านยาเสพติดในแต่ละเขต ขณะที่ ตร.จะดูเรื่องการปราบปราม การจับกุม

Advertisement

ด้านที่ 3 การอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจะนำเทคโนโลยี ITMS มาใช้ ซึ่งจะมีการของบประมาณของส่วนกลาง

ด้านที่ 4 การจัดโซนนิ่งสถานบันเทิง โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาร่วมกัน เพื่อเสนอต่อทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป (อ่านข่าว ‘บิ๊กเด่น’ จ่อเสนอมหาดไทยปรับปรุงกม.โซนนิ่ง รองผบ.ตร.ตอบชาวเน็ต ปมแซะ ‘1 โรงพัก 1 บ่อนพนัน’ เทียบโอท็อป)

นายชัชชาติกล่าวว่า ส่วนเรื่องเร่งด่วน ประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมรับเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค มีการอบรมเจ้าหน้าที่ กทม. ทั้งพนักงานฝ่ายรักษา เทศกิจ เป็นหูเป็นตาสนับสนุนการทำงานฝ่ายความมั่นคง พร้อมกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มด้วย รวมถึง การอบรมความรู้ให้กับนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. ในการเอาตัวรอดสถานการณ์ฉุกเฉินที่คาดไม่ถึง เช่น เหตุกราดยิง การให้ความรู้การทำ CPR ต่อมาการแก้ปัญหาการจราจรในจุดฝืด ทั้ง 270 จุด จะมีการรณรงค์วินัยการจราจรในเดือนนี้

Advertisement

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทาง ตร.มีการจัดทำแผนเผชิญเหตุพร้อมรับการประชุมเอเปค ป้องกันเหตุอาชญากรรม เหตุเพลิงไหม้ การก่อเหตุการณ์ไม่สงบ โดยต้องขอความร่วมมือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กทม. เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตา พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีกกว่า 100 ตัว ทั้งนี้ มีการเริ่มทยอยซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมขบวนเส้นทางของผู้นำที่จะมาร่วมประชุมไปบ้างแล้ว

ส่วนการติดตามด้านการข่าวกลุ่มที่อาจจะเคลื่อนไหวในการประชุมเอเปค ตำรวจมีการติดตามด้านการข่าว และขอความร่วมมือกลุ่มที่จะแสดงออก ให้คำนึงถึงประเทศชาติ

“ทางตำรวจมีการติดตามกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่อยากจะขอความร่วมมือว่านี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องที่คิดอะไรจะทำไร บางทีความเห็นต่างต้องเก็บไว้บ้าง เพราะการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้าภาพร่วมกันของประชาชน ไม่ใช่ของรัฐบาลคนเดียว ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดีก็จะเป็นหน้าตาของประเทศไทย” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนช่วงวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565 รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT จะไม่จอดที่สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และปิดถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมรถ Shuttle Bus ให้บริการ พร้อมเสริมวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image